ตอนที่ 466 สาวใช้ตัวแสบ370
“ทานข้าวหรือยัง” เย่เชินหลินถามเขา
“แฟนฉันรอฉันอยู่ใกล้นี้ ฉันจะรีบพาเธอไปทานข้าว” หลินต้าฮุยตอบอย่างจริงใจ
แต่เดิมเขาตั้งใจจะไปทานข้าว แต่ได้รับสายของเย่เชินหลินก่อน ตั้งใจว่าเย็นนี้จะหวานกับแฟนสักหน่อย ไม่อยากเสียเวลา ดังนั้นเขาจึงพาแฟนมาด้วย
“บรรยากาศร้านนี้ก็ไม่เลวนะ คุณพาเธอมาทานที่นี่สิ”
“ครับ ขอบคุณ คุณเย่” หลินต้าฮุยยิ้มอย่างมีความสุข จากนั้นพยักหน้ากับทุกคน แล้วก็ออกไป
เย่เชินหลินยืนขึ้นด้วยความเคารพ ยื่นซองเอกสารสีขาวให้กับจ้าวเหวินอิงด้วยสองมือ
เซี่ยชีหรั่นมองซองเอกสารนั้นด้วยความตะลึง
จ้าวเหวินอิงกล่าวขอบคุณ จากนั้นดึงรายงานผลตรวจออกจากซองมา ประทับตราศูนย์ประเมินผลตงเจียง เวลาประเมินคือเมื่อวาน ผลตรวจแสดงออกมา ทั้งสองฉบับไม่มีความสัมพันธ์ระบบเครือญาติ
กระดาษบางๆแผ่นนั้นสั่นบนมือจ้าวเหวินอิง จากนั้นเธอฝืนยิ้มออกมา มองเซี่ยชีหรั่นอย่างเสียใจ พูดพึมพำ “ไม่ใช่จริงๆด้วย ฉันยังคิดว่าเธอจะต้องเป็นลูกสาวของฉันแน่นอน ทำไมผลถึงเป็นเช่นนี้ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
“ทางเราไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน เส้นผมของท่าน ยังมีเส้นผมของชีหรั่นฉันเป็นคนใส่เข้าไปในซองด้วยตัวเองแล้วมอบให้ผู้ช่วยของฉัน เขาทำงานรอบคอบ และเป็นการตรวจแบบไม่ระบุชื่อ ดังนั้นคงไม่มีใครทำอะไรแน่นอน ความจริงผลตรวจนี้ พวกเราก็ตกใจเช่นกัน ฉันก็เสียใจ ท่านก็รู้ ชีหรั่นตามหาแม่มาตั้งหลายปี ไม่ง่ายเลย ครั้งนี้เจอคุณที่เป็นความหวังที่ใหญ่มาก ก็ยังได้ผลที่ทำให้รู้สึกเศร้าใจเช่นนี้ ฉันยังแอบหวังว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ” พูดจบ เย่เชินหลินก็ถอนหายใจ
เขาไม่ค่อยพูดโกหก ถ้าจะโกหกก็จะพูดแต่งเรื่องไม่จริงมาพูดให้ดูจริง ทำให้คาดเดายาก
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินด้วยความซาบซึ้งมาก แล้วมองจ้าวเหวินอิงด้วยความเศร้า เอื้อมมือไปจับมือของเธอ กล่าวอย่างขมขื่น “ท่านจิตใจดีมีเมตตาขนาดนี้ ฉันก็คาดหวังว่าฉันจะเป็นลูกสาวของท่าน แต่ว่าไปแล้วถึงแม้จะบอกว่าฉันเกิดช่วงฤดูร้อน แต่ว่าในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็มีเด็กมากมาย ใครจะไปทราบว่าผู้อำนวยการศูนย์อาจจะจำผิดก็ได้ เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว เกรงว่าพวกเขาน่าจะจำผิดแล้ว”
“ก็เป็นไปได้ ลูกสาวของฉัน........” จ้าวเหวินอิงอยากพูดว่า ลูกสาวของเธอน่าจะตายไปแล้วจริงๆ ตอนเด็กเกิดมาไม่มีเสียงร้องเลย นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถปลอมได้
“พวกเรารู้จักกันก็เป็นวาสนา เด็กน้อย ถ้าคุณชอบฉัน ต่อไปสามารถโทรหาฉันบ่อยๆนะ ส่งข้อความ ก่อนที่เธอจะเจอแม่ ให้ฉันเป็นแม่ของเธอนะ” จ้าวเหวินอิงจับมือเซี่ยชีหรั่น พูดเบาๆ
“อืม ได้ค่ะ ขอบคุณท่านมาก”
ตอนแยกกัน จ้าวเหวินอิงกับเซี่ยชีหรั่นก็โอบกอดกันอีกครั้ง
ถึงแม้ไม่ได้ยอมรับกันอย่างเป็นทางการ เซี่ยชีหรั่นก็สามารถรู้สึกถึงความชอบที่แม่มีต่อเธอ ดังนั้นเมื่อกลับไปนั่งในรถ หัวใจของเธอก็ยังไม่สามารถสงบได้
“หลิน รายงานผลตรวจปลอมฉบับนั้นเรื่องมันเป็นอย่างไรเหรอ”
“เรื่องมันเป็นอย่างไร” เย่เชินหลินทำงานมักจะมีแผนสำรองเสมอ เขากลัวว่าพ่อแม่ของเซี่ยชีหรั่นจะเต็มใจไม่ยอมรับเธอ เธอก็จะเสียใจ ดังนั้นตั้งใจให้หลินต้าฮุยเอาเส้นผมของตัวเองกับแฟนของเขาไปทำการตรวจสอบเพื่อผลปลอมอีกหนึ่งฉบับ
ก็ถือว่าเป็นการตรวจเช็กว่าพวกเขาไม่ได้แต่งงานกับญาติของตัวเองด้วยมั่ง ตอนที่เย่เชินหลินเสนอความต้องการนี้ หลินต้าฮุยขมวดคิ้วแล้วคิดหนัก
เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ได้รายละเอียดอะไรมากมาย อย่างไรก็ตามผลที่ได้คือสิ่งที่เธอต้องการ
“คุณว่า ไม่สามารถนับญาติกับฉันได้ เธอจะดีใจหรือเสียใจ” เธอถามเชินหลิน
“เธอน่าจะผิดหวังมากกว่า สำหรับเธอแล้วไม่มีลูกแล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องดีอะไร”
“แล้วคุณว่าการตัดสินใจของฉันถูกต้องไหม คุณสามารถช่วยใจทำความเข้าใจเสนาธิการหลี่เป็นคนอย่างไรไหม ถ้าเขาไม่ใช่คนแบบ.....ช่างเหอะ ไม่ต้องดีกว่า แค่ฉันรู้ว่าเธอเป็นแม่ของฉันก็เพียงพอแล้ว ถึงเสนาธิการหลี่จะเป็นคนใจกว้างแค่ไหน ถ้าเขาเห็นฉันกับแม่ติดต่อกันเขาก็คงจะไม่สบายใจ ผู้ชายทั่วไปก็คงไม่มีใครดีใจหลอก เมื่อเธอแก่แล้ว อยากให้ฉันดูแล ฉันค่อยบอกเธอ ฉันเป็นลูกสาวของเธอ เมื่อถึงตอนนั้นเธออาจจะดีใจมากก็ได้”
ผู้หญิงโง่ เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นไว้ ไม่ได้พูดอะไร
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจ อีกหนึ่งเหตุผลที่เธอไม่ยอมรับแม่ เธอเป็นลูกสาวนอกสมรสของเธอ สำหรับเธอแล้ว ช่วงเวลานั้นเธอคงจะไม่ค่อยยินดีและทุกข์ใจไม่น้อย
เธอไม่อยากให้เธอคิดถึงเหตุการณ์ของช่วงเวลานั้น เช่นนี้ดีแล้ว ให้เธอผิดหวังอยู่พักหนึ่ง ในไม่ช้าก็จะกลับสู่สภาวะก่อนหน้าของชีวิต
จ้าวเหวินอิงกลับถึงบ้านในตงเจียง นั่งอยู่ในห้องรับแขกเป็นเวลานาน อายุรูปร่างหน้าตาของเซี่ยชีหรั่น ทั้งหมดนี้ทำให้เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไปไหม
เมื่อดวงตาของเธอมองลงมา เห็นเสื้อคลุมที่เธอวางไว้บนโซฟามีเส้นผมพันอยู่หนึ่งเส้น สีหน้าของเธอประกายอารมณ์ที่ซับซ้อน เธอลุกขึ้นแล้วหยิบมันอย่างระมัดระวัง ผมเส้นนั้นดำกว่าเส้นผมของเธอมาก คิดว่าน่าจะเป็นของเซี่ยชีหรั่น
……
บางคืน ประธานจงขมวดคิ้วแล้วมองดูผลตรวจในมือ ความจริงไม่ต้องดู เขาก็สามารถสรุปได้ว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นลูกสาวของเขา
ปรากฏว่า เธอเป็นลูกสาวของเขาจริงๆ
สำหรับลูกสาวคนนี้ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า เขาไม่รู้สึกยินดีแม้แต่นิดเดียว
ทุกครั้งที่เซี่ยชีหรั่นออกมาข้างนอกแล้วอยากเข้าห้องน้ำ เขาก็จะอยู่ข้างๆ มีหลายครั้งที่เธอบอกเย่เชินหลินว่า อย่าให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยติดตามใกล้ชิดมากเกินไป
“ฉันเป็นแค่คนธรรมดา ไม่มีใครคิดร้ายต่อฉันหลอก” เขาอ้อนเย่เชินหลิน สิ่งที่อยู่ข้างเขายอมทำตามที่เธอต้องการ แต่เขาไม่ได้ยอมในเรื่องนี้
“คุณไม่ได้เป็นแค่คนธรรมดา คุณยังเป็นผู้หญิงของฉันด้วย ฉันไม่สามารถอยู่กับคุณได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบเก่อต้าลี่ซ้ำอีก คุณต้องเชื่อฟัง ห้ามละสายตาผู้รักษาความปลอดภัยเด็ดขาด เข้าใจไหม ไม่เช่นนั้นฉันจะโกรธมาก”
เย่เชินหลินรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนจิตใจดี และแคร์เขามาก เขาบอกว่าเขาจะโกรธ เธอก็จะไม่กล้าวิ่งหนี
“ตกลง งั้นก็เชื่อคุณ แต่ไปห้องน้ำเขาก็ต้องตามไปด้วย ฉันรู้สึกอึดอัดใจ สามารถ........”
“ไม่ได้”
“ก็ได้”
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเขาทำเพื่อปกป้องเธอ เธอเองก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเก่อต้าลี่ซ้ำอีก ต่อไปนี้เธอจะต้องระวังตัวให้มากขึ้น ขณะที่เธอกำลังเช่นนี้ ทันใดนั้นเธอได้ยินเสียงมาจากข้างหลังเธอ “คนสวยหลบหน่อย ฉันจะถูพื้น”
เธอหันกลับมาตามสัญชาตญาณ มือข้างหนึ่งเอื้อมมาที่เธอ ปิดจมูกและปากของเธอ ในไม่ช้าเธอก็หมดสติ
ตอนที่เซี่ยชีหรั่นตื่นมา ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ก่อนจะลืมตา เธอได้กลิ่นบุหรี่ เธอสำลักและไอไปสองครั้ง
ลืมตา เธอเห็นเพดานสีขาว ยังรู้สึกเวียนหัวอยู่ แต่มีความรู้สึกที่ไม่ดี
เธอเหมือนโดยวางยาสลบ แล้วพามา แย่แล้ว
ความตื่นตัวของเธอทำให้เธอนึกถึง น่าจะเป็นอีกหนึ่งเก่อต้าลี่
ในความตื่นตระหนก เธอสำรวจตัวเองอย่างรวดเร็ว เสื้อคลุมหายไป เสื้อเชิ้ตทำงานยังคงอยู่
เธอหันมองรอบๆ เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น กำลังสูบบุหรี่แล้วมองมาที่เธอ
ประธานจง
นี่มันเรื่องอะไรกัน เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอวางยาสงบแล้วมาปรากฏตัวตรงหน้าประธานจง เขาน่าจะเป็นพ่อของเธอ ส่วนนี้เธอพอจะทราบ คิดว่าเขาก็น่าจะทราบ เขายังเอาเส้นผมของเธอไปไม่ใช่หรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...