สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน นิยาย บท 60

บทที่ 60 วิงวอน

ไม่นานหลังจากที่เย่เชินหลินออกไป รถประจำตำแหน่งของฝู้เฟิ่งหยีก็มาถึงบ้านตระกูลเย่

ส้งหลิงหลิงต้อนรับอยู่ตรงประตูอย่างอบอุ่น และพูดอย่างอ่อนหวานว่า "คุณป้า มาแล้วเหรอค่ะ สองวันมานี้คิดถึงคุณป้ามากเหลือเกินค่ะ"

"ปากเล็กๆนี้ช่างหวานจริงๆ" ฟู่เฟิ่งอี๋หัวเราะ

ส้งหลิงหลิงลากเซี่ยชีหรั่นที่ยืนอยู่เคียงข้างกับเธอและจัดการแนะนำเธอกับฝู้เฟิ่งหยีอย่างเป็นทางการ: "คุณป้าค่ะ หนูกับเซี่ยชีหรั่นได้เห็นพ้องต้องกัน หนูได้รับเธอมาเป็นน้องสาวแล้วค่ะ คุณป้าคงจะยินดีกับหนูด้วยใช่มั้ยค่ะ

ฝู้เฟิ่งหยียิ้มเบา ๆ " นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดี แล้วป้าจะไม่มีความสุขได้อย่างไรจ๊ะ "

เรื่องนี้สำหรับเซี่ยชีหรั่น หลังจากที่เธอกลับไปก็แล้วแต่โชคชะตา

ตอนอยู่ข้างนอกเขาเป็นยังไงงั้น ส้งหลิงหลิงไม่สามารถมองเห็นได้ เธอทำได้แค่เพียงปิดหูปิดตาข้างหนึ่งไปแค่นั้น

เซี่ยชีหรั่นก็อยู่ที่บ้านนี้ และเย่เชินหลินก็ให้ความสนใจคนรับใช้คนนี้เป็นพิเศษอย่างเปิดเผย มักจะทำให้ส้งหลิงหลิงนั้นต้องรู้สึกอึดอัดอยู่เสมอ

พวกเขามีการหมั้นหมายกันไว้อยู่ และฝู้เฟิ่งหยีเองก็ไม่ต้องการจะเห็นเรื่องที่ไม่คาดฝัน

ส้งหลิงหลิงจู่ๆก็รับเธอมาเป็นน้องสาวบุญธรรม ไม่บอกก็พอจะดูออก ว่าเธอต้องการยับยั้งพวกเขา แค่เริ่มต้นก็คิดเรื่องที่ฉลาดแบนนี้ได้แล้ว ดูแล้วเรื่องนี้คงไม่ต้องถึงมือเธอ

"ในเมื่อเซี่ยชีหรั่นก็เป็นน้องสาวของเธอแล้วในตอนนี้ เจอกันครั้งหน้าป้าจะเตรียมของขวัญรับขวัญให้ละกันจ๊ะ " ฝู้เฟิ่งหยีกล่าวอย่างสุภาพ

"ขอบคุณค่ะ คุณป้า!" ส้งหลิงหลิงตอบอย่างขี้เล่น

เธอพูดคุยกับฝู้เฟิ่งหยีอยู่สักพักออดอ้อนให้เธอดูสบายใจ แล้วก็พูดว่า "คุณป้าค่ะ พรุ่งนี้จะเป็นงานแต่งงานของบ้านของเราทั้งสองแล้ว ตามธรรมเนียมเชินหลินกับหนูคืนนี้ไม่สามารถพบเจอได้ค่ะ"

"ถ้าอย่างงั้นแล้ว หลังอาหารกลางวันป้าจะให้พ่อบ้านสั่งให้คนขับพาหนูไปส่งกลับบ้านน่ะจ๊ะ"

"หนูมีคนขับรถที่บ้านมารับละค่ะ หนูอยากจะขอความกรุณาจากคุณสักอย่างได้มั้ยค่ะ ในเมื่อหนูก็ได้รับเซี่ยชีหรั่นมาเป็นน้องสาวแล้ว พ่อแม่ของหนูยังไม่เคยเจอเธอเลย หนูต้องการจะพาเธอกลับไปพบดพ่อแม่และน้องชายของหนูสักหน่อย คุณป้าโอเคมั้ยค่ะ ให้เธอค้างคืนที่บ้านของหนูสักหนึ่งคืน แล้วค่อยให้เธอกลับมาพร้อมกับทุกคนในวันพรุ่งนี้ค่ะ "

นี่คือเวลาที่ส้งหลิงหลิงรอคอย ถ้าหากเธอบอกกับเย่เชินหลิน และเขาออกจะปกป้องเซี่ยชีหรั่นซะขนาดนั้น ไม่มีทางที่จะให้พาเธอไปแน่นอน

"ไม่มีปัญหาชีหรั่น เธอไปด้วยกันกับหลิงหลิง และจะได้ออกไปเปิดหูเปิดข้างนอกด้วย " ฝู้เฟิ่งหยีสั่ง

"แต่คุณป้าค่ะ หนูกังวลว่าเชินหลินจะโทษหนูที่พาคนของบ้านตระกูลเย่ออกไป คุณฟ้าก็รู้ดีว่าอารมณ์ของเขาเป็นเช่นไร "

“ไม่เป็นไร ฉันจะบอกว่าฉันเป็นคนอนุญาตให้ไปเอง”

"คุณป้า ช่างเป็นดีเหลือเกินค่ะ!" ส้งหลิงหลิงโน้มตัวเข้าหาฝู้เฟิ่งหยีอย่างออดอ้อน และเธอก็ลูบผมที่นุ่มลื่นของเธออย่างเอ็นดู

หลังจากส้งหลิงหลิงทำตามคำร้องขอนี้สำเร็จ ไม่นานรถของบ้านเธอก็มาถึง

เซี่ยชีหรั่นรู้ดีว่าเธอไม่ได้พาเธอไปเป็นน้องสาวของเธอหรอก มิฉะนั้นเมื่อคืนเธอจะไม่พูดคำพูดเหล่านั้นออกมา

เธอคือผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา เธอไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธได้ และเธอทำได้เพียงต้องไปกับเธอ

กล่าวลากับฝู้เฟิ่งหยีเสร็จ ส้งหลิงหลิงก็พาเซี่ยชีหรั่นไปขึ้นรถ แล้วก็ตรงไปที่บ้านตระกูลส้งในทันที

ใบหน้าของรองประธานส้งเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ส้งหลิงหลิงถอดแบบมาจากเขาเป๊ะๆแม้กระทั่งรอยยิ้มปลอมๆนั้นก็เหมือนกัน

คุณแม่ของส้งหลิงหลิงก็ดูจิตใจดีมาก เธอจับมือของเซี่ยชีหรั่นขึ้นมากุมพร้อมกับจ้องมองไปมาอย่างเอ็นดู และยังมอบของขวัญรับขวัญให้กับเธอ

"เฮ้ ไอ้ตัวเล็ก มานี่เร็ว!" ส้งหลิงหลิงเรียกน้องชายของเธอที่กำลังก้มดูโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอดมาหาเธอ

"พวกเธอสองคนใครแก่กว่ากัน น้องชีหรั่นเธออายุเท่าไหร่แล้วจ๊ะ "

"23ค่ะ"

"งั้นคงเป็นส้งซูหาวแก่กว่าเล็กน้อย ซูหาวนี่คือน้องชีหรั่นน้องสาวของพี่ หลังจากนี้ถ้ามีคนแกล้งเธอ แกต้องปกป้องเธอด้วยนะ"

ในความเป็นจริงแล้ว ซูหาวได้รับคำสั่งจากพี่สาวของเขาแล้วทางโทรศัพท์

หลังจากเซี่ยชีหรั่นเดินเข้าประตูเขาก็ก้มหัวลงเล่นกับโทรศัพท์มือถือราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจที่เธอมา จริงๆแล้วเขาจงใจทำเป็นไม่สนใจ

พี่สาวของเขาต้องการให้เขา ...

"น้องชีหรั่นลองเรียกว่าพี่หาวสิจ๊ะ" ส้งหลิงหลิงพูดอย่างกระตือรือร้น

"พอแล้วคุณพี่สาว ให้เรียกพี่ชงพี่ชายอะไรกัน อย่างนี้ผมก็ดูแก่หมดสิ เรียกผมว่าซูหาวก็พอล่ะ"

"สวัสดีค่ะ ซูหาว!" เซี่ยชีหรั่นยื่นมือออกมาและจับมือกับเขาอย่างดูสุภาพ

แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเธอไม่สามารถถูกมองได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญอะไรสำหรับพวกเขา แต่เธอออกมานี้ก็เปรียบเป็นตัวแทนตระกูลเย่ ครั้งหนึ่งเย่เชินหลินเคยพูดไว้ว่า หากออกไปข้างนอกห้ามทำให้ตระกูลเย่ต้องขายหน้า

ส้งหลิงหลิงคิดว่าหลังจากที่เย่เชินหลินกลับมาถึงบ้าน และเขาพบว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นถูกเธอพาตัวออกมา เขาคงจะโทรศัพท์มาถามอย่างทันที

แต่ไม่ เขานั้นก็ได้เงียบไปเลย เขาไม่สนใจเกี่ยวกับการหายตัวไปของเซี่ยชีหรั่นเลย และก็ไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเธอกลับบ้าน

การหมั้นนั้นควรเป็นเหตุการณ์ที่มีความสุขที่สุดสำหรับคู่รักส่วนใหญ่ใช่ไหม การที่ต้องแยกจากกันในคืนก่อนแต่งงานนั้นคงจะเป็นอะไรที่ยากมากที่จะแยกจากกัน แต่ผู้ชายใจร้ายคนนั้น ทำไมเขาไม่มีแม้แต่โทรศัพท์เลยหรือไง

เซี่ยชีหรั่นรับรู้ได้ในใจว่าที่ส้งหลิงหลิงพาเธอกลับมาด้วยนั้น มันดูไม่ง่ายอย่างที่คิด

ในเมื่อเธอก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ก็จำเป็นต้องอยู่ให้ได้

หลังจากรับประทานอาหารเย็นส้งหลิงหลิง ได้จัดให้เซี่ยชีหรั่นพักที่ห้องพักแขกโดยบอกว่าเธอกำลังจะเตรียมตัวสำหรับพิธีหมั้นในวันพรุ่งนี้และก็จากไป

"อย่าล็อคประตูน่ะ เดี๋ยวฉันจะมาคุยด้วยจ๊ะ" เธอบอกกับเธอก่อนที่เธอจะจากไป

"อืม!"

ดูเหมือนเขาจะไม่รีบร้อน และตอนที่เขาพูดก็ไม่ได้เร็วนัก

เซี่ยชีหรั่นตกตะลึงในคำพูดของเขา สมมุติถ้าเธอรู้อยู่แล้ว แล้วเธอจะมีปัญญาหนีจากมือของเขาได้อย่างไร

เธอพยายามที่จะกัดที่แขนของเขา เขาก็ยิ่งกดหนักที่ปากของเธอขึ้นอีก เธอไม่มีช่องว่างที่จะใช้แรงได้อีก

ส้งชูหาวคว้าที่ตัวเธออย่างแรงแล้วเหวี่ยงเธอไปบนเตียง หลังจากนั้นปากที่ถูกปล่อยเป็นอิสระของเธอ ก็ตะโกนขอความช่วยเหลือว่า "ช่วยด้วยยยยยย ... " และส้งซูหาวก็ปิดปากเธอด้วยมืออันใหญ่ของเขาอีกครั้ง

เขาไม่ได้แข็งแรงมาก อย่างน้อยก็ไม่แข็งแรงเท่ากับเย่เชินหลินและไห่ลี่หมิน

แม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้สูงมาก สำหรับเซี่ยชีหรั่นคิดว่าเมื่อเทียบกับแรงผู้หญิงอย่าเธอแล้วก็ไม่สามารถช่วยตัวเองได้นับว่าเป็นการคุกคามทางเพศที่ร้ายแรงมาก

ร่างกายทั้งหมดของเขาได้ทับร่างกายของเซี่ยชีหรั่นไว้ และใบหน้าของเขาก็เข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ

"ฉันขอแนะนำว่า ให้คุณเพลิดเพลินไปกับมันจะดีกว่า ต่อต้านทานไปก็ไม่มีความหมายอะไร ไม่มีใครที่จะสามารถช่วยคุณได้ทั้งนั้น"

"อย่านะ ...อย่า...... " เซี่ยชีหรั่นส่ายหัวไปมาและขัดขืนอย่างสุดแรงที่มี โดยใช้ทั้งมือและเท้าพยายามผลักเขาออกไป แต่แล้วก็ไร้ประโยชน์

"คุณดิ้นรนขัดขืนเชิญขัดขืนได้เต็มที่เลย เดียวคุณก็จะรู้สึกอ่อนแอลงไปเอง แบบนี้สิถึงจะน่าตื่นเต้นมากขึ้น เอาเลย ดิ้นให้เต็มที่!"

ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นนั้นกลัวจนซีดเป็นสีขาว

ขณะที่กดเธออยู่นั้นเขาได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าของเขา และได้ถ่ายรูปใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นหยานขึ้นมาสองภาพ

"พี่สาว รูปถ่ายของคุณที่ถ่ายนี้วันพรุ่งนี้โลกก็จะกระจายไปทั่วโลกแล้ว" เขาดูภาคภูมิใจมาก และการแสดงออกของเขามันช่างดูโรคจิตมาก หัวใจของเซี่ยชีหรั่นหวาดกลัวจนเกือบจะหยุดเต้น

ไม่นะ ไม่! เซี่ยชีหรั่นร้องเรียกอย่างแรง เสียงของเธอถูกปิดปากไว้

เธอไม่มีทางเลือก นอกจากมองเขาและขอร้องเขา อย่าได้ทำเช่นนั้นเลย

ส้งซูหาวไม่แยแสต่อการอ้อนวอนของเธอแม่แต่น้อย ในใจเขาจำได้ภาพน้ำตาของพี่สาวของเขา และภาพพี่สาวของเขาร้องไห้อย่างน่าสงสาร

ยิ่งเธอมองเขาด้วยสายตาแบบนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งจินตนาการได้ว่าเวลาที่เธอจะมองเย่เชินหลินอย่างน่าสงสาร

ดวงตาของส้งซูหาวเปล่งประกายด้วยแสงที่เยือกเย็น และรอยยิ้มที่ดูเหยดหยามก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา แล้วถามเธอว่า: "อะไรกัน ต่อหน้าฉันยังจะมาทำเป็นไร้เดียงสา ได้ยินมาว่าเธอช่ำชองมากเลยนี่ ทำให้พี่เขยของฉันหลงพี่เสียจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว มาสิ คืนนี้ให้ผมได้ลิ้มลองในความชำนาญของเธอสักหน่อยสิ! "

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาค่อย ๆ ใช้นิ้วของเขาไต่ขึ้นไปที่หน้าผากของเธอและถูไปมา

ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นซีดเผือด และตอนนี้ร่างกายของเธอก็สั่นด้วยความกลัวอย่างที่สุด

รูปลักษณ์ที่ดูตกใจกลัวของเธอกลับทำให้ส้งซูหาวมองว่าช่างเซ็กซี่มาก และยิ่งมีความตื่นเต้นในการอยากจะแก้แค้นให้กับพี่สาวของเขาผสมเข้าด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

ใยเวลานี้ส้งหลิงหลิงกำลังยืนอยู่นอกประตู และบางครั้งเธอก็ได้ยินเสียงร้องว่าอย่าอย่าของเซี่ยชีหรั่นดังมาอยู่เรื่อย ๆ

วันนั้นพานหยูได้ให้คำแนะนำกับเธอไว้โดยบอกว่าน้องชายของเธอเองก็เป็นเสือผู้หญิงไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ใช้ให้น้องชายของเธอจัดการเซี่ยชีหรั่นล่ะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน