ตอนที่402 สาวใช้ตัวแสบ306
คนที่เคยติดตามเขา ล้วนเป็นหลานชายของพ่อบ้าน ตอนที่ถูกไล่ออกเขายังให้เงินหนึ่งแสนเพื่อให้ไปเปิดร้านเล็กๆ และยังเป็นการไล่ออกที่กระทำความผิดอีกด้วย
สถานะของเซี่ยชีหรั่น แม้ว่าวันหนึ่งเขาอาจจะไม่ได้มีความรู้สึกดังเช่นวันนี้กับเธอแล้ว เขาก็จะเตรียมชีวิตหลังจากนั้นให้เธอ รับประกันว่าเธอจะ ไม่ขาดแคลนเสื้อผ้าอาหารตลอดชั่วชีวิต และจะมีชีวิตที่สะดวกสบายกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่แน่นอน
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้กังวลเรื่องนี้ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนใจกว้าง”
“แล้วทำไมจะต้องหางานทำ? ฉันทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยขนาดนั้นเลยเหรอ?” เย่เชินหลินขมวดคิ้วเบาๆ วันนี้ผู้หญิงของเขาทั้งถอนหายใจ ทั้งอยากทำงาน หมายความว่าเขาล้มเหลวงั้นเหรอ ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกถึงไร้กังวลและสะดวกสบายเหรอ?
“ฉันแค่คิดว่าเป็นคนควรจะยืนหยัดด้วยตัวเอง ผู้หญิงคนหนึ่งหากชีวิตนี้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับของผู้ชาย เธอไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง ชีวิตก็ไร้ประโยชน์ ฉันอยากทำงาน อยากเป็นผู้หญิงที่มีงานทำ และหวังจะมีชีวิตอยู่ คุณรู้ไหมคะ? ว่าทุกครั้งที่คุณจากไป ฉันอยู่ในวิลล่าแห่งนี้ นอกจากชมดอกไม้แล้วก็ชมปลา หรือไม่ก็เหม่อลอย ฉันคิดว่าชีวิตของฉันเหมือนจะผุพัง และไม่มีความหมายเลย คุณให้ฉันไปทำงานเถอะ ถือว่าฉันขอร้องคุณนะคะ ฉันอยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง
เย่เชินหลินเงียบ ราวกับว่าเธอจะเห็นความหวังเล็กๆ แล้วยังคงพูดต่อด้วยความจริงใจ: “คุณวางใจได้ ฉันออกไปทำงานก็จะไม่ชายตาแลชายอื่น ฉันจะคอยเตือนตัวเองว่าฉันมีผู้ชายของตัวเองอยู่แล้ว ช่วงเช้าฉันทำงาน เลิกงานฉันใช้เวลาทั้งหมดอยู่ข้างๆกับคุณ เพียงแค่คุณเต็มใจ แบบนี้ได้ไหมคะ”
เย่เชินหลินยังคงไม่ได้พูดอะไร จริงๆแล้วเขากำลังคิดอยู่ว่า หากเซี่ยชีหรั่นเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน เขาทำให้เธอเป็นเหมือนกับนกขมิ้นในวิลล่าของเขา บางทีเธออาจจะไม่มีความสุขเลย
แต่ถ้าหากเธอออกไปทำงานแล้ว เขาก็ไม่สามารถเห็นเธอได้ทุกที่ทุกเวลา และก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีงานสำหรับผู้หญิงที่จะให้เธอไปทำได้ อย่างนั้นเธอก็จะต้องติดต่อกับผู้ชายคนอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าเธอจะรักนวลสงวนตัว ไม่ได้เริ่มยั่วยุคนอื่นก่อน แต่ปัญหาคือเธอมีอารมณ์และรูปร่างหน้าตาแบบนี้ ผู้ชายเหล่านั้นจะต้องเป็นเหมือนแมลงวันที่บินรอบตัวเธออย่างแน่นอนเก่อต้าลี่เป็นแค่ตัวอย่าง เธอแค่พูดกับเขาเพียงแค่สองประโยคก็เกิดเรื่องแบบนั้น ดังนั้นให้เธอออกไปทำงานข้างนอก เขาไม่สบายใจจริงๆ
เมื่อเซี่ยชีหรั่นพูดจบแล้ว ก็ทำได้เพียงรอคำตอบจากเขา เธอมองเขาอย่างเงียบๆและเต็มไปด้วยความหวัง ในใจนั้นตึงเครียดมาก
ตามลักษณะนิสัยของเขาแล้ว ต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เขาพูดง่ายที่ไหนกัน
แต่ว่าเธอก็ได้ตัดสินใจแล้วว่า แม้วันนี้เขาจะไม่ตอบตกลง ต้องมีสักวันที่เธอจะทำให้เขาเห็นด้วยให้ได้
