สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 404

บทที่ 404 ผู้ใดมอบความกล้านี้ให้เจ้า

บทที่ 404 ผู้ใดมอบความกล้านี้ให้เจ้า

ครอบครัวของหนิวเหมยเองก็อยู่ในหมู่บ้านเช่นกัน หากคนทั้งหมู่บ้านได้รับเชิญ พวกนางย่อมเป็นหนึ่งในนั้น

มู่ต้าซานสะบัดมือของหนิวเหมยออก เขาค้อมหลัง ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน “ข้ารู้สึกไม่สบาย จะกลับไปนอนสักครู่ก่อน”

“อีกเดี๋ยวก็จะมีปลาตัวโต ๆ ชิ้นหนา ๆ ให้ทานแล้ว เหตุใดจะกลับไปนอน? ไม่ว่าท่านจะรู้สึกไม่สบายเพียงใดก็ต้องอดทนเพื่อข้า ครอบครัวของพวกเราไม่ได้กินเนื้อดี ๆ มานานแล้ว ดูท่านสิ ผ่ายผอมไปหมด” หนิวเหมยไม่สบอารมณ์

“ข้าไม่หิว” มู่ต้าซานขมวดคิ้ว

“เจ้าไม่หิวหรือไม่มีกะจิตกะใจจะกิน? พี่ถงคลอดลูกชายให้คนอื่นแล้ว ท่านรู้สึกไม่พอใจใช่หรือไม่?” หนิวเหมยหยิกเนื้อของเขาด้วยความฉุนจัด

มู่ต้าซานรู้สึกเจ็บ ทว่าจำต้องอดทน

“เจ้าอย่าพูดจาส่งเดช ระวังผู้อื่นจะขันเอาได้”

“เช่นนั้นท่านก็ต้องอยู่ต่อ” หนิวเหมยหาเก้าอี้แล้วนั่งลง นางคว้าผลไม้แห้งบนโต๊ะขึ้นมาทาน “อาหารอร่อยเช่นนี้ยากที่จะได้เห็น วันนี้ข้าจะกินให้อิ่มหนำทีเดียวเชียว”

หญิงสาวในหมู่บ้านที่อยู่ข้าง ๆ มองหนิวเหมย จากนั้นจึงเหลือบมองมู่ต้าซานที่อยู่ไม่ไกลออกไป สายตานางเต็มไปด้วยความรังเกียจ

“สหายต้าซาน เห็นหานเอ๋อร์แล้วกระมัง? หลังจากเขาติดตามมารดาไป ยิ่งโตก็ยิ่งหล่อเหลา ข้าเห็นแม่นางน้อยในหมู่บ้านหลายคนมองเขา ท่านเป็นพ่อก็ต้องคอยช่วยเขาพิจารณาสักหน่อยนะ”

“พี่ฟาง ท่านพูดไร้สาระอะไร? หานเอ๋อร์น่ะอยู่กับแม่ของเขา เขาไม่รู้จักมักจี่พ่อคนนี้อีกแล้ว ต่อให้สหายต้าซานอยากดูแลเรื่องของเขาก็คงทำไม่ได้”

“ช่างน่าสงสารจริง ๆ พวกเขาก็อายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว จะมีลูกอีกสักคนย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย หานเอ๋อร์ดีเช่นนี้ อีกทั้งยังเรียนหนังสือเก่งมาก ไม่แน่ว่า อนาคตอาจจะได้เป็นถึงขุนนาง”

หนิวเหมยที่กำลังกินผลไม้แห้งขบคิดถึงคำพูดของสตรีหลายคน

นางหันหน้าไปทางมู่ต้าซานแล้วเอ่ยว่า “ที่พวกเขากล่าวก็มีเหตุผล”

มู่ต้าซานขมวดคิ้ว “เจ้าคิดจะทำอะไร?”

หนิวเหมยลุกขึ้นยืน “มู่เจิ้งหานเป็นลูกท่าน เหตุใดจะไม่รู้จักท่าน? พี่ถงแต่งงานกับบุรุษอื่นแล้ว อีกทั้งยังคลอดลูกชายออกมาหนึ่งคน เช่นนั้นมู่เจิ้งหานก็ควรกลับมาอยู่กับบิดา เขาควรดูแลท่านไปจนแก่เฒ่า”

สตรีหลายคนอึ้งไปแล้ว

พวกนางจงใจค่อนแคะเหน็บแนมมู่ต้าซาน สตรีนางนี้โง่เขลานัก นางฟังไม่ออกหรือไร?

หรือนางจะคิดเป็นจริงเป็นจังไปแล้ว?

หนิวเหมยเห็นถงซื่อและคนอื่น ๆ กำลังเดินมาทางนี้

มู่ต้าซานรีบคว้าแขนนางไว้อย่างรวดเร็ว “เจ้าอย่าพูดจาเลื่อนเปื้อนไป”

“ท่านใช่บุรุษหรือไม่?” หนิวเหมยเอ่ยอย่างเยือกเย็น “เดิมทีข้าเห็นว่าท่านเป็นคนซื่อตรง ได้ท่านแต่งเข้าประตูมาก็ดีเช่นกัน อย่างน้อยก็มีบุรุษคอยช่วยเหลือครอบครัว ขณะเดียวกันข้าก็จะได้มีลูกสักคน ภายหน้าย่อมมีความหวัง ทว่าข้าแต่งกับท่านมานมนานแล้ว นับประสาอะไรกับมีลูกสักคน แม้แต่บนเตียงล้วนไม่มี…”

มู่ต้าซานปิดปากหนิวเหมยแล้วลากนางออกไปข้างนอกด้วยสีหน้าถมึงทึง

หนิวเหมยกัดนิ้วมือเขาอย่างแรง

“โอ๊ย…” มู่ต้าซานสะบัดนางออก

หนิวเหมยวิ่งไปทางถงซื่อ “พี่หญิงถง…”

ทุกคนล้วนเห็นหนิวเหมยวิ่งเข้ามา

นอกจากสตรีไม่กี่คนเมื่อครู่นี้ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าหนิวเหมยจะทำอะไร

ตานซายืนอยู่ตรงหน้าหนิวเหมยแล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ท่านป้าผู้นี้ มีอะไรจะกล่าวก็เอ่ยออกมาเถิด ฮูหยินของพวกเรายังต้องดูแลลูก หากเข้าใกล้นางเกินไปจะทำให้เด็กกลัวเอาได้”

หนิวเหมยเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง “ข้าอยากหารือกับท่าน เรื่องมอบมู่เจิ้งหานให้เป็นลูกของข้ากับพี่ต้าซาน”

“หนิวเหมยผู้นี้นับวันยิ่งเลอะเลือนแล้วจริง ๆ นางมีความคิดโง่เง่าเช่นนั้นได้อย่างไร? ยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่าพี่ถงและหานเอ๋อร์แยกครอบครัวกับมู่ต้าซานตั้งนานแล้ว ต่อให้จะไม่แตกหักกัน หากพวกเขาต้องการพาหานเอ๋อร์ไปอยู่ด้วย พวกเขาจ่ายค่าเล่าเรียนของหานเอ๋อร์ไหวหรือ? ถ้าหานเอ๋อร์ต้องเข้าเมืองหลวงไปสอบขุนนาง พวกเขามีค่าเดินทางให้หรือ? แค่เพราะอยากมีลูกคอยเลี้ยงดูยามแก่เฒ่า ก็จินตนาการเพ้อฝันถึงขั้นนี้แล้ว คิดอะไรอยู่นะ”

มู่เจิ้งหานอยู่กับสหายร่วมชั้นสองสามคน เมื่อรับรู้ถึงความวุ่นวายโกลาหลจึงมาที่นี่ แน่นอนว่าเขาได้เห็นแล้วว่ามู่ต้าซานไร้ประโยชน์เพียงใด

เขาเดินเข้าไปหาถงซื่อแล้วเอ่ยกับนาง “ท่านแม่ ตรงนี้เสียงดังเกินไป ผิงอันใกล้จะหลับแล้ว พาเขากลับเข้าไปในบ้านก่อนเถอะ”

“ได้” ถงซื่อพาจูเฉินกลับเข้าไป

คนในหมู่บ้านหันมาพูดคุยกับมู่เจิ้งหานอีกครั้ง

มู่เจิ้งหานทักทายทุกคนอย่างสุภาพ ไม่มีความเหนียมอายขี้ขลาดเหมือนแต่ก่อนแม้แต่น้อย ท่าทางสง่างามเป็นอย่างมาก

“อวิ๋นเอ๋อร์ เครื่องประดับบนหัวของเจ้าสวยมากเลย”

“เสื้อผ้าของเจ้าก็สวยเช่นกัน”

“กำไลที่เจ้าใส่อันนี้ เป็นทองใช่หรือไม่?”

ลู่จื่ออวิ๋นหน้าตาดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ไม่ต้องเอ่ยถึงผู้ใหญ่เหล่านั้น แม้แต่เด็ก ๆ ก็ต้องการเล่นกับนางเช่นกัน

สำหรับสหายเก่าที่เคยเล่นด้วยกันเหล่านี้ ลู่จื่ออวิ๋นใจกว้างเป็นอย่างมาก แม้พวกเขาจะทำให้เสื้อผ้าของนางเปรอะเปื้อน นางก็ไม่โกรธแม้แต่น้อย ทั้งยังต้อนรับขับสู้พวกเขาด้วยขนมหวานอีกด้วย

งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทุกคนพูดคุยทักทาย กินดื่มกันอย่างมีความสุข

ลู่อี้เชิญหัวหน้าหมู่บ้านมานั่งกับเขา คนในหมู่บ้านล้วนอิจฉา บัดนี้ลู่อี้เป็นถึงนายอำเภอแล้ว คนที่นั่งอยู่กับเขาล้วนแต่เป็นผู้ทำการค้าหรือไม่ก็เจ้าหน้าที่ทางการ

“อวิ๋นเอ๋อร์เล่า?” มู่ซืออวี่หาดูรอบ ๆ แล้วกลับมองไม่เห็นลู่จื่ออวิ๋น นางจึงให้บ่าวรับใช้ช่วยหา

วันนี้มีคนมากมาย นางคิดว่าอวิ๋นเอ๋อร์คงไปเล่นกับสหายแล้ว แต่ถึงจะอยากเล่นอย่างไรก็ยังต้องทานอาหาร นางจึงให้บ่าวรับใช้ไปตามบุตรสาวว่าไปนั่งอยู่ที่โต๊ะใด

“ฮูหยิน ไม่พบคุณหนูเจ้าค่ะ” จื่อซูกลับมารายงาน “บ่าวถามเด็ก ๆ ที่เล่นอยู่กับคุณหนูเมื่อครู่นี้ พวกเขาบอกว่าหลังจากที่อาหารมา พวกเขาก็แยกจากคุณหนูแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย