ตอนที่ 462 สาวใช้ตัวแสบ 366
“ฉันกับเธอก็ยังไม่ได้สนิทกันมาก แต่เธอเป็นน้องสาวของคนที่ฉันรัก ดังนั้นฉันต้องใส่ใจเธอ แน่นอน นอกจากนี้ เธอยังเป็นพี่สะใภ้ในอนาคตฉันของฉันด้วย ฉันก็ต้องใส่ใจเธอ” เซี่ยชีหรั่นพูดเบาๆ คนแซ่เย่สีหน้าไม่เปลี่ยน ส่งเสียง ฮึ อย่างเย็นชา
“พูดได้น่าฟังมาก ปากเล็กๆนี้เหมือนทาด้วยน้ำผึ้ง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณอยากเจอใคร”
“โม่เสี่ยวจุนเป็นพี่ชายของฉัน ฉันเป็นห่วงความเป็นอยู่ของเขา เขาเป็นพี่ชายของฉัน ก็เป็นพี่ชายของคุณด้วย” เซี่ยชีหรั่นมองเขา แล้วยิ้ม เธอไม่ค่อยยิ้มแบบนี้ เย่เชินหลินที่มองอยู่ ด้วยอารมณ์ที่รู้สึกหึงหวงเหมือนจะหายไป
“เขาอายุเท่าไหร่ จะเป็นพี่ชายของฉัน” เขาบ่นและขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ว้าย คุณชายเย่กลัวเสียหน้ามาก แม้แต่พี่ชายก็ยังไม่ยอมรับ ตลกมากเลย” เซี่ยชีหรั่นตั้งใจหัวเราะเขา หัวเราะจนเย่เชินหลินรู้สึกเสียหน้า ดังนั้นจึงคว้าเธอมากอด ไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองไหม จูบลงไปอย่างมืดฟ้ามัวดิน
เซี่ยชีหรั่นอยากจะขัดขืน เขาเหมือนระบายความโกรธของเขา จูบปากเล็กๆของเธออย่างแรง ดูดปากของเธออย่างร้อนแรง ในใจก็แอบคิด ทำไมแรงของผู้ชายและผู้หญิงจึงแตกต่างกันมาก
“จะหัวเราะอีกไหม” คนแซ่เย่หน้าไม่แดงและไม่หอบปล่อยเธอออก ส่วนเซี่ยชีหรั่นหน้าแดงจนกลายเป็นม่วงแล้ว
เธอรีบส่ายหัว “ไม่หัวเราะแล้ว พูดเรื่องจริงจังดีกว่า พวกเราไปดูหน่อยนะ คุณไห่ก็หวังให้คุณไปเยี่ยมตระกูลไห่บ่อยๆเช่นกันนะ”
“เหตุผลดูดี ไปก็ไป”
“ความรู้สึกนี้ดีจริงๆ คุณรักและตามใจฉันมากขนาดนี้ ฉันจะกลายเป็นคนเอาแต่ใจไหม” เซี่ยชีหรั่นเอียงหัว ถามเย่เชินหลิน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เย่เชินหลินเพียงแค่ส่งเสียง อะแฮ่ม ในใจพูดว่า สิ่งเล็กๆนี้ ตอนนี้วิธีประจบคนเปลี่ยนแม้แต่คำพูด แต่ได้ฟังก็รู้สึกสบายใจมาก
ทั้งสองเพิ่งทานข้าวเสร็จ ฝู้เฟิ่งหยีก็โทรมา บอกว่าอยากให้ทั้งสองกลับมาทานข้าวเย็นที่บ้าน
ตระกูลเย่อยู่ห่างจากตระกูลไห่ไม่ไกล เย่เชินหลินจึงตอบรับ เพราะหลังทานอาหารเย็นเสร็จระหว่างทางก็แวะตระกูลไห่ได้
ตอนบ่ายเซี่ยชีหรั่นยุ่งตลอด หลังจากเย่เชินหลินดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของสาขาบริษัทเพชรพลอย ก็ยุ่งมาก ทั้งสองต่างคนต่างยุ่ง หลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนหลังเลิกงาน นั่งรถเย่เชินหลินกลับตระกูลเย่
ฝู้เฟิ่งหยีไม่ทราบเรื่องของไห่ฉิงฉิง เย็นนี้นอกจากจะโทรเรียกเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นกลับบ้านแล้ว ยังเรียกเหยนชิงเหยียนกลับมาด้วย และขอให้เขานัดไห่ฉิงฉิงด้วย