“เธอสามารถทำงานอะไรได้บ้าง ในใจมีคิดไว้รึยัง? การตลาดเหรอ?” เย่เชินหลินถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เซี่ยชีหรั่นไม่คิดว่าเขาจะตั้งใจคิดทบทวนคำพูดของเธอ ในใจมีความสุขเล็กน้อย
“ฉันยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการทำงาน แต่ฉันเรียนด้านการตลาดมา ดังนั้นจึงต้องการหางานทำในด้านนี้”
“ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้ไว้พูดกันทีหลัง ฉันจะพิจารณาก่อน”
เขาสามารถพิจารณาได้นั้น ถือว่าดีกว่าที่เธอคาดไว้มาก เธอยิ้มบางๆ และพูดอย่างสุดซึ้งว่า: “ได้ ขอบคุณค่ะ คุณจะต้องพิจารณาให้ดี ฉันจะรอคำตอบจากคุณค่ะ”
มองดูยัยตัวเล็กระมัดระวัง ท่าทางที่กลัวว่าเขาจะไม่ตอบตกลง ความภาคภูมิใจของคนบางคนเหมือนได้รับความพึงพอใจเป็นอย่างมาก
เขาดึงเธอเข้ามากอดไว้ และได้พูดด้วยน้ำเสียงแหบที่น่าดึงดูดข้างหูของเธอว่า: “จะพิจารณาดีไหม ต้องขึ้นกับว่าเธอจะประพฤติตัวยังไง”
“คุณ!” เซี่ยชีหรั่นกัดริมฝีปาก ใบหน้าก็ร้อนแดงขึ้นมาอีกครั้ง
เขาคงจะไม่ทำอีกครั้งจริงๆใช่ไหม เธอรับไม่ไหวแล้วจริงๆ
...
หลังจากที่เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นได้ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วนั้น ได้รับสายจากฝู้เฟิ่งหยี ตั้งแต่หลังจากเหยนชิงเหยียนกลับมาที่ตระกูลเย่ น้ำเสียงของฝู้เฟิ่งหยีนั้นปนไปด้วยความตื่นเต้นเสมอ
“ลูกชายใหญ่ เสี่ยวห้านได้โทรหาลูกรึยัง? วันนี้ฉันมีนัดกับคุณน้าหลี่แล้ว เรียกให้เขาไปเดทกับฉิงฉิง สองคนนั้นก็กระไร หน้าบางกันเหลือเกิน ไม่มีทางอื่นแล้ว ลูกพาลากพวกเขาไปด้วยกัน อ้อ ใช่แล้ว ลูกจะไปคนเดียวก็ไม่ดี ลูกก็เรียกหลิงหลิงให้ไปด้วยกัน ลูกสองคนช่วยทำให้มีชีวิตชีวา”
“ผมรู้แล้วครับแม่ นัดเมื่อไหร่ มื้อเที่ยงรึมื้อเย็น?” เย่เชินหลินถามเสียงดัง
“มื้อเย็น สถานที่ลูกนัดกันเอาเองละกัน กลางคืนยังไงฉิงฉิงก็มีเวลาอยู่แล้ว”
“ครับ!”
เมื่อเย่เชินหลินพูดจบ และวางสายไปแล้ว และมองไปยังเซี่ยชีหรั่นที่ดูผิดปกติไปเล็กน้อย สายตาของเขาแอบยิ้มเล็กน้อย
สายของโทรศัพท์ในวันนี้ เสียงของฝู้เฟิ่งหยีถือว่าดังมากพอ เกรงว่าเซี่ยชีหรั่นคงจะได้ยินเรื่องที่ให้เขาเรียกส้งหลิงหลิงไปด้วย
เธอพยายามยิ้ม และแสดงท่าทีเหมือนไม่สนใจ แต่ในใจกลับหึงหวง เขาจะดูไม่ออกได้ยังไง
ในตอนบ่าย เขาพาเธอไปห้างสรรพสินค้าใหญ่เป็นอันดับสองของมณฑลตงเจียง ทั้งสองเพียงแค่เดินดูเรื่อยเปื่อย ไม่ได้เหมือนที่ตั้งใจไว้ในตอนเช้า
เมื่อถึงสถานที่มีขนมขบเคี้ยว เย่เชินหลินก็จะพาเธอไปลองชิม แต่ก็อยู่แต่แถวๆตามร้านบูติกต่างๆ ให้เซี่ยชีหรั่นดูเครื่องประดับ ดูรองเท้าและหมวกต่างๆ ซึ่งเย่เชินหลินค่อยมากมีความอดทน
เซี่ยชีหรั่นพบกับความประหลาด เขาไม่เพียงแค่มีความอดทน ความเป็นจริงเขาลึกซึ้งเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของผู้หญิงมาก เพียงแค่เขากวาดตามองไป ให้เธอลองสวมนั้นพอดีตัวเลย เกือบทุกอย่างที่เขาเลือกราวกับว่าได้วัดสัดส่วนของเธอมาเรียบร้อยแล้ว
เขาดูไม่เหมือนผู้ชายที่จะมาเดินเล่นกับผู้หญิงบ่อยๆ เธอนึกภาพได้เหมือนว่าเขาแทบจะไม่เคยมาเดินเล่นกับผู้หญิง แต่ทำไมด้านการแต่งตัวของผู้หญิงของเขาถึงได้ดีขนาดนี้?
“คุณเย่คะ ทำไมคุณถึงมีความฉลาดด้านรสนิยมแบบนี้? เหมือนว่าจะเข้าใจแฟชั่นเป็นพิเศษ?” เซี่ยชีหรั่นยับยั้งไม่ได้ เลยถามเขาอย่างสงสัย
เหมือนว่าเย่เชินหลินจะอารมณ์ดี มุมปากโค้งขึ้น และตอบกลับเธอไปว่า: “บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปมีบริษัทย่อย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านสินค้า รวมถึงเสื้อผ้าสตรี บูติก และยังมีเครื่องประดับอื่นๆ”
“อย่างนี้นี่เอง” เซี่ยชีหรั่นรู้สึกประทับใจจริงๆ จากมุมมองนี้จึงได้เข้าใจแล้วว่าเย่เชินหลินไม่ใช่คนธรรมดา เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจของเขา หรือแม้แต่ในส่วนของเสื้อผ้าสตรีซึ่งเข้าใจได้อย่างทั่วถึง และในด้านอื่นๆ อย่างเช่นด้านก่อสร้างยิ่งทำได้ดีมากกว่า
ใช้เวลาแบบนี้ไปเกือบทั้งวัน จนถึงเวลาค่ำ การแต่งตัวของเซี่ยชีหรั่นทำให้เย่เชินหลินพอใจเป็นอย่างมาก
เขาได้โทรหาไห่ฉิงฉิง นัดกันทานข้าวที่ร้านอาหารหูปิน หลังจากที่ไห่ฉิงฉิงได้ตอบตกลงอย่างง่ายดาย เขาถึงจะแจ้งให้เหยนชิงเหยียนทราบ
“ไป คืนนี้ไปเจอไห่ฉิงฉิงและเสี่ยวห้านกับฉัน” เย่เชินหลินโอบไหล่ของเซี่ยชีหรั่น และพูดด้วยน้ำเสียงสั่งการ เขาคิดว่าวงจรชีวิตของเธอนั้นแคบเกินไป ต้องการพาเธอออกไปข้างนอกบ้าง ไห่ฉิงฉิงเป็นเด็กผู้หญิงที่เชื่อถือได้และร่าเริงสดใส หากให้พวกเธอได้เป็นเพื่อนกัน เขาสบายใจมาก
น้ำเสียงแบบนี้ของเขามักจะปฏิเสธไม่ได้ แม้ว่าในใจของเซี่ยชีหรั่นจะไม่ชอบที่เขาพาส้งหลิงหลิงไปด้วย แต่จริงๆแล้วตัวเธอเองก็ไม่อยากไป ไม่ใช้เพราะสถานะของเธอทั้งหมด เห็นคนเหล่านั้นที่ไม่มีตัวตน และมีอีกสาเหตุหนึ่ง เธอไม่อยากเจอผู้ชายที่ชื่อว่าเย่จื่อห้าน
ในใจของเธอนั้น ตัวตนที่แท้จริงของเย่จื่อห้านก็คือโม่เสี่ยวจุน เธอมักกับวลว่าเธอจะยับยั้งชั่งใจไว้ไม่อยู่ และได้พลั้งพูดไปว่าคนนั้นเป็นตัวปลอม
เย่เชินหลินต้องการให้เธอกลมกลืนกับสังคมของเขา แม้ว่าเขายังได้ตัดสินใจในตอนท้ายว่าจะให้เธอมาอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ บางหรือบางทีในจิตใต้สำนึกอาจจะวางเธอไว้ในตำแหน่งนั้นโดยไม่รู้ตัวแล้วก็ได้
“คุณเย่คะ นี่เป็นวันรวมตัวกันของครอบครัวของคุณ นอกจากนี้คุณนายยังได้สั่งเป็นพิเศษ ให้คุณเรียกคุณส้งไป ฉันไปเกรงว่าจะไม่ดีนะคะ?” เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...