เมื่อรอให้หร่วนซิงหว่านนอนและตื่นขึ้นมา แดดข้างนอกก็ไม่ได้ร้อนแผดเผาแยงตาขนาดนั้นแล้ว
ชาวเมืองก็ค่อยๆ ปรากฏตัวกันออกมาทีละคนสองคน
ไม่รู้ว่าความสนใจของหร่วนซิงหว่านมาจากไหน เธอลุกขึ้นมาแต่งหน้า ทาปาก ก่อนจะหันไปพูดกับโจวฉือเซินที่พิงกรอบประตูมองเธออยู่ว่า "ฉันเสร็จแล้ว ไปกันเถอะ"
ดวงตาสีดำขลับของโจวฉือเซินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม "สวยมาก"
หร่วนซิงหว่านมีภูมิต้านทานกับคำพูดหวานๆของเขาแล้ว เธอจัดการผมของตัวเอง "ขอบคุณค่ะ ฉันรู้"
ปากบางของโจวฉือเซินยกขึ้น "ไปกัน"
แดดข้างนอกกำลังพอดี ไม่ร้อนเกินไป คนในหมู่บ้านทักทายพวกเขาอย่างอบอุ่น
หร่วนซิงหว่านยิ้มน้อยๆ ตอบรับทีละคน
หมู่บ้านนี้ไม่ใหญ่ ไม่นาน ก็เดินเล่นเกือบทุกที่แล้ว
ไม่ไกลจากหมู่บ้านก็คือทะเลสาบเทคาโป เป็นเหมือนสถานที่ที่ห่างไกลจากโลกมนุษย์ สงบไร้คลื่น น้ำทะเลสาบใสดุจคริสตัลสะท้อนเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ที่รายล้อมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี
ริมทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ มีชาวบ้านกับนักท่องเที่ยวสองสามคนที่กำลังตกปลาอยู่
ทิวทัศน์ทั้งหมดงดงามราวกับภาพวาด
หร่วนซิงหว่านอดไม่ได้ที่จะนำโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป จากนั้น เธอก็หันไปมองโจวฉือเซิน
โจวฉือเซินรู้ว่าเธอคิดอะไร ยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์มา พยักเพยิดหน้าให้เธอ "ไปสิ เดี๋ยวผมถ่ายรูปให้"
หร่วนซิงหว่านวิ่งเหยาๆไปยังริมทะเลสาบ ก่อนจะทำท่าชูสองนิ้ว
ถ่ายไปได้สองสามรูป จู่ๆเธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เธอเชื่อใจโจวฉือเซินขนาดไหนกันถึงได้ให้เขาถ่ายรูป
หร่วนซิงหว่านเดินไปหยิบโทรศัพท์มาจากมือของโจวฉือเซิน ก่อนจะเปิดฟังก์ชัน9ช่องในกล้อง
ก่อนจะหันไปพูดกับโจวฉือเซิน "ถ้าถ่ายครึ่งตัว คนจะต้องอยู่ในสี่เฟรม"
เธอพูดพลางชี้ให้เขาเห็น "สี่อันนี้ สี่อันนี้ ได้หมดเลย"
โจวฉือเซินใช้สายตาประหลาดมองไปยังเธอ ปากบางขยับน้อยๆ ราวกับลังเลที่จะพูด
ผ่านไปสักพัก เขาจึงพูดว่า "คุณอยากถ่ายเต็มตัวหรือครึ่งตัว"
หร่วนซิงหว่านรู้สึกว่าเขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไปเมื่อตะกี้
ช่างเถอะ
หร่วนซิงหว่านพูดอย่างใจกว้างว่า "อะไรก็ได้"
โจวฉือเซินหยิบโทรศัพท์กลับมา "ไปสิ"
หร่วนซิงหว่านกลับมาที่ริมทะเลสาบอีกและคิดว่ามันคงไม่เลวนักถ้าจะต้องถ่ายรูปอีกสักหน่อย และหนึ่งในร้อยนั่นจะต้องถูกเลือกมาสักรูปอย่างแน่นอน
ถ่ายรูปไปได้สักพัก ก็มีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งเดินผ่านมาทางพวกเขา
โจวฉือเซินเรียกเขา ใช้ภาษาอังกฤษถามว่า สามารถถ่ายรูปให้พวกเขาสักสองสามรูปได้ไหม
ชาวต่างชาติมีเคราตอบด้วยรอยยิ้มว่า "of course"
โจวฉือเซินนำโทรศัพท์ส่งให้เขา เดินไปข้างๆหร่วนซิงหว่าน
หร่วนซิงหว่านกำลังจะพูดอะไร แต่โจวฉือเซินก็โอบเอวของเธอก่อน และพูดเสียงต่ำว่า "มองกล้องที่รัก"
เมื่อตอนที่เธอยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เพ้ยซานซานชอบลากหร่วนซิงหว่านไปถ่ายรูปทุกที่ เธอจึงถ่ายรูปขึ้นกล้องและโพสท่าได้ดีมาก
เธอคุ้นเคยกับการถ่ายรูปคนเดียว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ถ่ายสองคน เธอจึงย่อมจะรู้สึกเกร็งเล็กน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คาดว่าโจวฉือเซินคงรู้สึกถึงความคิดของเธอ จึงพูดข้างหูเธอว่า "เป็นธรรมชาติหน่อย นี่ไม่ได้ถ่ายภาพแต่งงานนะ ไม่ต้องเกร็ง"
หร่วนซิงหว่าน "......"
มือของเธอที่อยู่ข้างหลัง อดไม่ได้ที่จะบิดไปยังเอวของโจวฉือเซิน
เมื่อได้ยินเสียงอู้อี้ของชายหนุ่ม รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็กว้างขึ้นมาก
ด้วยรอยยิ้มนี้ ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยก่อนหน้าก็อันตรธานหายไป
"ไม่สิ" หร่วนซิงหว่านพูด "ฉันก็แค่แปลกใจ การปีนเขาและตีกอล์ฟเป็นเรื่องปกติในแวดวงสังคมธุรกิจ คุณจะทำได้ก็ปกติมาก แต่ไอ้เรื่องดีดกีตาร์กับถ่ายรูปนี่ ต่างก็เป็นสิ่งที่พวกลูกคนรวยที่ว่างงานเขาทำกัน คุณมีเวลาไปเรียนเรื่องพวกนี้ได้ยังไง?"
"คนเก่งย่อมต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น"
หร่วนซิงหว่าน "......"
โจวฉือเซินพูดอีก "ที่คุณพูด ตาเฒ่าให้ผมไปเรียน ส่วนอย่างอื่น ก็เพื่อเปลี่ยนเรื่องคิดในเวลาเหนื่อย"
หร่วนซิงหว่านอดไม่ได้ที่จะอุทานในใจ แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการที่จะยอมรับ แต่โจวฉือเซินฉลาด แล้วก็มีความสามารถจริงๆ
ไม่แปลกใจที่จะมีคนมากมายไม่ชอบเขา แต่กลับกำจัดเขาไม่ได้
เดินไปได้สักพัก เงาสะท้อนของพระอาทิตย์ที่กำลังตกก็ปรากฏบนทะเลสาบ
หร่วนซิงหว่านพูด "พวกเราควรกลับเลยไหมคะ?"
โจวฉือเซินมองไปไกลๆ "ตรงนั้นมีโบสถ์ ไม่ไปดูเหรอ?"
หร่วนซิงหว่านมองไปตามสายตาเขา เห็นเป็นเงาลางๆ เป็นโบสถ์ที่สวยงามมาก
เธอพูด "ไปกัน"
พระอาทิตย์เพิ่งจะตกดินในตอนนี้ และยังคงอีกครู่หนึ่งก่อนที่ฟ้าจะมืด
เธอเดินเลาะริมทะเลสาบ ตรงไปยังทิศทางของโบสถ์
เมื่อใกล้จะถึงโบสถ์ หร่วนซิงหว่านก็เห็นว่า ไม่รู้ว่าใต้เท้ากลายเป็นพรมกลีบดอกไม้ไปตอนไหน
บริเวณโดยรอบ ถูกจัดแต่งไว้อย่างประณีตแล้ว มีความงามที่แตกต่างกันออกไปในยามพระอาทิตย์ตกดิน
หร่วนซิงหว่านพูด "หรือเราไม่ไปกันดีคะ ที่นี่น่าจะมีคนแต่งงานกันอยู่"
โจวฉือเซินหันไปทางเธอ "คุณเคยเห็นงานแต่งงานในโบสถ์ตอนกลางคืนไหม?"
"นั่นก็......"
หร่วนซิงหว่านจะพูด แต่กลับถูกเขาจูงมือเดินตรงไปยังด้านหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...