สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1098

บทที่ 1098 ตอนพิเศษ (4/2)

บทที่ 1098 ตอนพิเศษ (4/2)

“ท่านช่างทำให้คนนึกรังเกียจยิ่งนัก”

หลิวจิ่วจู๋พยายามสะบัดตัวออกจากมือของหลิ่วซานเฉวียน

“ในเมื่อพวกเขาล้วนเป็นญาติท่าน ข้าเป็นเพียงของเสียเงิน ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับท่าน แล้วท่านมีสิทธิ์อะไรมาต้องการที่ดินของข้า? นั่นเป็นของที่ท่านย่าทิ้งไว้ให้ข้า”

“ข้าเป็นพ่อเจ้า ข้าสั่งให้เจ้ายกให้ข้า…”

ลู่ฉาวจิ่งทนฟังไม่ไหวอีกต่อไปจึงคว้ามีดที่อยู่ข้างตัวไปจ่อที่คอของชายวัยกลางคนผู้นั้น

ถึงแม้เขาจะใช้ไม้ค้ำยัน ทว่าก็ไม่ได้ขัดขวางการเคลื่อนไหวที่ปราดเปรียวของเขาแม้แต่น้อย ยามนี้เองเขารู้สึกขอบคุณพี่หญิงรองยิ่งที่บังคับให้เขาฝึกวิชาตัวเบาตั้งแต่ยังเล็ก หากไม่ใช่เพราะพี่หญิงรอง เขาคงไม่มีทักษะอย่างในตอนนี้

หลิ่วซานเฉวียนพลันเหงื่อกาฬแตกพลั่ก จู่ ๆ ลำคอก็รู้สึกเย็นเฉียบขึ้นมา

เขามองหลิวจิ่วจู๋อย่างเคร่งเครียด “นังหนูจิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

เมื่อเห็นลู่ฉาวจิ่ง สีหน้าที่ไม่น่าดูชมของหลิวจิ่วจู๋ก็ดีขึ้นมาทันที แววตาที่เดิมทีสั่นไหวของนางแน่วแน่ขึ้นมา

“นางให้ท่านมาหลอกเอาที่จากข้า คงไม่ได้บอกท่านเรื่องที่ข้ามีสามีแล้วกระมัง? นี่คือสามีข้า หากภายหน้าพวกท่านรังแกข้าอีก เขาจะทุบตีพวกท่านให้แหลกเป็นชิ้น ๆ”

สิ้นคำ นางก็ยืดอก ราวกับต้องการจะบอกว่า ‘ข้าไม่กลัวพวกท่านแล้ว’

จู่ ๆ ลู่ฉาวจิ่งก็รู้สึกว่าหลิวจิ่วจู๋ซื้อเขามา ไม่ใช่เพียงเพราะเขาดูน่าสงสาร หากแต่ยังเป็นเพราะตอนนี้เขาดูดุร้ายเล็กน้อยอีกด้วย นางคิดจะซื้อเขากลับมาควบคุมสถานการณ์กระมัง

“ข้าเป็นพ่อเจ้านะ…”

“พ่อที่ไม่เคยเลี้ยงนางมานับเป็นพ่อที่ใดกัน พวกเราไม่ยอมรับ นางคุยด้วยง่าย แต่ข้ากลับคุยได้ไม่ง่าย ภายหน้าครอบครัวนี้ข้าเป็นคนตัดสินใจ” ขณะที่ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย มีดในมือเขาก็จ่อเข้าไปใกล้อีกเล็กน้อย

“โอ๊ย… เจ็บ ๆๆๆ …อย่าขยับ อย่าขยับ ข้าไม่เอาที่แล้ว ไม่เอาที่ดินแล้ว” หลิ่วซานเฉวียนตกใจขวัญผวาแล้วจริง ๆ

เจ้าคนผู้นี้ที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากที่ใดช่างเป็นคนใจคอโหดเหี้ยมจริง ๆ ถึงกลับกล้าใช้มีดทาบลงบนคอเขา อีกทั้งคอของเขายังมีเลือดไหลออกมาแล้ว

“ไปให้พ้น!” ลู่ฉาวจิ่งปล่อยมีด “หากต่อไปยังมาบ้านเราอีก เช่นนั้นจะไม่ใช่เพียงเสียเลือดเล็กน้อยเท่านี้แล้ว ท่านกลับไปถามภรรยาของท่านดูเถอะว่า ข้าจัดการกับคนของคหบดีจางอย่างไร พ่ออย่างท่านในสายตาเราไม่ได้แตกต่างอะไรกับคหบดีจาง คราวหน้าอย่าคิดว่าจะได้จากไปอย่างโดยไม่บุบสลาย”

หลิ่วซานเฉวียนวิ่งแจ้นออกไปแล้ว

หลิวจิ่วจู๋ถอนหายใจเบาๆ “ขอบคุณ เจ้าช่วยข้าอีกแล้ว เป็นดังคาด เจ้าคือดาวนำโชคของข้าจริง ๆ”

ลู่ฉาวจิ่งส่ายหน้า “เจ้าพาข้ากลับมาก็เพื่อจะได้หลุดพ้นจากสถานการณ์ในตอนนี้ บัดนี้ข้าช่วยเจ้าให้หลุดพ้นแล้ว รออาการบาดเจ็บของข้าหายดี ข้าจะจากไป”

“แต่ว่า พวกเราจดทะเบียนกันแล้วจริง ๆ” หลิวจิ่วจู๋จ้องหน้าเขา

“ถอนได้กระมัง?”

“ได้น่ะได้” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “เช่นนั้นพวกเรามาคุยกันเถอะ! ก่อนที่อาการบาดเจ็บของเจ้าจะหายดี เจ้าอยู่ช่วยข้าจัดการปัญหาก่อน รออาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้ว เราค่อยถอนหมั้น”

“ตกลง”

“เช่นนั้น ข้าควรเรียกเจ้าว่าอย่างไร?”

“ขายที่แล้วพวกเราจะเอาอะไรกิน?”

“ข้ากับจินเป่ยเข้าเมืองไปทำงานได้” หลิ่วซานเฉวียนกล่าว “การทำนาไม่ได้มีอนาคตอะไรอยู่แล้ว ยังไม่สู้ไปทำงานเป็นคนงานให้นายท่านผู้มั่งคั่ง ไม่แน่ว่าอาจจะดียิ่งกว่าตอนนี้”

หลิวจิ่วจู๋กำลังเปลี่ยนยาให้ลู่ฉาวจิ่ง ทว่าสหายผู้พูดเป็นต่อยหอยผู้นั้นของนางก็กลับมารายงานข่าวล่าสุดอีกครั้ง

“พ่อเจ้าขายที่ไปแล้วจริง ๆ” หยางชิงซือกล่าว “ที่ดินหลายหมู่ถูกขายไปแล้ว ขายได้สิบห้าตำลึงเงิน ยังมีปิ่นเงินสุดรักสุดหวงสองอันของน้าอวี๋ นั่นก็จำนำไปหมดแล้วเช่นกัน แลกได้สิบตำลึงเงิน ส่วนที่เหลือ พวกเขาเร่ยืมเงินไปทั่วทุกแห่ง มีหนี้สินมากมาย ทั้งยังรับปากว่าจะให้ดอกเบี้ยอีก เช่นนี้จึงยืมเงินจากคนในหมู่บ้านได้ยี่สิบตำลึงเงิน ว่ากันว่าตอนนี้ขาดเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้น ไม่รู้ว่าผู้ใดจะให้พวกเขายืมได้อีก”

“ยังจะมีผู้ใดอีกเล่า? แน่นอนว่าเป็นคนบ้านฝางซิ่วหลาน!”

“นั่นน่ะซี ตอนนั้นบ้านฝางซิ่วหลานขอสินสอดทองหมั้นสามสิบตำลึง ราคานี้แต่งแม่นางจากในเมืองได้ นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะกล้าขอ อีกทั้งพ่อใจจืดใจดำผู้นั้นของเจ้าก็ให้ไปจริง ๆ”

เรื่องที่เกิดที่บ้านของอวี๋ซื่อไม่ได้สำคัญต่อหลิวจิ่วจู๋กับลู่ฉาวจิ่ง ทั้งสองคนเพียงแค่เห็นเป็นเรื่องพูดคุยซุบซิบเท่านั้น ไม่ได้เก็บไปใส่ใจ

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ลู่ฉาวจิ่งก็ลุกจากเตียงเคลื่อนไหวได้ตามปกติ

ยามนี้เอง เขาได้เดินออกจากห้องนั้นเป็นครั้งแรกและได้สูดอากาศบริสุทธิ์ของหมู่บ้านสกุลหลิ่วเข้าไป

“หมู่บ้านสกุลหลิ่วของพวกเจ้า เหตุใดจึงยากจนเพียงนี้?”

หลิวจิ่วจู๋มองไปรอบ ๆ แล้วถามกลับ “หมู่บ้านใดก็ล้วนเป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ?”

“ข้าก็เคยไปที่หมู่บ้านอื่นเช่นกัน เพียงแต่ที่ดินของพวกเขาอุดมสมบูรณ์กว่า อีกทั้งถนนก็เรียบกว่า ในขณะที่ที่นี่นั้น… ดูเหมือนจะมีภูเขามากกว่า”

“ข้าไม่รู้ว่าข้างนอกเป็นอย่างไรเพราะไม่เคยไปจากที่นี่เลย บางทีอาจเป็นเพราะที่นี่เป็นชายแดนระหว่างอาณาจักรฮุ่ยกับอาณาจักรเฟิ่งหลิน จึงปกครองได้ไม่ดีกระมัง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย