ตอนที่ 411 สาวใช้ตัวแสบ 315
ครั้งก่อนที่ส้งหลิงหลิงกับคุณแม่กินข้าวที่บ้านตระกูลเย่ ก็พูดถึงเรื่องนี้ สองแม่ลูกก็ปล่อยผ่านไป ฝู้เฟิ่งหยีกลัวว่าจะควบคุมเย่เชินหลินไม่ได้ พูดได้แค่ว่าเย่เห้าหรันไม่อยู่บ้าน ตอนนี้ไม่สามารถตัดสินใจได้
ครั้งนี้มันเป็นเรื่องของคนสี่คนเผชิญหน้ากัน หลีกเลี่ยงที่จะพูดไม่ได้ ถ้าจะยืดเยื้อต่อไปก็ไม่ดี
“แม่ ผมคิดทบทวนแล้ว ผมกับหลิงหลิงไม่เหมาะสมกัน การหมั้นให้มันสิ้นสุดลงเท่านี้ พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงผม ผมจะไปทำงานของหลิงหลิง และจะชดเชยให้เธอ” เย่เชินหลินพูดแบบนี้ เท่ากับว่าไม่สนใจว่าแม่จะเป็นยังไง เขาก็จะยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจไว้
นี่คือสิ่งที่ฝู้เฟิ่งหยีเป็นกังวลตลอดมา เรื่องการแต่งงาน เธอคิดมาตลอดว่า รู้สึกเหมือนเป็นการได้แล้วทิ้ง
“แม่ไม่ยอมรับ ลูกหลิน ทำแบบนี้มันผิดศีลธรรม”
“แม่ ฟังผมพูดนะ ไม่ได้รู้สึกอะไร ฝืนอยู่ด้วยกันไปมันยิ่งผิดศีลธรรม”
“งั้นลูกหมายความว่าไง? สรุปแล้วเป็นเพราะว่าเซี่ยชีหรั่น ถึงตัดสินใจแบบนี้เหรอ?” ฝู้เฟิ่งหยีทำตาลุกโชนจ้องไปที่ใบหน้าของลูกชายเธอ ถ้าเขาพูดความรู้สึกจริงๆของเขาออกมา ในมุมมองของผู้เป็นแม่ที่รักลูก ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยอมรับการตัดสินใจของลูก
ที่เธอกลัวคือเขาจะไม่จริงใจกับใครเลย กับเซี่ยชีหรั่นก็แค่เล่นๆ
“เรื่องเธอก็มีส่วน” เย่เชินหลินไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธ
เมื่อเขาถอนหมั้นกับส้งหลิงหลิง เขาก็จะค่อยๆให้เซี่ยชีหรั่นเข้ามาในครอบครัว ให้เธอขึ้นมาเป็นตำแหน่งคู่หมั้นของเขา
“งั้นลูกจะชดเชยให้หลิงหลิงยังไง? เธอคงไม่ยอมแน่ๆ แม่ดูออก ความรู้สึกที่เธอมีต่อลูกมันฝังแน่นนะ”
“แม่ เรื่องนี้แม่ไม่ต้องสนใจหรอก เรื่องของเธอผมจะจัดการเอง แต่ว่าเรื่องงานหมั้นกับตระกูลส้งแม่เป็นคนเริ่มพูด แล้วตอนนี้ผมผิดสัญญา....”
