สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 609

ดวงตาหร่วนซิงหว่านจ้องมองไปทางอื่น เพื่อหลบสายตาของเขา "ก็...ก็พอกันนั่นแหละ ยังจะมีอะไรอีก"

โจวฉือเซินบีบปลายคางของเธอ พลางใช้เรี่ยวแรงบังคับให้สายตาของเธอหันกลับมา พูดอย่างช้าๆ อ้อยอิ่ง "งั้นดูแล้ว คุณรู้จักผมยังไม่ชัดเจนพอ"

ริมฝีปากบางของชายหนุ่มเพิ่งคล้อยต่ำลงมา หร่วนซิงหว่านผลักเขา "คุณลุกขึ้น ฉันมีเรื่องต้องคุยกับคุณ"

"มีเรื่องอะไรที่ต้องลุกมาคุยกัน?"

หร่วนซิงหว่าน "..."

มือเธอบิดบริเวณช่วงเอวโจวฉือเซินไปหนึ่งที อีกคนก็ส่งเสียงฮึมฮัมออกมา

หร่วนซิงหว่านฉวยจังหวะผุดลุกออกจากใต้ร่างกายของเขา และพลิกตัวลงจากเตียง

เธอควานหาภายในห้องอยู่รอบหนึ่ง หากระดาษกับปากกาไม่เจอ

โจวฉือเซินนั่งอยู่ข้างเตียง มือทั้งสองข้างค้ำยันทางด้านหลัง สายตาเคลื่อนไหวไปตามร่างกายของเธอ "หาอะไรอยู่ครับ?"

"กระดาษกับปากกา มีมั้ยคะ?"

"ไม่มีนะ โทรศัพท์หาเคาน์เตอร์ ให้พวกเขาเอาขึ้นมาให้"

ใช่สิ

หร่วนซิงหว่านเดินไปถึงหัวเตียง และกดโทรศัพท์ไปหาเคาน์เตอร์ทันที

หลังจากนั้นสิบนาที พนักงานของโรงแรมก็นำกระดาษกับดินสอมาให้

หร่วนซิงหว่านนั่งอยู่บนโซฟา สงบจิตสงบใจได้ และรีบร่างเส้นลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปสักพัก โจวฉือเซินนั่งอยู่ด้านข้างของเธอ และกอดเอวเธอทางด้านหลัง และเอาปลายคางพาดอยู่บนหัวไหล่ของเธอ "วาดรูปอะไรนะ ไม่ใช่บอกว่ามีเรื่องคุยกับผมเหรอ?"

หร่วนซิงหว่านพูด "เดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ"

ทั้งพูด แถมเธอยังตีมือนั้นที่อยู่ตรงช่วงเอว พลันตีสีหน้าจริงจังแถมเคร่งขรึม "ปล่อยค่ะ"

โจวฉือเซินทำได้แต่หดมือกลับไป และเอนหลังพิงโซฟาทางด้านหลัง และมองเธอที่กำลังวาดรูป

รอประมาณยี่สิบนาที บนกระดาษสีขาว พลันปรากฏใบหน้าชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นมา หร่วนซิงหว่านเพิ่มเติมรายละเอียดอย่างระมัดระวังมากขึ้น

สายตาโจวฉือเซินมองรูปที่อยู่บนกระดาษ พลางหรี่นัยน์ตาดำ

จู่ๆ เขาก็เปิดปากพูดอย่างกะทันหัน "ตอนคุณวาดรูปผม ยังไม่เห็นว่าคุณจะจริงจังขนาดนี้เลย?"

หร่วนซิงหว่าน "..."

พลางมองภาพวาดที่ใกล้จะแล้วเสร็จที่อยู่ด้านหน้าแล้ว หร่วนซิงหว่านเอามาวางทางด้านหน้าโจวฉือเซิน "นี่คือเจียงซ่างหานค่ะ"

"เดาได้อยู่ ดังนั้นผมเลยไม่เข้าใจ ทำไมคุณถึงพูดว่าพอๆ กับผม"

เปลือกตาหร่วนซิงหว่านกระตุก พลางมองเขาอย่างไร้ความรู้สึก

โจวฉือเซินพูด "คุณพูดต่อ"

"ทว่าฉันวาดท่าทางของเขาไม่ได้ แต่ฉันรู้สึกว่า..." หร่วนซิงหว่านเงียบสักพัก ถึงได้พูดต่อ "จากมุมมองบางมุม เขากับคุณ หน้าตาละม้ายคล้ายกันอยู่นิดหน่อย"

"คุณตั้งใจจะพูดว่า เขาเป็นลูกนอกสมรสที่ถูกชายชราไข่ทิ้งไว้ข้างนอกอีกคน?"

"นั่นก็น่าจะเหมือนโจวจู้นเหนียนสิ มันเกี่ยวข้องอะไรกับคุณ!"

โจวฉือเซินเลิกคิ้ว "เหรอ"

หร่วนซิงหว่านขี้เกียจสนใจเขา พลางพูดต่อ "ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินคุณพูดมา ตัวคุณนอกจากน้าสวี่แล้ว ก็ไม่เคยเห็นญาติคนอื่น ดังนั้นฉันกำลังคิดว่าจะเป็นไปได้มั้ย..."

โจวฉือเซินลูบเส้นผมของเธอ "ที่รักครับ คุณคิดมากเกิน ไม่เคยเจอก็เพราะว่าพวกเขาต่างตายกันไปหมดแล้วนะสิ"

หร่วนซิงหว่านตะลึงไม่กี่วินาที "แต่คุณก็พูดออกมาเอง เรื่องนี้คุณไม่เคยถามน้าสวี่มาก่อนใช่มั้ยคะ"

"ไม่เคยถาม แต่ตรวจสอบแล้วครับ"

ชั่วครู่ หร่วนซิงหว่านถึงได้ส่งเสียงตอบรับ "งั้นอาจจะเป็นฉันคิดมากไปแล้ว"

เธอเองก็เจอกับเจียงซ่างหานได้ไม่กี่ครั้ง ซึ่งรู้สึกว่าเขาเหมือนโจวฉือเซิน เพียงแต่วินาทีที่ได้เจอหน้าเขาในครั้งแรกนั้น อาจจะเป็นแค่ความรู้สึกผิดพลาดไป

"ไม่ใช่หัวค่ำแล้ว นอนเถอะนะ"

โจวฉือเซินพลางเหลือบมองรูปบนกระดาษที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์หน้าโซฟา นัยน์ตาเคร่งขรึมลงเล็กน้อย ริมฝีปากบางรูปกระจับพลางเม้มเล็กน้อย

หร่วนซิงหว่านวาดรูปได้ดีมาก และสามารถวาดสีหน้าของเจียงซ่างหานออกมาได้

ฝั่งปลายสาย หลินหนานตะลึงทันที พลันส่งเสียงตอบรับทันควัน "ผมจะออกคำสั่งเดี๋ยวนี้ครับ"

โจวฉือเซินส่งเสียงตอบในลำคอ พลางเก็บโทรศัพท์ และมองไปสถานที่ไกลๆ ทางด้านนอก

ตอนนี้ริมแม่น้ำไม่มีคนแล้ว มีแค่เรือข้ามฟากที่อยู่ไกลๆ ที่ส่องแสงสว่างอยู่ริบหรี่

......

หร่วนซิงหว่านนอนหลับจนเลยช่วงหลังเที่ยงคืนไปแล้ว และรู้สึกว่าข้างกายมีคนเพิ่มอีกคน เธอลืมตางัวเงีย โดยเริ่มไม่ชัดเจนในเวลานั้น ตกลงว่าตนเองให้อภัยเขาแล้วหรือยัง

ไม่รอให้เธอเคลื่อนไหวอะไร โจวฉือเซินดึงเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดทันที น้ำเสียงดูเหนื่อยล้า "หลับตา แล้วนอนต่อนะครับ"

หร่วนซิงหว่านหลับตาและนอนต่อด้วยความงัวเงีย ชายหนุ่มรุกล้ำหนักกว่าเดิม พลางสอดมือเข้ามาในชุดนอน เหนี่ยวรัดเอวคอดกิ่วของเธอเอาไว้แน่น

และไม่รู้ว่าต้นเหตุมาจากสองวันนี้นอนหลับมากเกินไปหรือเปล่า ตะวันเพิ่งจะสาดส่องเข้ามาบางๆ หร่วนซิงหว่านก็ตื่นแล้ว ซึ่งความรู้สึกไม่อ่อนปวกเปียกเหมือนเมื่อวันก่อน เพราะรู้สึกพลังเต็มเปี่ยมและแข็งแกร่ง

เธอมองชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับอยู่ด้านข้าง มือค่อยๆ ลูบหัวคิ้วที่ผูกเป็นโบของเขา ความจริง เธอจะไปโทษโจวฉือเซินอะไรได้อีกล่ะ

หลักการเหล่านั้นตัวเธอเองชัดเจนทั้งหมดแล้ว

พูดกันแล้ว เธอเคยโกรธ หลายครั้งเธอก็เข้าใกล้เขตแดนความจริง ทว่ากลับถูกเขาหลอกล่ออย่างง่ายดายให้ผ่านไป เธอเองยังอยู่ในเขตแดนความรู้สึกความล่มสลาย

หากเธอไปรับลูกกลับมาจริงๆ ทว่าโจวฉือเซินไม่สามารถปกป้องให้เจ้าตัวน้อยไว้ได้

เวลาที่ผ่านพ้นไป เธอรู้สึกบ่อยครั้ง ว่าการมีเด็กคนนี้อยู่ สำหรับโจวฉือเซินไม่มีความหมายใดๆ สำหรับเขาแล้ว เป็นภาระและเป็นโซ่ตรวน และเป็นความยุ่งยากที่อยากจะปล่อยวางโดยเร็วมากขึ้น

กระทั่งลูกป่วย และต้องมาเมืองเจียงโจวต่ออีก

เธอถึงค้นพบว่า ระดับความห่วงใยโจวฉือเซินที่มีต่อลูก มันเหนือขั้นเกินกว่าที่จะเธอจะรับรู้

เพียงแต่วิธีการแสดงออกไม่เหมือนกันก็เท่านั้นเอง

โจวฉือเซินคนนี้ นิสัยเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ปากแข็งแต่จิตใจอ่อนโยน

แม้ว่าเขาพูดออกจากปากว่ารังเกียจ แต่ก็ไม่ได้ทุ่มเทน้อยหน้าไปกว่าใคร

ตั้งแต่ที่ลูกเกิดถึงตอนนี้ เขาแบกรับทุกอย่างเอาไว้คนเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว