โจวฉือเซินเดินได้ก้าวหนึ่งก็ถูกดึงมือเอาไว้
เขาหันกลับมา มองหร่วนซิงหว่านไม่รู้ว่าเธอลืมตาตั้งแต่เมื่อไหร่ มองเขาไม่พูดไม่จาสักคำ
โจวฉือเซินกุมมือของเธอเอาไว้ "วางใจเถอะ หลังจากวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะจบสิ้นลงแล้วล่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นมื้อเย็นคุณอยากทานอะไรเดี๋ยวฉันทำให้"
มุมปากโจวฉือเซินยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย "คุณทำอะไรผมก็ชอบหมดนั่นแหละ"
ดวงตาของหร่วนซิงหว่านโค้งลงอย่างช่วยไม่ได้ ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า พูดพึมพำเบาๆว่า "เอาอีกแล้ว"
"ผมเคยหลอกคุณด้วยเหรอ?"
หร่วนซิงหว่านปล่อยมือเขา "รู้แล้วรู้แล้ว คุณรีบไปเถอะ"
โจวฉือเซินเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็เดินกลับมาจุมพิตลงบนปาก "รอผมกลับมานะ"
"อือ......"
หลังจากที่โจวฉือเซินไปแล้ว หร่วนซิงหว่านนอนลงบนเตียงและหลับตาลง แต่กลับนอนไม่หลับ เธอลุกขึ้นนั่ง ทึ้งผมตัวเองแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูเวลา
เจ็ดโมงครึ่งพอดี
หร่วนซิงหว่านหาวเลิกผ้าห่มลุกขึ้นจากที่นอน
9:00 น
ในขณะที่เพ้ยซานซานและเจียงชูหนิงเข้ามา พวกเขาเห็นอาหารเช้าที่หอมกรุ่นและประณีตบรรจงวางอยูู่เต็มโต๊ะก็อ้าปากค้างรีบนั่งลงบนพื้น
"วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรเหรอ?" เพ้ยซานซานถาม
หร่วนซิงหว่านออกมาจากห้องครัว "เปล่าหรอก ฉันเห็นว่าในตู้เย็นมีวัตถุดิบค่อนข้างเยอะเห็นว่าสดใหม่ก็เลยทำน่ะ"
เจียงชูหนิงพูด "แต่.........เยอะขนาดนี้พวกเราจะกินหมดเหรอ"
"ไม่เป็นไร พวกเธอก็เอาที่พวกเธออยากทานออกมา ที่เหลือฉันเก็บใส่กล่องไว้เอาไปที่สตูดิโอ" หร่วนซิงหว่านพูดพลางวางของที่อยู่ในมือของหลินหนานลง แล้วก็กลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง "จริงสิ มื้อเย็นนี้พวกเธอจะทานข้างนอกหรือจะสั่งเข้ามาทาน"
"ทำ......."
เจียงชูหนิงกำลังจะเปิดปากก็ถูกเพ้ยซานซานกระแทกเข้าที่แขน
เพ้ยซานซานพูดว่า "ดีเลย พอดีฉันจะพาหนิงหนิงไปเที่ยวดูรอบๆ มหาวิทยาลัยของพวกเรา ที่นั่นของกินเยอะมาก"
หร่วนซิงหว่านพยักหน้า "ดีเลย"
หลังจากที่รอหร่วนซิงหว่านเข้าไปในครัว เพ้ยซานซานพูดกับเจียงชูหนิงว่า "เธอโง่หรือไงเนี่ย ก็เห็นเห็นอยู่ว่าวันนี้พวกเขากำลังจะใช้เวลาด้วยกันสองคน เธอจะไปเป็นก้างขวางคอทำไม"
เจียงชูหนิงตอบสนองทันทีหลังจากที่เข้าใจแล้ว เธอรีบปิดปากตัวเองทันที แสดงออกว่าเธอผิดไปแล้ว
เพ้ยซานซานลูบแขนของเธอ "พอแล้ว พวกเราก็กลับช้าหน่อย พอกลับมาแล้วก็ทำอะไรเบาๆ อย่ารบกวนพวกเขาก็พอ"
......
โจวซื่อกรุ๊ป
ยังไม่ถึงเวลาเข้าทำงาน พนักงานทั้งหมดโดยรวมแล้วกลับมากันครบ อีกทั้งบรรยากาศยังตึงเครียดเป็นประวัติการณ์
ทุกบริเวณที่พักดื่มชาส่วนใหญ่แล้วถูกจับจองไปด้วยพนักงานที่กำลังพูดคุยกัน
"พวกเธอคิดว่าบอร์ดบริหารครั้งนี้กำลังจะทำอะไรกันแน่ เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันได้ยินข่าวลือบางอย่าง รู้สึกไม่สงบใจเลย"
"ไม่ใช่เรื่องประธานโจวที่กำลังเตรียมตัวออกจากตำแหน่งประธานบริษัทโจวซื่อกรุ๊ปเหรอ?ฉันก็ได้ยินมา แต่รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้"
"ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ โจวซื่อกรุ๊ปช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเธอยังไม่รู้ชัดอีกเหรอ ประธานโจวปลดผู้ที่รับผิดชอบในส่วนของบริษัทลูกพวกนั้นกลับมาทั้งหมดยังไม่พอ โจวซื่อกรุ๊ปในตอนนี้โครงการร่วมที่สำคัญสองสามโครงการต่างก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ได้ยินมาว่าหุ้นของโจวซื่อกรุ๊ปก็......"
"หึ เรื่องแบบนี้พูดไปเรื่อยไม่ได้หรอก"
"ถ้าประธานโจวกำลังจะออกจากตำแหน่ง เช่นนั้นแล้วใครจะมาบริหารโจวซื่อกรุ๊ปกันล่ะ ?"
"ประธานโจวเองไม่ใช่ว่ามีพี่ชายอยู่เหรอ อาจจะเป็นเขาก็ได้"
ดังนั้นเมื่อโจวฉือเซินมาถึง บอร์ดบริหารต่างก็ส่งเสียงคัดค้านขึ้น
โจวฉือเซินนั่งประจำที่ ไม่ได้ขัดจังหวะเพียงแต่ฟังอย่างเงียบ ๆ
บอร์ดบริหารกลุ่มหนึ่ง หลังจากพูดคุยกันเป็นเวลาห้านาทีเต็ม จึงหยุดดื่มน้ำพักหายใจหายคอ
โจวฉือเซินพูดอย่างไม่เร่งรีบ "ทุกท่านพูดจบแล้วใช่ไหมครับ?"
กรรมการอาวุโสท่านหนึ่งกล่าวว่า "พูดจบแล้ว หวังว่าประธานโจวจะนำข้อคิดเห็นของพวกเราไปพิจารณาอย่างถี่ถ้วน"
โจวฉือเซินพูด "เรื่องนี้ผมได้มีการตัดสินใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้"
"คุณ......"
โจวฉือเซินพูดต่อว่า "เรื่องภายหลังที่ออกจากโจวซื่อกรุ๊ปแล้ว ผมได้มีการจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว ในโครงการความร่วมมือนั้นจะดำเนินการตามปกติ ผลประโยชน์ของพวกท่านทุกคนจะไม่เกิดความเสียหายใดๆ
กรรมการบางส่วนกระแอมไอต่อกันสองสามครั้ง "คุณกำลังพูดเรื่องอะไรของคุณอยู่ พวกเราไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย"
"ทุกอย่างในโลกนี้มีไว้เพื่อผลประโยชน์ พวกคุณตั้งแต่แรกเหตุผลที่อยู่ข้างผม ผมรู้ดีว่าทำไม" โจวฉือเซินวางมือบนโต๊ะแล้วพูดต่ออย่างใจเย็น "เรื่องตัวตนที่เป็นลูกชายนอกสมรสของผม แน่นอนว่าพวกคุณบางคนเองก็ไม่พอใจมานาน คุณรู้สึกว่าชื่อเสียงที่มีมลทินนี้ที่ติดอยู่กับผมอาจทำให้โจวซื่อกรุ๊ปแปดเปื้อน"
ประโยคนี้แทงใจเหล่าคณะกรรมการผู้อาวุโสทั้งหลายเข้าอย่างจัง
พวกเขาเคยรู้สึกไม่พอใจกับการเป็นลูกนอกสมรสของโจวฉือเซิน แต่ทว่ามันก็เป็นเพียงแค่การวิจารณ์ในที่ลับไม่กี่ครั้งเท่านั้น อีกอย่างใครกันอยากจะมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ เงินปันผลที่โจวฉือเซินปันมาให้มากกว่าครั้งที่นายท่านโจวดำรงตำแหน่งดูแลโจวซื่อกรุ๊ปตั้งหลายเท่า
ณ ขณะนี้กรรมการท่านหนึ่งที่นั่งเงียบมาโดยตลอดเอ่ยขึ้นว่า "ประธานโจวสามารถดำรงตำแหน่งได้จนถึงบัดนี้ นั่นก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าตัวตนและความสามารถนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน"
ได้ยินดังนั้นคณะกรรมการที่เหลือต่างก็ตอบไล่เลี่ยกันว่า "ใช่ๆๆ นั่นก็เป็นเพียงแค่สถานะเท่านั้นที่สำคัญที่สุดคือตระกูลโจวตอนนี้เหลือเพียงแค่ประธานโจวเท่านั้น ถ้าหากคุณออกจากตำแหน่ง ก็หมายความว่าโจวซื่อกรุ๊ปขณะนี้ก็ไร้ซึ่งผู้นำแล้วอย่างนั้นหรือ?"
โจวฉือเซินพูดเบาๆว่า "พวกคุณคงจำพี่ชายคนโตของผมได้"
ทุกคนยุติการสนทนาโดยทันที ได้แต่มองหน้ากันไปมา
"ถ้าเทียบกับผมแล้ว เขาต่างหากที่เป็นทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงคนเดียวของตระกูลโจว และโจวซื่อกรุ๊ปก็สมควรเป็นของเขาด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...