สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 377

บทที่ 377 จงใจก่อปัญหา

บทที่ 377 จงใจก่อปัญหา

“จัดการตามกฎเถอะ!” มู่ซืออวี่กล่าว

“ข้าน้อยลองคำนวณแล้ว มีคนปลอมแปลงตัวตนอย่างน้อยหนึ่งร้อยคนขอรับ หากพวกเราจัดการตามกฎ เกรงว่าจะสร้างความไม่พอใจให้ผู้คน ซึ่งอาจกระทบต่อการก่อสร้างนะขอรับ” เวินเหวินซงที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น

“เช่นนั้นจะปิดหูข้างหนึ่งปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยให้พวกเขาทำอย่างที่ต้องการหรือ?” มู่ซืออวี่เอ่ยอย่างเยือกเย็น “หากไม่คุมให้อยู่ตั้งแต่แรก เช่นนั้นไม่ใช่ว่าเป็นการอนุญาตให้พวกเขาเอาเปรียบเราอย่างไรก็ได้หรือ?”

“เช่นนั้น…”

“ควรทำอย่างไรก็ทำเช่นนั้น ยังมีเฉินหู่อีก เขายักยอกเงินไปมากมาย เราต้องให้เขาคายบางอย่างออกมา ไม่อาจปล่อยให้แล้วไปเช่นนี้”

นักการหวังเดินเข้ามาจากข้างนอก เมื่อเห็นมู่ซืออวี่อยู่ในห้องจึงคำนับนางก่อน จากนั้นหันไปเอ่ยกับเวินเหวินซง “เมื่อครู่นี้เฉินหู่บาดเจ็บแล้วขอรับ”

“เหตุใดจึงบาดเจ็บ?” เวินเหวินซงขมวดคิ้ว

“ตกลงมาจากด้านบนระหว่างกำลังตรวจงานขอรับ บาดเจ็บสาหัส”

“บังเอิญเพียงนี้เลยหรือ?” เวินเหวินซงมองมู่ซืออวี่ “พวกเรากำลังจะจัดการเขา เขาก็ตกลงมาได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังบาดเจ็บในบริเวณก่อสร้าง เราคงจัดการยากแล้ว”

มู่ซืออวี่ก็คิดว่านี่บังเอิญเกินไปแล้ว

หากมีคนจงใจลงมือกับนางหนักเช่นนี้ ก็ช่างเป็นตัวละครที่ร้ายกาจจริง ๆ

“ในเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บ เช่นนั้นพวกเราก็ไปเยี่ยมเขาสักหน่อย” มู่ซืออวี่ลุกขึ้น “ไปเถอะ พวกเราไปดูนายช่างฝีมือยอดเยี่ยม ผู้อุทิศตนทุ่มเทให้กับงานคนนี้กัน”

ในเพิงพักอาศัยชั่วคราว หน้าทางเข้ามีคนมุงอยู่ไม่น้อย

เมื่อมู่ซืออวี่และคนอื่น ๆ มาถึง พวกเขาก็ได้ยินเสียงแหบแห้งโอดครวญขึ้นมาพอดี “สามี เช่นนี้จะทำอย่างไรดี ท่านเป็นเสาหลักของครอบครัวเรา หากท่านล้มลงเช่นนี้จะทำอย่างไรดี”

“พี่สะใภ้ ท่านอย่าร้อนใจไป พี่ใหญ่บาดเจ็บเพราะการทำงาน ใต้เท้าย่อมไม่เมินเฉยอย่างแน่นอน”

“ใช่แล้ว พี่ใหญ่กลายมาเป็นเช่นนี้เพราะทำงาน หากจวนว่าการไม่สนใจไยดี พวกเราย่อมเป็นคนแรก ๆ ที่ไม่ยินยอม”

“พวกเจ้าอย่าทะเลาะกัน หากเล่าลือออกไปคงอับอายพวกใต้เท้าแล้ว” เฉินหู่เอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรง “ภรรยา เจ้าไม่ต้องร้องไห้แล้ว ข้าได้รับบาดเจ็บเพราะการทำงาน ถึงแม้ตลอดชีวิตนี้ข้าจะลุกขึ้นไม่ได้อีก มันก็คุ้มค่าแล้ว”

มู่ซืออวี่และเวินเหวินซงมองหน้ากันด้วยสีหน้าว่างเปล่า

ดูเหมือนเฉินหู่ผู้นี้จะคุ้นเคยกับการเอาชนะใจผู้อื่น

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา คนที่ออกันอยู่หน้าประตูก็ดูเหมือนจะคล้อยตาม ดูออกเลยว่ารู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมาแล้ว

หากครั้งนี้เฉินหู่ถูกจับไปไต่สวน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ คนทั่วไปย่อมคิดว่าศาลาว่าการเห็นว่าเขาใช้การไม่ได้ จงใจใช้โอกาสนี้มากดขี่เขา

“อะแฮ่ม! เฉินหู่ ฮูหยินลู่มาเยี่ยม” เวินเหวินซงตะโกนอยู่ด้านนอกประตู

สตรีในชุดเสื้อผ้าเก่ามอซอนางหนึ่งเดินออกมาจากข้างใน

นางปาดน้ำตาแล้วทำความเคารพมู่ซืออวี่หนึ่งครั้ง “คารวะฮูหยินลู่”

“รีบลุกขึ้น” มู่ซืออวี่เอ่ยเสียงเรียบ

“ฮูหยินลู่ ที่นี่คับแคบ เกรงว่าจะทำให้ท่านคับข้องใจแล้ว”

“ไม่เป็นไร เพียงแค่ที่พักชั่วคราวเท่านั้น นี่ไม่ใช่บ้านพวกเจ้า เพียงพอต่อการนอนหลับก็ใช้ได้แล้ว”

คับแคบ? ที่นี่เป็นเพียงที่พักที่นางให้คนสร้างขึ้นมาในระยะสั้น ๆ บอกว่าที่นี่คับแคบเช่นนี้ ไม่ใช่ทำให้คนคิดว่านางตระหนี่ถี่เหนียวหรอกหรือ?