ตั้งแต่ครั้งที่แล้วเหยนชิงเหยียนกับไห่ฉิงฉิงบอกว่าจะไปดูหนังด้วยกันแต่ก็ไม่ได้ไป หลังจากแยกกันแล้วก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย ดังนั้นเหตุการณ์ล่าสุดของไห่ฉิงฉิง เหยนชิงเหยียนก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน
“แม่ ฉันโทรไปแล้ว เย็นนี้ฉิงฉิงมีนัดกับลูกค้า ครั้งหน้าดีไหม” เหยนชิงเหยียนไม่อยากให้ฝู้เฟิ่งหยีเสียใจ ดังนั้นจึงได้โกหกไป
“ก็ดี ก็ดี ครั้งหน้าค่อยว่ากันใหม่ อย่างไรก็กลับมาทานข้าวเย็นเกือบทุกวันอยู่แล้ว”
ฝู้เฟิ่งหยีไม่ต้องการให้ลูกชายคนเล็กคิดว่าเธอแค่หวังอยากให้เขาแต่งงานแล้วมีหลานให้อุ้มเร็วๆ ราวกับว่าไม่สนใจความรู้สึกของเขาเลย
หรือเป็นเพราะเขาหายไปหลายปี เธอก็เลยกลัวว่าเขาจะคิดมาก ดังนั้นไม่ว่าจะพูดอะไร เธอเองก็จะระวังคำพูดเป็นพิเศษ กลัวที่จะทำร้ายความรู้สึกของเขา
เย็นนี้อาหารมีความหลากหลายมาก โดยเฉพาะอาหารว่างหลังทานข้าว อร่อยมาก
“ชีหรั่น เป็นอย่างไรบ้าง อันนี้อร่อยใช่ไหม” ฝู้เฟิ่งหยีถามด้วยรอยยิ้มที่รัก
“อืม อร่อยมาก กลิ่นหอมอ่อน ๆ หวานนิดหน่อย แต่ไม่เลี่ยน ถั่วแดงก็หอมมาก” เซี่ยชีหรั่นยกย่องอย่างจริงใจทำให้ฝู้เฟิ่งหยียิ้ม
“นี่เป็นฝีมือของเสี่ยวห้าน เขาเป็นเชฟขนม ฉันรู้สึกว่าขนมที่เขาทำอร่อยมากๆ”
“อร่อยจริงๆ เก่งมากเลย วันหลังมีเวลาว่าง พวกเราจะมาเรียนกับคุณ” เซี่ยชีหรั่นยิ้มแล้วพูดกับเหยนชิงเหยียน
ทุกครั้งที่เห็นเขา เห็นเขาอยู่ในตระกูลเย่อย่างมีความสุข เซี่ยชีหรั่นอดที่จะคิดถึงเสี่ยวจุนไม่ได้ หวังเสมอว่าคนที่จะได้รับความสุขเช่นนี้จะเป็นเขา
แต่ทุกครั้งที่เธอจะพยายามโน้มน้าวตัวเอง เย่จื่อห้านที่อยู่ข้างหน้าเป็นน้องชายของเย่เชินหลิน เธอไม่ควรมีความคิดอื่น
ถ้าประโยคนี้ของเธอเป็นการสรรเสริญผู้ชายอื่น เย่เชินหลินก็จะหึงอีก อีกฝ่ายเป็นน้องชายของเขา เขาก็จะภาคภูมิใจด้วย
หลังทานข้าว เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นยังไม่ทันบอกลา เสียงโทรศัพท์บ้านของตระกูลเย่ก็ดังขึ้น พี่เลี้ยงรับสาย แล้วบอกว่าคุณนายไห่โทรมา
ขณะฝู้เฟิ่งหยีคุณโทรศัพท์ ถามคุณนายไห่ในโทรศัพท์ว่า “ ฉางหลิง ฉิงฉิงยุ่งอะไรอยู่ ฉันให้เสี่ยวห้านโทรหาเธอชวนเธอมาทานข้าวที่บ้าน เธอบอกว่านัดลูกค้าไว้ คุณติดตามให้ฉันหน่อยนะ ฉันว่าลูกชายของฉันชอบเธอมาก”
“ฉิงฉิง ช่วงนี้สุขภาพไม่ค่อยดี เฟิ่งหยี ฉัน.........” คุณนายไห่รู้สึกผิดต่อฝู้เฟิ่งหยี
กดกริ่งที่ประตู คุณพ่อของไห่ฉิงฉิงเป็นคนเปิดประตู
“เป็นเฟิ่งหยีเหรอ รีบเข้ามาสิ”
หลังจากทุกคนทักทายกันเสร็จ ก็เปลี่ยนรองเท้า คุณพ่อไห่ส่งเสียงเรียก “ฉางหลิง เฟิ่งหยีมาแล้ว”
คุณนายไห่ได้ยิน ถอนหายใจในใจ คิดว่าไม่ช้าก็เร็วยังไงก็หนีไม่พ้น เธอคงจะใจร้อนอยากจะมาเยี่ยมฉิงฉิงแน่นอน เช่นนี้แล้วก็ใช้โอกาสในคืนนี้บอกเรื่องทุกอย่างเลยละกัน
“มาแล้ว” คุณนายไห่ตอบรับ ออกมาจากห้องครัว เห็นเหยนชิงเหยียนก็มาด้วย ความรู้สึกผิดที่มีจึงเพิ่มขึ้น
เหลือบไปอีกครั้งก็เห็นเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่น เธอจึงเริ่มไม่แน่ใจว่าฝู้เฟิ่งหยีจะรู้เรื่องของฉิงฉิงแล้วหรือยัง
รอทุกคนทักทายคุณนายไห่เสร็จ ฝู้เฟิ่งหยีจึงจับมือคุณนายไห่แล้วถาม “ฉางหลิง ฉิงฉิงเป็นอย่างไรบ้าง ฉันรีบมาก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรมาฝากเลย อยากมาดูเธอก่อน อยู่ชั้นบน”
“อยู่ชั้นบน เธอไม่ได้เป็นอะไรมาก เฟิ่งหยี คุณนั่งก่อนนะ ฉันมีเรื่องจะบอกคุณก่อน” คุณนายไห่จับมือคุณนายไห่ไว้ พาเธอไปนั่งบนโซฟาที่ห้องรับแขก
เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นก็พอรู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไร จึงนั่งข้างๆพวกเขาและฟังการสนทนาของพวกเขา
“มีอะไรหรือ” ฝู้เฟิ่งหยีเห็นสีหน้าของเพื่อนรักไม่ค่อยดี ดูจริงจังมาก ในใจก็เลยรู้สึกไม่สบายใจไปด้วย
“ฉันต้องขอโทษคุณด้วย ฉิงฉิงเธอมีคนรักแล้ว ฉันก็ไม่รู้มาก่อน ก่อนหน้านี้พวกเราทั้งครอบครัวก็ไม่เห็นด้วย คุณรู้ไหมเธอยอมอดอาหารเพื่อต่อต้านพวกเรา เฮ่ย ฉันหลี่ฉางหลิง หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยทำเรื่องกลับคำเช่นนี้เลย ฉันรู้สึกอับอายไม่กล้าพบเธอเลย” คุณนายไห่พูดจบ ถอนหายใจอย่างแรง
จนถึงตอนนี้ อย่างไรก็ตามเธอก็ยังรู้สึกชอบเย่จื่อห้านที่เพิ่งกลับมาบ้านคนนี้
เด็กหนุ่มคนนี้ดีมาก อ่อนโยนและถ่อมตน ถึงแม้โม่เสี่ยวจุนจะดูดี แต่เขาเป็นเด็กกำพร้า เธอไม่ใช่คนที่มีสถานะครอบครัว เธอแค่รู้สึกว่าเขาเป็นลำบากมาหลายปีแล้ว ใช้ชีวิตในรั้วนั้นมาหลายปี เธอกลัวว่าเขาจะมีความทะเยอทะยานมากเกินไป จนลูกสาวไม่สามารถควบคุมเขาได้
มีแม่คนไหนบ้างที่ไม่เห็นแก่ตัว ต่างคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะรักลูกของตัวเองมากๆ ไม่มีใครอยากเห็นลูกสาวต้องทำอะไรเพื่อคนอื่นเช่นนี้ ยอมสละชีวิตเพื่อคนอื่น
ถ้าไม่ใช่เพื่อรักษาชีวิตของเธอไว้ พวกเขาจะไม่ประนีประนอมอย่างแน่นอน
“ฉันตกใจหมด ฉันยังคิดว่าเรื่องอะไร คุณนะ พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ยังมาพูดอะไรแบบนี้ว่าไม่กล้าสู้หน้าฉัน นี่มันสมัยไหนแล้ว เรื่องของลูกๆพวกเรายังสามารถมาตัดสินใจแทนได้หรือ ฉิงฉิงนิสัยเป็นอย่างไร ฉันก็รู้ไม่น้อยไปกว่าเธอเหมือนกัน เธอก็เหมือนลูกสาวของฉันคนหนึ่ง เธอพบความสุข ฉันก็มีความสุขด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...