บทที่ 1087 สถานการณ์คลี่คลายแล้ว
บทที่ 1087 สถานการณ์คลี่คลายแล้ว
รามือนั้นไม่อาจเป็นไปได้
ฉีเจินเริ่มวางแผนตั้งแต่อยู่ชายแดน ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงวันนี้ เมื่อพบว่าตนอยู่ห่างจากบัลลังก์เพียงก้าวเดียว เขาจักยินยอมรามือเพียงแค่นี้ได้อย่างไร?
เขาจะสู้จนตัวตาย
ฉีเจินเฝ้ามองคนของตนยอมสวามิภักดิ์คนแล้วคนเล่า
เขาเฝ้ามองผู้ใต้บังคับบัญชาพลิกมือหันปลายกระบี่มาทางเขา
จากนั้นจึงส่ายหน้าแล้วหัวเราะออกมา ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาลู่อี้และฉีเซียว
ลู่อี้เอ่ยอย่างเยือกเย็น “ท่านถอยไป”
อย่างไรฉีเจินก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉีเซียว
ฉีเซียวไม่ถอยหลัง หากแต่กล่าว “สกุลฉีถูกเขาดึงเข้ามาพัวพัน ครั้งนี้เกรงจะเป็นหายนะครั้งใหญ่ ให้ข้าทำสิ่งสุดท้ายเพื่อสกุลฉีเถอะ!”
เก็บกวาดบ้านตนเอง
ช่วยรักษาชีวิตคนอื่น ๆ ในสกุลฉีเอาไว้
ฉีเจินมองกระบี่ที่หน้าอกแล้วเอ่ยกับฉีเซียว “หากข้าตายในมือเจ้าก็ไม่สูญเปล่าที่เราเป็นพี่น้องกันแล้ว”
เห็นได้ว่า หลังจากแผนการกบฏของเขาถูกเปิดเผย สกุลฉีย่อมถูกดึงเข้าไปพัวพัน ฉีเจินเองก็รู้เช่นกันว่านี่เป็นภัยมหันต์ต่อสกุลฉี
“หากรู้เช่นนี้ ไยจึงต้องทำ? ตำแหน่งนั่นดีถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”
“ฟ่านซู่เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ถูกควบคุมไว้ได้แล้ว”
“ข้าก็ไม่คิดว่าเขาจะทำได้”
“นี่เป็นเรื่องธรรมดา” ลู่อี้กล่าว “ความทะเยอทะยานเป็นดาบสองคม ทำร้ายผู้อื่นได้ ย่อมทำร้ายตนเองได้เช่นเดียวกัน”
วังหลวงเป็นสถานที่กักขังผู้คนจำนวนมาก แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังมีคนต้องการเข้ามา นั่งอยู่บนนั้นเหน็บหนาวจนยากจะกินอิ่มนอนหลับ ทว่าคนมากมายกลับยังอยากปีนป่ายขึ้นไป
งานที่เหลือหลังจากเรื่องราวสิ้นสุดเป็นหน้าที่ของเจียงหว่านเฉิน โม่ชิงเหยียน และคนอื่น ๆ ที่กลับมา
หากลู่อี้และฉีเซียวคิดจะถอนตัวก็ต้องปล่อยให้ผู้สืบทอดสืบทอดรุ่นหลังมารับหน้าที่ต่อไป
เรื่องที่เหลือใช้เวลาจัดการอยู่หลายวัน
ชาวบ้านในเมืองหลวงล้วนตระหนักว่าสายลมได้เปลี่ยนทิศทางไปอีกครา สกุลลู่กลับมาแล้ว แม่ทัพฉีซึ่งตั้งตนเป็น ‘วีรบุรุษ’ เมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือนจะหายตัวไปอย่างกะทันหัน
สกุลฉีถูกยึดทรัพย์สิน
คนของสกุลลู่กลับมายังสกุลลู่ ผนึกที่ปิดไว้แต่เดิมก็ถูกปลดออกแล้วเช่นกัน
ชาวบ้านอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ
พวกเขาอาศัยอยู่ใต้พระบาทของโอรสสวรรค์ พบเจอกับการเปลี่ยนแปลงมากมายในเวลาเพียงไม่กี่ปี อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าชนชั้นสูงจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตพวกเขาในวันรุ่งขึ้น
“เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว” ลู่จื่อชิงกอดต้นไหวโบราณที่บ้าน “หานจือ ข้าไม่อยากเป็นแม่ทัพหญิงแล้ว”
ซ่งหานจือเดินเข้ามาใกล้ ยกมือลูบหัวนางเบา ๆ “พูดนั้นง่าย แต่คำพูดของฮ่องเต้มีค่าดั่งทองคำ นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าอยากเป็นก็เป็น ไม่อยากเป็นก็ไม่เป็นได้หรือ?”
“เมื่อวานข้าได้ยินท่านพ่อท่านแม่คุยกัน พอเรื่องนี้จบ พวกเขาจะออกจากเมืองหลวงไปเที่ยวเล่น ข้าก็อยากไปท่องทั่วหล้ากับพวกเขาเช่นกัน ไม่อยากติดอยู่ในเมืองหลวงนี่แม้แต่น้อย”
“เช่นนั้นข้าเล่า?” ซ่งหานจือมองนางอย่างเศร้าสร้อย “เจ้าไม่ต้องการข้าแล้วหรือ?”
สาวใช้หลายคนปิดปากหัวเราะคิกคัก
ซ่งหานจือร้อนใจแล้วจริง ๆ แต่เขารู้ดีว่าการแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต ลู่จื่ออวิ๋นและสามีมีความสำคัญต่อลู่จื่อชิงมาก หากไม่ได้รับคำอวยพรจากพวกเขา ย่อมเป็นเรื่องที่ต้องนึกย้อนกลับมาเสียใจ
ด้วยสถานการณ์พิเศษ ซือหม่าจี้อิงจึงได้กลายเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาทฟ่านซวี่ กล่าวคือเขากลายเป็นมหาราชครูขององค์รัชทายโดยตรง
นับแต่โบราณกาลมา เขาเป็นคนแรกที่ไม่ได้สอบขุนนางแต่ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนาง อีกทั้งยังได้เป็นขุนนางขั้นสูงที่มีเพียงตำแหน่งเดียว อย่างไรก็ตาม ความสามารถและพรสวรรค์ด้านการเรียนรู้ของซือหม่าจี้อิงเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคน ทุกคนรู้สึกว่าหากไม่มีเขาเป็นคู่แข่ง ย่อมมีโอกาสชนะมากกว่า ดังนั้นจึงไม่มีใครคัดค้าน
การสอบขุนนางเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
บัณฑิตทุกคนเข้าห้องสอบ
ครั้งนี้ขุนนางสูญเสียกำลังคนไปไม่น้อย เดิมทีควรเป็นหน้าที่ของกรมพิธีการและกรมขุนนางที่คุมสอบ แต่แล้วกลับมีขุนนางเพียงไม่กี่คนเป็นผู้คุมสอบแทน
ลู่จื่อชิงเฝ้ามองซ่งหานจือเข้าห้องสอบไป
คนผู้หนึ่งวางมือลงบนไหล่นาง
นางหันกลับไปมอง
“เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่?”
จี้ซ่งเฉิงเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าตามพวกเจ้ามาที่นี่ ผลที่ได้คือพวกเจ้ายืนอ้อยอิ่งอยู่ที่ประตูนานสองนานก็ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น ข้าว่า เขาแค่เข้าไปสอบ ไม่ใช่ย่างสู่สนามรบ เจ้าต้องอาลัยอาวรณ์ถึงเพียงนี้หรือ?”
“คุณชายใหญ่จี้คิดจะทำอะไร?”
“ข้าต้องไปแล้ว” จี้ซ่งเฉิงเอ่ย “หลังจากเล่นอยู่ข้างนอกมานาน ทางนั้นมีเรื่องเร่งด่วน ข้าจึงต้องกลับไปเป็นฮ่องเต้ผู้น่าสงสารต่อ แต่ข้าคิดกระจ่างแจ้งแล้ว คราวนี้กลับไปข้าต้องผลิดอกออกผลโดยเร็วที่สุด รอสิบห้าปีผ่านไป ข้าจะได้สละราชบัลลังก์ให้กับผู้ที่เหมาะสม เหมือนฮ่องเต้ผู้นั้นของพวกเจ้า ข้าจัดการกับคนที่อยากแย่งชิงบัลลังก์เหล่านั้นไม่ได้จริง ๆ ตำแหน่งนั้นมีอะไรดีกัน? หากมีคนคิดจะมาแย่งชิงจากข้า ข้าจะประคองด้วยสองมือส่งให้เลย”
“หากข้าจำไม่ผิด บัลลังก์นี้ของท่าน ท่านก็แย่งชิงมาเหมือนกันกระมัง?” ลู่จื่อชิงเอ่ยด้วยความขุ่นมัว “หากท่านใจกว้างเพียงนั้น ตอนนั้นไยต้องแย่งชิงมันมาเล่า?”
จี้ซ่งเฉิงยกมือขึ้นกอดอกพลางกล่าว “ยังไม่ใช่เพราะตอนนั้นข้าอายุน้อยจึงบ้าระห่ำหรือ อีกอย่าง จะรู้ว่าอุจจาระรสชาติแย่หรือไม่ก็ต้องลองกินดูก่อนถึงจะตัดสินได้ ตอนนี้ข้ากินแล้ว รสชาติแย่ยิ่งนัก เช่นนี้ข้าบ้วนทิ้งไม่ได้หรือไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...