“ได้ยินว่านายช่างเฉินได้รับบาดเจ็บแล้ว” มู่ซืออวี่ไม่รีบร้อนเข้าไป เพียงยืนคุยกับภรรยาของเฉินหู่อยู่ที่ประตู “ท่านหมอมาแล้วหรือยัง?”

“มาแล้วเจ้าค่ะ” ฮูหยินเฉินปาดน้ำตาอีกครั้ง “บาดเจ็บที่สะโพก เกรงว่าอนาคต…”

“ท่านหมอว่าอย่างไร?”

“ท่านหมอบอกว่า…” ฮูหยินนำคำพูดของ ‘ท่านหมอ’ มาอธิบายให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ “สามีที่น่าเวทนาของข้า ไม่รู้ว่าอนาคตยังจะลุกออกจากเตียงได้อีกหรือไม่”

“นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักฟื้น” มู่ซืออวี่เอ่ย “นักการ พานายช่างเฉินไปพักฟื้นศาลาว่าการ”

ฮูหยินเฉินตกตะลึง “ที่… ศาลาว่าการหรือ?”

เขาขโมยงานของเฉินหู่ ภายหน้าเฉินหู่ย่อมไม่เชื่อเขาอีกแล้ว ดังนั้นเขาย่อมไม่อาจเกาะขาใหญ่ ๆ นี้เอาไว้ได้แล้ว

“ขอบคุณฮูหยินที่เมตตา” เฉินหู่เอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรง

“นี่เป็นสิ่งที่ควรทำ เจ้าอุทิศตนเช่นนี้ ข้าจะไม่สนใจเจ้าได้อย่างไร?” มู่ซืออวี่ยิ้มบาง ๆ

“เช่นนั้นให้สตรีต่ำต้อยในครอบครัวข้าตามไปดูแลข้าได้หรือไม่?”

“แน่นอนว่าได้”

หลังจากมู่ซืออวี่และคนอื่น ๆ จากไปแล้ว คนล้วนมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยกันถึงความใจกว้างของฮูหยินนายอำเภอ

สีหน้าของคนสนิทหลายคนของเฉินหู่ซีดเซียว ประหนึ่งทุกข์ทรมานจากการกินอุจจาระเข้าไป

“ตอนนี้จะทำอย่างไร?”

“เกรงว่าพี่หู่นั้นขโมยไก่ไม่ได้ยังต้องเสียข้าวสารอีก*[1]”

“เจ้าโจวเฉิงเฉวียนคนนั้นฉวยโอกาสไปแล้ว เขาทรยศพี่หู่ เกรงว่าภายหน้าจะตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว”

“ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร? เชื่อฟังพี่หู่ต่อไป หรือไปหาโจวเฉิงเฉวียน…”

เฉินหู่ถูกนำตัวไปไว้ที่ห้องปีกข้างของศาลาว่าการ

มีนักการอยู่ทุกพื้นที่ บรรยากาศทั่วทั้งศาลาว่าการน่าเกรงขามและดูอันตรายเป็นพิเศษ แม้แต่คนมากเล่ห์เพทุบายเช่นเฉินหู่ หัวใจยังอดเต้นตุบ ๆ ไม่ได้

ฮูหยินเฉินฉวยโอกาสที่ไม่มีคนอยู่เอ่ยกับเฉินหู่ว่า “สามี ตอนนี้จะทำอย่างไรกันดี?”

“รอดูสถานการณ์ไปก่อน” เฉินหู่กล่าว “แต่เจ้าไปหาโจวเฉิงเฉวียน ให้เขาซื่อสัตย์สักหน่อย หากเขากล้าหักหลังข้า ข้าไม่ปล่อยเขาไปแน่นอน”

“ตอนนี้โจวเฉิงเฉวียนแทนที่ท่านแล้ว เขายังจะซื่อสัตย์รอท่านกลับมาอีกหรือ?” ฮูหยินเฉินกล่าว “เหตุใดท่านไม่หาวิธีอื่น ยืนกรานจะทำร้ายร่างกายตนเองอยู่ได้ เป็นอย่างไรล่ะ กลายเป็นว่านางให้ท่านกลับมาพักฟื้นที่นี่เสียได้”

“เจ้าจะเข้าใจอะไร หากข้าไม่เล่นลูกไม้ พวกเขาย่อมตรวจสอบข้าพบเป็นแน่” เฉินหู่กล่าว “ไม่ได้การ พวกเราต้องหาวิธีอื่น ข้าว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน…”

[1] ขโมยไก่ไม่ได้ยังต้องเสียข้าวสาร หมายถึง ฉวยโอกาสไม่ได้แถมยังขาดทุน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย