สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 110

บทที่ 110 พวกเจ้าทุกคนได้เรียนหนังสือก็เท่านั้น

บทที่ 110 พวกเจ้าทุกคนได้เรียนหนังสือก็เท่านั้น

ถงซื่อจ้องมองมู่เจิ้งหานพลางลังเลที่จะกล่าว

ในฐานะแม่ นางหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกชายของตนจะประสบความสำเร็จ แต่นางก็ไม่อาจทำร้ายลูกสาวเพื่อให้ลูกชายมีชีวิตที่ดี ลูกสาวของนางต้องผ่านความยากลำบากมากมายมาทั้งชีวิต ทุกอย่างเพิ่งจะดีขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

ช่างเถิด หากหานเอ๋อร์ต้องการเรียนหนังสือจริง ๆ นางก็จะหาเงินจากการรับจ้างเย็บปักถักร้อยให้มากขึ้น เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมการศึกษาให้เขา หลังจากที่หานเอ๋อร์ได้กลายเป็นนักบัญชี เขาก็ย่อมเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้จ่ายและแบ่งอีกส่วนหนึ่งส่งคืนให้กับพี่สาว ต้องมีวันที่เขาชำระคืนแน่

“ข้าอยากเรียนหนังสือ” แววตาของมู่เจิ้งหานลุกโชนดุจเปลวเพลิง เขากล่าวด้วยท่าทีแน่วแน่ “ข้าจะขอยืมเงินจากพี่สาวและพี่เขยเพื่อใช้เป็นค่าเล่าเรียน ข้าจะจ่ายคืนให้อย่างแน่นอน”

คอยดูเถิด บุคคลที่ชาญฉลาดเช่นเขาแม้จะไม่ได้เป็นขุนนางอันดับหนึ่ง แต่ก็จะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ราชการหลังการสอบขุนนางอย่างแน่นอน เช่นนั้นแล้วจะเก็บซ่อนเขาไว้ให้เป็นชาวไร่ตลอดไปหรือ?

“หากนั่นทำให้เจ้าสบายใจก็เอาตามที่เจ้าว่าเถิด” มู่ซืออวี่กล่าว “เอาไว้พี่เขยของเจ้ากลับมา ข้าจะบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วขอให้เขาช่วยถามสำนักศึกษาชั้นดีให้”

แน่นอนว่าเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะสามารถเข้าสำนักศึกษาได้ แต่สำนักบัณฑิตเขาเขียวจะต้องมีพื้นฐานเบื้องต้นก่อนจึงจะเข้าเรียนได้ หากสำนักศึกษาเทียบเท่ากับโรงเรียนประถมในปัจจุบัน สำนักบัณฑิตเขาเขียวก็เทียบเท่ากับโรงเรียนมัธยมต้นหรือสูงกว่านั้น

หลังจากที่การสนทนาได้ข้อสรุป ร่างกายของมู่เจิ้งหานก็ราวกับถูกสูบฉีดไปด้วยเลือด เขารู้สึกมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น

มู่ซืออวี่กลัวว่าเขาจะออกไปไกลบ้าน นางจึงขอให้เขาช่วยทำคอกไก่ที่บ้านก่อน

…..

“เป็นเรื่องจริง เสี่ยวหานกำลังจะไปเรียนหนังสือแล้ว”

“เถี่ยโถว เจ้าไม่ได้เพียงคุยโวใช่หรือไม่?”

“ใช่แล้ว การคุยโวจะไม่เป็นเช่นนี้ แต่ครอบครัวของเขามีเงินเพียงพอที่จะส่งเสียเขาเรียนหนังสือด้วยหรือ?”

“ใช่แล้ว ข้าได้ยินมาว่าพี่สาวของเขาเป็นคนจ่าย”

มู่ต้าซานถือถังน้ำผ่านไป บังเอิญได้ยินการสนทนาของเด็ก ๆ ไม่นานนักแววตาอันมืดมนของเขาก็ฉายประกายซับซ้อน

ตุบ! ชาวบ้านที่ผ่านมาบังเอิญเดินชนเขา ทำให้มู่ต้าซานเดินโซซัดโซเซจนน้ำหกออกมาครึ่งถัง แปดเปื้อนร่างกายเขาจนเปียกโชก

“พี่ต้าซาน ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่? ขออภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไร” มู่ต้าซานเดินถือถังน้ำกลับบ้านอย่างเฉยเมย ราวกับว่าเขาไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ

เสียงพลันดังขึ้นจากสนามหญ้า มู่ต้าไห่เดินกลับมาพร้อมกับถังซื่อ

น่าประหลาดใจเสียจริง!

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเดินทางกลับมานับตั้งแต่ย้ายเข้าไปในเมืองหลวง

“ท่านแม่ เราเพิ่งเริ่มต้นทำกิจการ ยังทำเงินได้ไม่มาก ข้าได้แต่ซื้อปิ่นปักผมมาให้นะเจ้าคะ” ถังซื่อกล่าว

“เหตุใดจึงใช้เงินด้วยวิธีผิด ๆ เช่นนี้เล่า?” แม่เฒ่าเจียงกล่าวอย่างใจดี

นางจะใจร้ายเหมือนทุกทีได้อย่างไร?

ถังซื่อดึงชายเสื้อของมู่ต้าไห่ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ขณะกำลังจะเอ่ยปากพูด เขาพลันเห็นมู่ต้าซานถือถังน้ำเดินเข้ามา

“กลับมาแล้ว” มู่ต้าไห่เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม

“เงินของพี่เมียเขาก็ย่อมเอาไปลงทุนในกิจการของเขา หากเขามีเงินเพิ่มมากขึ้นก็ย่อมนำไปลงทุนเพิ่มมากขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ข้ายืมไม่ใช่หรือ? แม้พี่ชายจะรู้วิธีจัดการเงินได้ดี แต่เขาก็ช่วยเหลือเรามามากแล้ว ที่เหลือเราต้องพึ่งพาตนเอง”

“ท่านแม่ พี่เมียข้าดูแลเราอย่างดีมาโดยตลอด แต่เขาเองก็ต้องดูแลครอบครัว ท่านแม่ลองคิดถึงหลานชายที่น่าเอ็นดูของท่านเถิด เขากำลังเรียนหนังสือและต้องใช้เงินจำนวนมาก หากในอนาคตเขาได้เรียนในระดับบัณฑิตขั้นสูง อาจทำให้เขาไม่มีเงิน และนั่นก็จะทำให้ไม่ได้รับตำแหน่งทางการ การกระทำเช่นนั้นก็ถือเป็นการตัดอนาคตของเขาไม่ใช่หรือ? สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราในตอนนี้คือการหาเงินให้มากขึ้น ท่านและหลานชายสุดที่รักจะได้มีชีวิตที่ดี”

การพูดคุยระหว่างพวกเขายังคงดำเนินต่อไป

มู่ต้าซานไม่ต้องการรับรู้สิ่งใด แต่บทสนทนาเหล่านั้นดังก้องเข้าหูเขาอย่างชัดเจนจึงไม่อาจปิดหูปิดตาได้แม้ต้องการที่จะทำ

เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย หากท่านแม่ขายที่ดินจริง แล้วเขาจะทำอะไรกิน?

หานเอ๋อร์จะเรียนหนังสือ…

บางทีเขาควรทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เหมาะสมแก่การเป็นพ่อ

“ข้าไม่ยินยอมหากจะขายที่ดิน!” มู่ต้าซานตะโกนเสียงดังมาจากประตู

มู่ต้าไห่และภรรยาพยายามเกลี้ยกล่อมแม่เฒ่าเจียงอยู่นานจนเริ่มใจอ่อน ทว่ามู่ต้าซานกลับสร้างปัญหาอีกครั้ง พวกเขาจึงหมดความอดทนทันที

“เจ้ารอง เรามาคุยกับท่านแม่ เจ้าอย่าสร้างปัญหา”

“เรายังคงอยู่ที่นี่ ไม่ได้แต่งงานแยกครอบครัว ข้ากับน้องสามใช้ผืนนาร่วมกัน” มู่ต้าซานกล่าวอย่างแผ่วเบา “หากพวกท่านต้องการจะขายที่ดืนผืนนั้น แน่นอนว่าเราไม่เห็นด้วย”

“ท่านแม่เป็นเพียงผู้เดียวที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ได้” ถังซื่อกล่าวด้วยความไม่พอใจ

“เช่นนั้นก็ลองไปถามหัวหน้าหมู่บ้านดูเถิดว่า ที่นาในหมู่บ้านถูกจัดสรรไว้อย่างไร แล้วค่อยมาบอกท่านแม่ ให้นางตัดสินใจด้วยตนเองว่าจะขายหรือไม่” มู่ต้าซานกล่าวพลางจ้องมองพวกเขาอย่างเฉยเมย

“เจ้ารอง หากพี่ชายของเจ้าร่ำรวยขึ้นจากการทำกิจการ ข้าจะไม่ละเลยหรือปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเลวร้ายแน่ สะใภ้ที่งดงามทั้งภายในและภายนอกหาซื้อได้ในราคาไม่กี่ตำลึงเงิน เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะจัดหาให้เจ้า ตอนนี้อย่าโกรธหรือขัดขวางการตัดสินใจของเราเลย” มู่ต้าไห่กัดฟันกล่าว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย