สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 417

บทที่ 417 นางเป็นน้องสาวของฉู่หลิงหรือ?

บทที่ 417 นางเป็นน้องสาวของฉู่หลิงหรือ?

สองวันต่อมา ลู่อี้และคนอื่น ๆ ติดตามกองคาราวานของคนตระกูลฉินไปยังเมืองฮู่เป่ย

ลู่เซวียนมาหาเขา แล้วยกมือขวางมู่ซืออวี่ขณะที่นางกำลังจะขึ้นรถม้า จากนั้นพูดด้วยความลำบากใจเล็กน้อย “พี่สะใภ้ ขอคุยด้วยหน่อย”

ลู่อี้เลิกคิ้ว สายตาของเขาราวกับพูดว่า ‘มีบางอย่างที่ข้าไม่รู้อยู่อีกหรือ?’ ทว่าเขาเคารพความคิดของน้องชาย จึงเข้าไปรอมู่ซืออวี่ในรถม้าก่อน

“มีอะไรหรือ?” มู่ซืออวี่ถาม

ลู่เซวียนลดเสียงลงขณะพูดว่า “สองวันก่อน ข้าต้องออกไปทำธุระ จึงไม่ได้คุยกับแม่นางฉู่ ข้าอยากถามพี่สะใภ้ว่าแม่นางฉู่หน้าตาคล้ายกับฉู่หลิงมากถึงเพียงนั้นได้อย่างไร หรือว่านางเป็นน้องสาวของฉู่หลิง?”

มู่ซืออวี่มองตาลู่เซวียนด้วยสายตาซับซ้อน “เห็นได้ชัดว่าหน้าตาดี ที่แท้ก็เปล่าประโยชน์งั้นหรือ?”

“อะไรนะขอรับ?” ลู่เซวียนไม่เข้าใจ

“เจ้ายังมีเวลาเขียนหนังสือหรือไม่?” มู่ซืออวี่ถาม

ลู่เซวียนพยักหน้า “ข้าเป็นคนว่างงาน ไม่ได้มีเงินทองมากมาย หากข้าต้องการอยู่อย่างสบายในเมืองหลวง แน่นอนว่าข้าต้องหาเงินบ้าง โชคดีที่ข้าใช้นามแฝงจึงไม่มีผู้ใดรู้ว่าข้าเป็นผู้ใด แต่พี่สะใภ้ยังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเลย แม่นางฉู่เป็นน้องสาวของฉู่หลิงหรือ? ข้าคิดอย่างนั้นเพราะพวกเขาหน้าตาเหมือนกันมาก หากฉู่หลิงผิวขาวกว่านี้ พวกเขาก็จะเหมือนกันทุกประการ”

“ดูจากนิสัยของพี่สะใภ้ หากเป็นคนที่ข้าไม่รู้จัก พี่สะใภ้จะไม่พาผู้หญิงแปลกหน้ามาพบข้า ต้องมีบางอย่างเป็นแน่ใช่หรือไม่?”

“ตอนที่ข้าหางานเขียนให้เจ้าทำ ข้าอยากให้เจ้าใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ไม่คิดฟุ้งซ่านทั้งวัน ต่อมายิ่งเจ้าเขียนก็ยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อย ๆ แสดงว่าเจ้ามีความสามารถ ส่วนคำถามของเจ้านั้น ข้าจะถือว่ามันเป็นปริศนา เจ้าต้องใช้ความฉลาดด้านการเขียนบทคิดหาเหตุผล บางทีเมื่อเราพบกันครั้งหน้า เจ้าก็น่าจะรู้คำตอบแล้ว” มู่ซืออวี่กล่าว “พี่ชายของเจ้ากับข้าขอลาไปก่อน เจ้าระวังตัวด้วย”

ลู่เซวียนเฝ้ามองร่างของพวกเขาลับสายตาไป

“พี่สะใภ้ทำตัวลึกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ”

ลู่อี้กำลังอ่านหนังสือในรถม้า มู่ซืออวี่รู้สึกเบื่อหน่าย จึงดึงแขนเสื้อของลู่อี้ “ท่านไม่สงสัยบ้างหรือ?”

ส่วนสองสาวถูกจัดให้อยู่ในรถม้าด้านหลัง

ลู่อี้วางหนังสือในมือลง เขาจับมือนางแล้วพูดว่า “คุณหนูฉู่คนนั้นไม่เหมาะกับน้องรองของข้า”

“เจ้ารู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาด้วยหรือ?” มู่ซืออวี่ประหลาดใจ

“ฉู่หลิงปลอมตัวได้แนบเนียนยิ่งนัก แต่ข้าลองสังเกตมานานแล้ว ตราบใดที่มีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อยก็ไม่อาจหลบสายตาของข้าได้ ข้ารู้ว่านางมีปัญหา จึงไปถามท่านอาจารย์ และท่านอาจารย์บอกว่านางเป็นแค่ผู้หญิงที่รักสนุก ในเมื่อไม่มีพิษมีภัยจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ แค่ไม่คิดว่านางจะมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับน้องเซวียน”

“เราไม่ต้องไปสนใจเรื่องของคนหนุ่มสาวหรอก” มู่ซืออวี่กล่าว “ดังที่ท่านพูดมา คุณหนูฉู่เป็นลูกสาวของครอบครัวที่มีอำนาจ จวนฉู่กั๋วกงไม่ใช่สิ่งที่เราจะเข้าไปยุ่งได้ ฉู่หนิงจูชื่นชมความสามารถน้องรองของท่าน และแค่ต้องการเป็นเพื่อนกับเขา นางไม่กล้าคิดเป็นอื่นหรอก นับประสาอะไรกับน้องรองของท่าน ข้าแค่คิดว่าท่าทางสับสนของน้องสามีตลกดีเท่านั้น”

“เจ้าขี้เล่นมากขึ้นเรื่อย ๆ” ลู่อี้กอดนางไว้ในอ้อมแขน “การเดินทางนี้ทำให้เหนื่อยล้า หากเจ้าเหนื่อยก็นอนหนุนตักข้าได้”

“การย้ายเมืองหลวงครั้งนี้ ชีวิตของพวกเราจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง” มู่ซืออวี่นอนซุกอยู่ในอ้อมแขนของลู่อี้ “ท่านพร้อมหรือยัง?”

“ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ” ลู่อี้ลูบผมของนาง

กองคาราวานของตระกูลฉินใช้เส้นทางการค้าตามปกติ ระหว่างทางก็ได้พบปะผู้คนอยู่ตลอด ซึ่งช่วยให้พวกเขาไม่ต้องเจอปัญหาได้มาก อีกทั้งการพักในโรงเตี๊ยมก็ช่วยประหยัดเงินได้มาก

ลู่อี้จัดคอเสื้อให้เวินเหวินซง “เจ้าไม่จำเป็นต้องทำหน้าเช่นนั้นหรอก เพราะเจ้าเป็นไปแล้ว จากนี้ไป เจ้าจะเป็นนายอำเภอของเมืองฮู่เป่ย ข้ากลับมาคราวนี้เพื่ออธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้เจ้าฟัง”

“ท่านกำลังจะย้ายไปเมืองหลวงหรือ?” เวินเหวินซงถาม

“ใช่”

นักการเกาถอนหายใจ “เราติดตามท่านมาตลอด หากท่านไปเมืองหลวงแล้ว เราจะทำอย่างไร?”

“ครั้งนี้ข้าทำหน้าที่เป็นข้าหลวงของศาลต้าหลี่ ข้าต้องพาคนสนิทไปด้วย หากเจ้าเต็มใจ เหตุใดไม่ไปกับข้าเล่า?” ลู่อี้กล่าว

เวินเหวินซงจ้องมองลู่อี้ “ท่านโยนสิ่งนี้มาให้ข้า แล้วยังต้องการแย่งคนไปอีกหรือ?”

ลู่อี้หัวเราะ “นี่ไม่ใช่การบังคับ ข้าให้พี่เกาเลือกเอง เขาอยากจะไปที่ใดก็แล้วแต่เขา”

“เอาน่าใต้เท้าเวิน ข้าไปกับใต้เท้าลู่ดีกว่า” นักการเกายกยิ้ม “ตอนแรกข้าติดตามใต้เท้าลู่ แน่นอนว่าข้ายังอยากไปเที่ยวเมืองหลวงดู”

“ข้าก็อยากไปเหมือนกัน” เวินเหวินซงทำหน้ามุ่ย “พูดตามตรง ข้าอยากไปเมืองหลวงกับใต้เท้าลู่ในฐานะผู้ติดตามมากกว่า ไม่อยากอยู่ในเมืองฮู่เป่ยในฐานะนายอำเภอหรอก”

หลังจากผ่านเรื่องราวมามากมาย เขาก็เห็นมานานแล้วว่าการเป็นนายอำเภอนั้นไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะเมื่อที่นี่มีเหมืองที่เจียงเหล่าหวังจะครอบครอง หลังจากขุดเหมืองนั้นแล้วก็จะมีปัญหาอื่น ๆ รอเขาอยู่ มีเพียงคนที่มีไหวพริบอย่างลู่อี้เท่านั้นที่สามารถครองตำแหน่งนี้ได้นานจนได้รับการเลื่อนตำแหน่ง

“อันที่จริง ข้าใช้ความพยายามอย่างมากในการช่วงชิงตำแหน่งนายอำเภอมาให้เจ้า อีกทั้งข้ายังมีความตั้งใจที่เห็นแก่ตัวด้วย” ลู่อี้เล่าแผนการของเขา

“เมืองฮู่เป่ยพัฒนาทีละเล็กทีละน้อย ตอนนี้กลายเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของที่นี่ หากตกอยู่ในมือของเหล่าขุนนางทุจริต ราษฎรที่ชีวิตดีแล้วจะกลับคืนสู่สภาพเดิมทันที สิ่งที่สำคัญที่สุดคือโครงการลานหรรรษาอาจกลายเป็นเครื่องมือของคนเจ้าเล่ห์ที่กระหายเงิน นี่คือสิ่งที่ฮูหยินทุ่มเทอย่างหนัก ข้าไม่อยากให้สิ่งที่นางทุ่มเทสร้างขึ้นต้องพังพินาศ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย