สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 161

บทที่ 161 ทิศทางลมเปลี่ยนไปแล้ว

บทที่ 161 ทิศทางลมเปลี่ยนไปแล้ว

ท่ามกลางความมืด ดวงตาของลู่อี้วาบปลาบราวกับหมาป่า แผ่เจตนาสังหารชัดเจน

ในที่สุดมู่ซือเจียวก็สงบลง

คนคนนี้…. นางจะใช้อุบายเล่ห์กลด้วยได้อย่างไร?

นางหันหลัง วิ่งหนีไปทันที

มู่ซืออวี่โผล่หัวออกมาอย่างแปลกใจ “มู่ซือเจียวล่ะ? เมื่อครู่ไม่ใช่ตะโกนด่าข้าอยู่ตรงนี้หรือ?”

“ไปแล้ว” ลู่อี้กล่าว “กระทบกระเทือนจนเป็นบ้าไปแล้วกระมัง”

“จะว่าไปแล้วนางก็โชคร้ายจริง ๆ นึกไม่ถึงว่าจะตกหลุมรักหวังหมาจื่อ” มู่ซืออวี่ส่ายหัว “ไม่ต้องสนนางแล้ว พวกเรากลับเข้าไปเถอะ”

มู่ซืออวี่ทำบะหมี่ง่าย ๆ รับประทานพร้อมกับไส้หมูทอดสีเหลืองทอง ชวนให้คนทั้งครอบครัวน้ำลายสอ

ลู่อี้รับถ้วยจากมือของนาง “เจ้าไปพักเถอะ ข้าล้างเอง”

“วันนี้เจ้าทำงานตั้งหลายอย่าง คนที่ควรพักผ่อนคือเจ้าต่างหาก” มู่ซืออวี่ปฏิเสธ

“นั่นเป็นสิ่งที่บุรุษผู้หนึ่งควรกระทำ ปกติข้าไม่ได้อยู่บ้าน เรื่องเล็กใหญ่ในบ้านมีแต่เจ้าที่คอยเป็นกังวล นาน ๆ ทีข้าจะได้วันหยุด ให้ข้าทำมากขึ้นหน่อยเถอะ”

“ท่านไม่จำเป็นต้องล้าง นี่เป็นงานของสตรี”

“ข้าว่านะทั้งสองคน…” ลู่เซวียนฉวยเอาถ้วยไปจากมู่ซืออวี่ “ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ข้าล้างเอง”

“เจ้าล้างจานเป็นหรือ?” มู่ซืออวี่ไม่ได้ดูถูกความสามารถในการช่วยเหลือตนเองของลู่เซวียน เพียงแต่ตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยเห็นเขาเข้าครัวเลยสักครั้ง

ลู่เซวียนกลอกตา “สองสามปีก่อนเจ้าไม่เคยดูแลเด็ก ๆ เจ้าคงไม่คิดว่าเด็กสองคนนี้โตขึ้นมาด้วยตนเองหรอกนะ”

มู่ซืออวี่รู้สึกผิดทันที

นางไม่รู้ว่าเหตุใดตนต้องรู้สึกผิด คนที่ลู่เซวียนกล่าวถึงไม่ใช่นางเองแท้ ๆ

เมื่อมู่ซืออวี่ตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของลู่อี้ นางก็พบว่าตนหลงเหลือความรู้สึกผิดอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นางสามารถสบสายตาลึกล้ำของลู่อี้ได้แล้ว

เป็นดังคาด ความเคยชินช่างน่าหวาดกลัว

ลู่อี้ได้พักผ่อนเป็นเวลาสองวัน เมื่อเฟิงเจิงและคนอื่น ๆ มาแล้ว ลู่อี้ก็ไปช่วยงานเช่นกัน

“โม่หลาน” มู่ซืออวี่เรียกจางโม่หลานเอาไว้ “อีกเดี๋ยวเจ้าจะไปซื้อเต้าหู้ใช่หรือไม่?”

“ใช่แล้ว” จางโม่หลานตอบ “วันนี้ไม่รู้นึกครึ้มอะไร จู่ ๆ ก็อยากกินเต้าหู้ขึ้นมา

“เช่นนั้นข้าฝากซื้อสักสี่ชิ้น” มู่ซืออวี่หยิบเงินสองสามอีแปะออกมา

อันที่จริงในบ้านก็มีอุปกรณ์ทำเต้าหู้ แต่วันนี้ยุ่งวุ่นวายเกินไปจึงไม่มีเวลาทำ

“ได้สิ” จางโม่หลานเก็บกลับไป “จริงสิ พี่สะใภ้ ท่านรู้เรื่องมู่ซือเจียวกับหวังหมาจื่อหรือไม่?”

“เมื่อวานครึกครื้นเช่นนั้น ถึงจะไม่เห็นก็พอได้ยินมาบ้าง” มู่ซืออวี่กล่าว “ตอนนี้เป็นอย่างไรแล้ว? สองคนนั้นแต่งงานกันหรือยัง?”

“แต่งอะไรกันเล่า? ข้าได้ยินมาว่า…”

เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่ลู่อี้พูดก็ไม่ปฏิเสธอีก

“ครั้งนี้เป็นข้าที่ไม่คิดให้ดี ครั้งก่อนทำงานให้คุณหนูเจิ้ง พวกเจ้าล้วนอยู่ค้างที่นั่น ดังนั้นจึงสะดวกมาก ครั้งนี้ทำงานอยู่ที่บ้านข้า ดูไปแล้วงานนี้อาจจะต้องใช้เวลาครึ่งเดือนเพื่อทำให้เสร็จ จะไป ๆ กลับ ๆ ทุกวันคงไม่สะดวกนัก เอาอย่างนี้เถอะ วันนี้พวกเจ้ากลับไปเก็บสัมภาระของพวกเจ้า เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ช่วงนี้ก็พักอยู่ในหมู่บ้านเราชั่วครู่เถอะ เมื่อถึงเวลา ข้าจะบอกคนในหมู่บ้าน ให้เงินกับพวกเขา ถือเสียว่าเป็นค่าที่พักอาศัย”

“บ้านข้ากับเอ้อร์หนิวอยู่ได้สองคน” ต้าหนิวที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้น

ครั้งนี้มู่ซืออวี่ไม่เพียงแต่ให้เฟิงเจิงและสหายมาทำงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงต้าหนิวและเอ้อร์หนิวด้วย สองพี่น้องพอรู้ว่าครั้งที่แล้วเฟิงเจิงและคนอื่น ๆ หาเงินได้ไม่น้อย จึงมาหามู่ซืออวี่อย่างกระตือรือร้น พร้อมบอกว่าพวกเขาก็อยากทำงานด้วยเช่นกัน

มู่ซืออวี่มีความประทับใจอันดีต่อสองพี่น้องลู่ต้าหนิว ครั้งที่แล้วก็อยากพาพวกเขาไปด้วย แต่เถี่ยโถวกลับล้มป่วย เอ้อร์หนิวจำเป็นต้องอยู่ดูแลเขา ส่วนต้าหนิววุ่นอยู่กับสิ่งอื่นจึงพลาดโอกาสไป

ลู่อี้ส่งคนกลับไป ในตอนที่เขากลับมาก็ผ่านไปสามชั่วยามแล้ว

“เหตุใดเจ้าจึงยังไม่นอน?” ลู่อี้เดินเข้ามาเห็นมู่ซืออวี่ยังวุ่นอยู่ในครัว

“เจ้ายังไม่ได้กินข้าวเย็น ข้าจะนอนได้อย่างไร?” มู่ซืออวี่เอ่ยพร้อมกับเปิดฝากระทะ “ข้าเหลือหมูตุ๋นน้ำแดงไว้ให้เจ้าหนึ่งถ้วย เจ้าชอบกินหรือไม่?”

ลู่อี้มองมองหมูตุ๋นน้ำแดงหน้าตาน่าทาน ในใจพลันอบอุ่นขึ้นมา

“พรุ่งนี้เจ้าก็ต้องกลับไปทำงานแล้ว ข้าจะเข้าเมืองไปซื้อของพร้อมเจ้า” มู่ซืออวี่กล่าว “พวกเขาจะต้องอาศัยอยู่ที่นี่ครึ่งเดือน ผ้าห่มและสิ่งอื่น ๆ ก็ต้องตระเตรียมไว้ ต้องไปซื้ออาหารเสียหน่อย”

“ได้”

มู่ซืออวี่วางไหสุราไว้ข้างหน้า “สุราที่ข้าบ่มไว้ยังไม่ได้ที่ ข้าไปซื้อมาจากภัตตาคารแทน นับว่าเป็นสุรารสเลิศที่สุดในเมืองฮู่เป่ย เจ้าดื่มเสียหน่อย จะได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้า”

ลู่อี้มองนางง่วนอยู่กับเตาแล้วถามขึ้นว่า “เจ้าทำอะไรน่ะ?”

“ข้าจะหมักของอร่อย ๆ ไว้ พรุ่งนี้จะให้พวกเฟิงเจิงได้ร่ำสุราสักหน่อย” มู่ซืออวี่กล่าว “ท่านกินเสร็จแล้วก็ไปนอนเถอะ ไม่ต้องรอข้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย