ตอนที่522 สาวใช้ตัวแสบ426
“ได้! ลูกสาวพ่อดีที่สุด คืนนี้พ่อไปหาลูกแน่นอน ลูกหยุดร้องไห้เถอะนะ พ่อได้ยินแล้วรู้สึกทุกข์ใจ”
“ฉันไม่ร้องแล้ว ไม่ร้องแล้ว” เซี่ยชีหรั่นพูดแต่น้ำตาก็ยังไหล
เย่เชินหลินเข้าใจความตั้งใจของจงหวีฉวนแล้ว เขาหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกระเป๋า แล้วช่วยเซี่ยชีหรั่นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธออย่างเงียบๆ การกระทำนั้นช่างอ่อนโยนเหลือเกิน
หลังจากที่สองพ่อลูกจบการสนทนา เซี่ยชีหรั่นก็ถามเย่เชินหลินอย่างแน่ใจ :“ เขาบอกว่าเขาจะมาคืนนี้ คุณจะไม่โกรธใช่ไหม?”
“เด็กโง่ คุณอยากทำอะไรก็ได้ แค่เห็นคุณมีความสุข ผมก็มีความสุขแล้ว” เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นไว้อ้อมกอด เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าคำพูดหวานๆ พวกนี้ฟังดูเลี่ยนเกินไป ฟังคนอื่นพูดมันไม่ลึกซึ้งเลย
แต่ผู้หญิงของเขาเป็นผู้หญิงที่ที่ไร้เดียงสาและขาดความปลอดภัยที่สุดในโลก เขาต้องพูดบ่อยๆ เพื่อทำให้เธอรู้สึกสบายใจ เขาไม่เพียงแต่ปากที่พูดอย่างนั้นในใจเขาก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน ขอแค่ให้เธอมีความสุขให้เขาทำอะไรเขาก็ยอม
“คุณดีจัง โม่ ทำไมคุณถึงทำดีกับฉันขนาดนี้ ฉันรู้สึกฉันเป็นคนที่โชคดีมาก ฉันคิดไปคิดมา แม้แต่ฉัน.....” เธออยากจะบอกว่าแม้แต่พ่อฉันก็ยอมรับฉันแล้ว แต่ก่อนที่จะพูดออกมา เธอกลับนึกถึงคำที่เพิ่งเรียกเขาว่าประธานจง เธอกลัวจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อเขา คำพูดที่มาถึงปากกลับต้องกลืนมันเข้าไป
“คุณว่า ความนี้มันจะเป็นจริงใช่ไหม?” เซี่ยชีหรั่นถามเขา เธอไม่ใช่ไม่อยากเชื่อเขา อาจจะเป็นเพราะการเจอกันครั้งแรกของพวกเขา สร้างความประทับใจกับเธอไว้เป็นอย่างมาก เธอสงสัยกับความจริงใจที่เขามี
ใบหน้าเล็กๆ ของเธอเต็มไปด้วยความหวัง
เธอหวังว่าจะได้รับคำตอบที่แน่ใจ ทำไมเย่เชินหลินจะดูไม่ออก
“เราค่อยเป็นค่อยไป คุณจะรู้สึกมั่นใจเมื่อเวลาผ่านไป โอเคไหม?” เขาลูบผมเธอแล้วพูดเบาๆ เขาไม่อยากโกหกเธอให้ภาพลวงตากับเธอ จะจริงหรือไม่จริง ไม่ควรขึ้นอยู่กับเขาปล่อยให้เธอรู้สึกด้วยตัวเองดีกว่า
เซี่ยชีหรั่นไม่พูดอีกต่อไป เธอโน้มตัวลงเบาๆ บนอ้อมแขนของเย่เชินหลิน แล้วหลับตาลงและนึกถึงการพบพ่อของเธอในค่ำคืนนี้ เธอเฝ้ารอคอยเป็นอย่างมาก
เขาไม่รบกวนความคิดของเธอ วางมือลงบนผมของเธอแล้วลูบเบาๆ เขาก็คิดอยู่ว่าจะเจรจากับไอ้สุนัขจิ้งจอกแก่นั้นยังไง เมื่อใกล้ถึงโรงแรม เซี่ยชีหรั่นจู่ๆ ก็นึกอะไรได้บางอย่าง เงยหน้ามองเย่เชินหลินแล้วพูดกับเขาเบาๆ :“ คุณว่าทำไมฉันโง่ขนาดนี้ เขาบอกจะมาคืนนี้ ฉันลืมชวนเขามาทานข้าวได้ยังไง ฉันอยากทำอาหารสองสามอย่างให้เขาทานด้วยฝีมือฉันเอง คุณว่าดีไหม? แต่เขาน่าจะคุ้นเคยกับอาหารรสชาติที่หรูหรา อาหารที่ฉันทำเขาต้องไม่ชอบแน่เลย”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเซี่ยชีหรั่นดูเศร้าหมองนิดๆ เย่เชินหลินเห็นแล้วไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทุกข์ใจขนาดไหน ยิ่งเซี่ยชีหรั่นเหมือนเด็กน้อยที่อยากให้พ่อตัวเองมีความสุข เขาก็ยิ่งอยากจับไอ้แก่นั้นมากระทืบให้สาแก่ใจ
“ใครบอกว่าเขาจะไม่ชอบ? ต้องชอบแน่ๆ เดี๋ยวผมคิดกับคุณเอง ทำอะไรให้เขางั้นเหรอ คุณโทรไปหาเขาก่อน ว่าเขาสะดวกที่จะมาทานข้าวด้วยไหม ถ้าเขามา คุณค่อยคิดว่าจะทำเมนูอะไร”
“อื้ม อื้ม อื้ม” เซี่ยชีหรั่น พยักหน้ารัวๆ คิดในใจว่าเธอนี่โง่จริงๆ
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและลังเลเล็กน้อยก่อนจะกดโทรออก ไม่รู้ว่าที่พ่อเธอโทรมาเมื่อกี้นี้แอบโทรมาหรือเปล่า แล้วถ้าเธอโทรกลับไปเขาไม่สะดวกที่จะรับสายละ?
เพราะยังไงเขาก็แตกต่างจากคนทั่วไป ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงานก็คงจะไม่สะดวก
“ไม่ต้องคิดมาก ถ้าเขาไม่สะดวกจริงๆ เขาคงไม่ติดต่อคุณมาก่อนหรอก ไม่มีอะไร โทรไปเถอะ” เย่เชินหลินเดาความคิดเธอออก เขาพูดอย่างนั้น เซี่ยชีหรั่นก็ไม่คิดมากอีกต่อไปและกดโทรออกทันที
โทรศัพท์มือถือของประธานจงวางอยู่บนโต๊ะทำงานด้านหน้า เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น เขาจึงหยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นเซี่ยชีหรั่นที่โทรมา เธอคงไม่ได้โทรมาไม่ให้เขาไปกะทันหันหรอกใช่ไหม ไม่น่า เท่าที่เขาดู เซี่ยชีหรั่นก็หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ติดต่อกับเขาในฐานะพ่อของเธอ
เขากดปุ่มรับสายและพูดอย่างหนักแน่นว่า :“ชีหรั่น นี่พ่อเองนะ” การตอบรับแบบนี้ ทำให้ให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกอบอุ่นมาก และมันก็หมายความว่าเขาสะดวกที่จะคุยกับเธอ
“ฉันอยากชวนคุณมาทานข้าวที่บ้านฉันค่ะ ฉันอยากทำอาหารให้คุณทาน ไม่รู้ว่าคุณพอจะมีเวลาหรือเปล่าคะ แต่ถ้าไม่สะดวก...”
“สะดวก ลูกสาวฉันจะทำอาหารให้ฉันกินทั้งที ต่อให้ไม่มีเวลาก็ต้องหาเวลาไปกินให้ได้ และคืนนี้ฉันก็ว่างด้วย”
“โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณอยากทานอะไรคะ? เดี๋ยวฉันทำไว้ให้คุณค่ะ “เสียงของเซี่ยชีหรั่นตื่นเต้นเล็กน้อย และประธานจงก็ยินดีที่เธอต้อนรับเขา
“อะไรก็ได้ ไม่ว่าเธอทำอะไรฉันก็ชอบหมดแหละ เด็กโง่”
คำว่าเด็กโง่ของจงหวีฉวน ทำให้ตาของเซี่ยชีหรั่นร้อนเผา เธอกลัวตัวเองจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เธอจึงรีบพูดว่า เจอกันคืนนี้ค่ะและรีบกดตัดสายไป
ดวงตาแดงๆ ของเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินเห็นแล้วทั้งรักทั้งเกลียด รู้ว่าเธอเป็นคนที่อ่อนไหว ไม่เคยได้รับความรักเลยตั้งแต่เธอเป็นเด็ก บางทีเธออาจต้องการความรักมากๆ เสียดายสิ่งที่เขาให้กับเธอได้เป็นเพียงความรักของชายหญิง ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทดแทนความรักของพ่อที่เธอขาดหายไปได้
“เดี๋ยวผมช่วย” เสียงเขาแหบพร่า ขณะที่ช่วยเธอจัดเสื้อเขายังไปบีบหนักๆ สองครั้งที่หน้าอกเธอ
แก้มเธอแดงอย่างกับลูกแอปเปิล จนเขาไม่กล้าที่จะมองเธอเพราะกลัวว่าตัวเองจะไม่ไปกินข้าวก่อน
“คุณรู้สึกไหม” เขาถามขึ้นอย่างเบาๆ เขาชอบดูเวลาที่เธอเขินอาย
“ไม่ ไม่ “เซี่ยชีหรั่นจ้องเขาตาโต้ และตอบอย่างเขินอาย
“ผมดูหน่อย....” ทันทีที่สิ้นเสียงคำพูด มือใหญ่ของเขาก็ล้วงเข้าไปในกระโปรงเธอทันที
เธอเกือบจะกรีดร้องออกมา แต่การ์ดรักษาความปลอดภัยยังยืนอยู่ข้างนอก ถึงแม้จะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในรถ แต่ได้ยินเสียง เธอก็ไม่กล้าอยู่ดี
“อย่า...อย่าทำแบบนี้นะคะ เดี๋ยวถ้าเกิดเขาเปิดประตู ฉันตายแน่เลย” เธอลดเสียงลงและพูดเบาๆ ที่ข้างหูเขาอย่างขอร้อง แต่คำพูดเช่นนี้สำหรับคนร้ายบางคนฟังดูก็เหมือนพูดว่า คนบ้า คนบ้า ยิ่งฟังก็ยิ่งอยากรังแกเธอ
“เขาไม่กล้า”
เย่เชินหลินกระซิบพูดอย่างเบาๆ แต่การเคลื่อนไหวเขาไม่เคยหยุด หลังจากที่รับรู้ว่าผู้หญิงของเขาก็มีอารมณ์เหมือนเขาเช่นกัน เขาจึงดึงมือออกอย่างพอใจและยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ยิ่งทำให้เซี่ยชีหรั่นหน้าแดงใจเต้นอย่างแรง
การ์ดรักษาความปลอดภัยไม่กล้าที่เปิดประตูอีก คนขับรถได้ยินข้างหลังของเขาไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อีก เขาก็ไม่กล้าขยับตัวไปไหน
เย่เชินหลินหลังจากช่วยจัดเสื้อเธอเสร็จและช่วยเธอจัดผมให้เรียบร้อย แล้วลงจากรถอย่างใจเย็นและเดินอ้อมจากทางด้านหลังเพื่อมาเปิดประตูให้เธอ
การ์ดรักษาความปลอดภัยก็กลัวคุณนางเย่ของพวกเขาจะอาย เลยไม่มีใครมองเธอเลย หลังจากที่พวกเขาทั้งสองลงจากรถ การ์ดรักษาความปลอดภัยก็กลับขึ้นไปบนรถตามระเบียบของพวกเขาและรออยู่ข้างนอก
“โม่ ให้พวกไปกินข้าวเถอะ นี่ก็ถึงเวลากินข้าวเที่ยงแล้ว” เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นเบาๆ เย่เชินหลินพยักหน้าและหันไปเคาะกระจกฝั่งคนขับ สั่งให้เขากับการ์ดรักษาความปลอดภัยไปกินข้าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...