ฝู้เฟิ่งหยีรู้ว่าลูกชายจะพูดอะไร เธอไม่ใช่คนประเภทที่จะต้องเดินไปในเส้นทางมืดมิดแล้วไม่รู้จักเลี้ยวกลับ ถ้าไม่เห็นด้วย เธอก็จะไม่ฝืนต่อไป
เธอถอนหายใจ ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเบา: “คนเป็นแม่ก็แค่หวังอยากจะให้ลูกนั้นมีความสุข แม่อยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝาเร็วๆ จะเป็นส้งหลิงหลิงก็ดี หรือว่าเซี่ยชีหรั่นก็ดี อายุลูกก็ไม่น้อยแล้ว อย่าทำแบบนี้ต่อไปเลย”
“แม่วางใจได้!” เย่เชินหลินพูดแค่สี่คำ แต่ฝู้เฟิ่งหยีก็มองออก นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ลูกชายพูดถึงเรื่องความรู้สึกอย่างจริงจังกับเธอหลังจากที่เกิดเรื่องของหลินเสี่ยวหรั่น
“วันนี้มีงานวันเกิดของนายท่านส้ง พวกเราก็ไปตามปกติเถอะ แม่ตกลงแล้ว” ฝู้เฟิ่งหยีพูดขึ้น ความคิดตรงกับเย่เชินหลินพอดี
“ครับ” เย่เชินหลินตอบกลับง่ายๆ หลังจากนั้นก็พูดกับผู้เป็นแม่: “แม่ต้องคุยกับประธานเย่เรื่องที่จะถอนหมั้น”
“ยังเรียกประธานเย่อยู่อีก? เสี่ยวห้านก็กลับมาแล้ว ลูกควรเรียกพ่อได้แล้ว?” ฝู้เฟิ่งหยีขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ไม่ชิน เรียกแบบนี้แล้วกัน” คำพูดของเย่เชินหลินไร้อารมณ์ ฝู้เฟิ่งหยีรู้ว่าเขาแค่ปากแข็ง ต้องมีสักวันที่เขาจะเรียกแน่ๆ
ฝู้เฟิ่งหยีก็ไม่ได้บังคับ จากนั้นเธอก็ไปที่ห้องนอนของเย่เห้าหรัน บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องของเย่เชินหลิน
ที่จริงแล้วเย่เห้าหรันก็ไม่ค่อยแฮปปี้กับเรื่องงานแต่งงานตระกูลส้ง ในบริษัทรองประธานส้งก็แบ่งพรรคแบ่งพวก เรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าเขา
แต่ว่าส้งหลิงหลิงดูแล้วยังเป็นคนฉลาดและน่ารัก เขาคิดว่าเธออาจจะไม่เหมือนพ่อของเธอ
อีกอย่างถ้าเย่เชินหลินเป็นแบบหลินเสี่ยวหรั่น ในใจของเย่เห้าหรันก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ไม่กล้าจะบังคับลูกชายให้แต่งงานแล้ว
วันนี้ที่ตัดสินใจแบบนี้ เขาก็รู้สึกผิดต่อตระกูลส้ง และเพราะรู้ว่าตระกูลส้งถือเอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้งมากกว่าความรู้สึก แต่เขายังรู้สึกว่าถ้าหากเย่เชินหลินสามารถชดเชยให้กับตระกูลส้งได้ การแตกแยกก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก
หลายปีผ่านมาถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของพ่อลูกจะไม่ค่อยสนิทชิดเชื้อ แต่เขาก็ยังเข้าใจลูกของตน รู้ว่าลูกชายของตนคงไม่เขี่ยผู้หญิงทิ้งอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ ที่เขายืนกรานปฏิเสธด้วยตัวเอง แสดงว่าอีกฝั่งคงไม่ดีจริงๆ
เหยนชิงเหยียนไม่รู้เรื่องการตัดสินใจของเย่เชินหลินในวันนี้ ที่จริงแล้วเขาไม่ค่อยอยากจะไปร่วมออกงานสังคมเท่าไหร่
ด้วยประสบการณ์ของตัวเขาเองบรรยากาศในงานทำให้เขาอึดอัด ในใจเขารู้ดี ที่ตอบรับฝู้เฟิ่งหยีว่าจะไปร่วมงานด้วย ก็แค่ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ผิดหวัง
ก่อนจะออกเย่เชินหลินได้ตบไปที่ไหล่ของเหยนชิงเหยียน แล้วพูดออกมาเบาๆพลางยิ้ม “ส่วนมากก็มีแต่พวกที่คิดว่าตัวเองดีเลิศ พวกปลอมๆ นายไม่ต้องเกร็ง อะไรควรทำก็ทำ พวกเขารู้ว่านายคือลูกชายของประธานเย่ ถ้าไม่ทันจริงๆ นายทำอะไรก็คือดี ไม่แน่นายอาจจะเป็นตัวแทนที่โดดเด่นที่สุดในงาน จนหลายคนต้องเอาเป็นแบบอย่าง”
เย่เชินหลินปลอบใจทำให้เหยนชิงเหยียนรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
“ขอบคุณครับพี่!” เขาพูดอย่างจริงใจ
“ครอบครัวเดียวกัน เกรงใจอะไรกัน”
“ระหว่างเรา ความหมายของนายคือไม่อยากได้ฉันแล้วใช่มั้ย? เย่เชินหลิน นายมันคนใจร้าย!” ส้งหลิงหลิงพูดเรื่องนี้ น้ำตาก็คลอเบ้าจนสะท้อนแสง
“ถ้าหากฉันบอกว่าไม่ยอมล่ะ นายจะทำยังไง?” เธอยืนอยู่ข้างเขา แล้วถามขึ้นเสียงเบา พร้อมทำสีหน้าน่าสงสาร
“เธอคิดว่าไง ฉันคิดว่าเธอรู้จักฉันดี” เย่เชินหลินพูดอย่างเย็นชา
“รู้จัก ฉันรู้จักนายดีมาก เย่เชินหลิน นายคือคนที่ไร้อารมณ์ที่สุดบนโลกนี้ ถ้านายไม่อยากอยู่กับฉันต่อไปจริงๆ แน่นอนว่าฉันก็คงบังคับนายไม่ได้ แต่ว่าพ่อแม่ฉันก็มีหน้ามีตานะ วันนี้เป็นวันเกิดของคุณพ่อ ฉันหวังว่านายจะไม่ทำอะไรที่หยามท่าน เรามาทำเป็นคู่รักกันสักงาน ทำแบบนี้คงไม่เกินไปใช่มั้ย?” ขณะนั้นน้ำตาของส้งหลิงหลิงก็ไหลออกมา แค่หยดสองหยด เธอกลัวว่าแขกจะมาเห็น จึงรีบเช็ดมันออกไป
“เพราะงั้นฉันถึงจะบอกเธอก่อนว่า ถ้าไม่อยากขายหน้า เธอก็ไปบอกพ่อแม่เธอว่าอย่าพูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าคนอื่นเลย อย่าคิดเอาเรื่องพวกนี้มาทำให้ฉันก้มหัวให้ มันไม่เป็นไปตามที่เธอหวังหรอก”
ตอนนั้นเย่เชินหลินตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่สนใจน้ำตาของเธอ ถ้าเวลานี้ใจอ่อน มันก็จะทำร้ายเธอทำร้ายไปตลอดชีวิต
“ฉันเข้าใจแล้ว” ส้งหลิงหลิงพูดเสียงเบา จากนั้นจึงพูดกับเย่เห้าหรันและภรรยา: “คุณลุงคุณน้า หนูขอตัวสักครู่ หนูขอไปหาคุณพ่อคุณแม่นะคะ”
เย่เห้าหรันลุกขึ้น แล้วพูดกับส้งหลิงหลิงอย่างจริงใจ: “เป็นตระกูลเย่ที่ต้องขอโทษตระกูลส้ง หลังจากจบปาร์ตี้วันเกิด ฉันจะไปขอโทษกับพ่อของหนูเอง ฉันฝากขอโทษพวกเขาก่อนแล้วกัน”
เย่เชินหลินมองไปที่พ่อของเขาตาละห้อย เขากำลังช่วยลูกอกตัญญูคิดบัญชีอยู่ ไม่ปัดความรับผิดชอบ เชินหลินประทับใจมากๆ
วางใจได้ครับ คุณพ่อ ต่อไปจะไม่ทำให้พ่อกับแม่ลำบากใจ ผมจะกตัญญูต่อท่าน เหมือนที่กตัญญูต่อแม่ ถึงแม้ผมอาจจะไม่เรียกท่านว่าพ่อ
“ไม่ คุณลุงเย่ท่านเครียดมากไปแล้ว พูดไปพูดมา สุดท้ายแล้วก็คือหนูดีไม่พอสำหรับเย่เชินหลิน ไม่ต้องไปโทษเขาหรอกค่ะ” ส้งหลิงหลิงพูดอย่างสวยๆ แล้วจึงเดินหันหลังกลับไป
คนตระกูลเย่มองส่งส้งหลิงหลิง เห็นเธอเดินไปกระซิบที่ข้างหูของพ่อเธอ ดูเหมือนจะพูดว่าไม่ให้เขาพูดเรื่องการแต่งงานต่อหน้าผู้คน
ไม่นาน งานปาร์ตี้วันเกิดก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ รองประธานส้งกล่าวสุนทรพจน์อยู่หน้าเวที กล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน
พูดเรื่องพวกนี้จบ เขาก็พูดขึ้นอีก: “วันนี้นอกจากจะเป็นวันเกิดของฉัน ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก เชื่อว่าทุกคนคงจะจำได้ว่าครั้งที่แล้วลูกหลิงหลิงกับลูกชายประธานเย่เย่เชินหลินหมั้นกันไม่สำเร็จ วันนี้ ก็จัดเพื่อชดเชยให้ทั้งสองจัดงานหมั้นอีกครั้ง.....”
สีหน้าของเย่เชินหลินขุ่นมัว มองไปที่ส้งหลิงหลิงอย่างเย็นชา แต่หากว่าส้งหลิงหลิงไม่ได้มองกลับไปที่เขา เธอแค่เดินไปยังโต๊ะหน้าเวทีที่พ่อของเธอกำลังพูดอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...