บทที่ 577 ถูกขายไปเป็นทาส
บทที่ 577 ถูกขายไปเป็นทาส
“หลายวันมานี้ข้ายุ่งอยู่กับหน้าที่ราชการ ไม่ได้สอบถามข่าวคราวเรื่องครอบครัวพวกเขา เจ้ายังรู้อะไรอีกบ้าง?”
เจี่ยเฉิงผิงนั่งลง ดื่มชาที่ฮูหยินเจี่ยรินให้
“ใต้เท้าเจี่ยงถูกเนรเทศไปยังชายแดน ทั้งฮูหยินหรงและคุณหนูเจี่ยงได้รับคำตัดสินให้เป็นทาส ส่วนบุรุษคนอื่น ๆ ในสกุลเจี่ยง พวกเขาก็ถูกขายเป็นทาสเช่นกัน”
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องเข้าไปยุ่งแล้ว”
“ข้าจะเข้าไปยุ่งได้อย่างไร? หรือว่าข้ายังจะเข้าไปซื้อพวกเขากลับมาบ้านหรือ? ข้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาปานนั้น” ฮูหยินเจี่ยกล่าว “แต่ข้าได้ยินว่าฮูหยินกงมีความคิดเช่นนั้น”
ก่อนหน้านี้ฮูหยินกงและฮูหยินหรงกินแหนงแคลงใจกันมาโดยตลอด ก่อนที่มู่ซืออวี่จะมาที่นี่ ฮูหยินหรงพุ่งเป้าไปที่ฮูหยินกงตลอดเวลา ความบาดหมางได้เกิดขึ้นแล้ว ครานี้สกุลเจี่ยเกิดเรื่อง ฮูหยินหรงแปรเปลี่ยนจากสตรีสูงศักดิ์มาเป็นทาส ฮูหยินกงจะไม่ลงมือได้อย่างไร?
“ยังมีเจี่ยงจือบุตรสาวของนาง ครานี้มีคนคิดจะซื้อนางไม่น้อยเชียวนะ! ส่วนมากล้วนอยากทำเพื่อระบายโทสะตน”
“ดังนั้น แม้ยามปกติจะไม่ผูกมิตรกับผู้อื่น ขอเพียงแค่ไม่ล่วงเกินผู้ใดก็ใช้ได้แล้ว เจ้าดูใต้เท้าเจี่ยงสิ ขอเพียงแค่ฮูหยินของเขาประพฤติตนดีสักหน่อย ไม่แน่ว่าอาจยังมีคนยื่นมือมาช่วยเขา”
หลังจากคดีของสกุลเจี่ยงถูกตัดสิน เจี่ยงเฟิงหยางและลูกชายหลายคนของเขาถูกเนรเทศไปเป็นทาสที่ชายแดน
ในขณะที่ฮูหยินหรงและเจี่ยงจือถูกนำตัวไปประมูลขาย
ทั้งสองคนเป็นทาสของทางการ ไม่อาจไถ่ถอนตัวได้ อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้สูงศักดิ์สามารถซื้อพวกเขาไปเป็นทาสได้
ฮูหยินหรงถูกซื้อตัวไปก่อน คนที่ซื้อนางไปคือฮูหยินกง
ถึงตอนนี้ฮูหยินหรงตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังโดยสิ้นเชิง เมื่อเห็นว่าตนตกอยู่ในมือของศัตรูเก่า หน้าของนางพลันถอดสี
ลำดับถัดไปคือเจี่ยงจือ
น้องหญิงพี่หญิงหลายคนล้วนต้องการซื้อเจี่ยงจือ อย่างไรเสียในอดีตเจี่ยงจือก็มีนิสัยชอบบงการยิ่งนัก ตอนนี้เหล่าบุตรสาวขุนนางเหล่านี้จึงต้องการลิ้มรสการถูกปรนนิบัติรับใช้จากเจี่ยงจือ อย่างไรก็ดี นี่ยังไม่ถึงคราวของพวกนาง เพราะเจี่ยงจือถูกจับจ้องโดยฉู่จี้ซิวก่อนแล้ว นางจึงถูกฉู่จี้ซิวซื้อกลับไปทันที
เจี่ยงจือเห็นว่าฉู่จี้ซิวซื้อตนกลับไปก็ไม่ได้ตระหนักว่าเรื่องนี้ร้ายแรงนัก นางจึงยังคงพึงพอใจ ก่อนหน้านี้ทั้งสองเคยหมั้นหมายกันมาก่อน นางคิดว่าอีกฝ่ายไม่อาจตัดใจจากนางได้
บางคนสุขบางคนเศร้า สกุลเจี่ยงบ้านแตกสาแหรกขาดก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความปลาบปลื้มปีติยินดีของสกุลลู่
ลู่อี้ได้เลื่อนขั้นแล้ว มู่ซืออวี่ส่งบัตรเชิญให้กับสหายที่มีสัมพันธไมตรีต่อกันมาร่วมฉลอง ทว่าทันทีที่ส่งบัตรเชิญไป คนที่มามอบของขวัญให้กลับมากมายกว่าที่คิดไว้
นอกจากบางส่วนที่นางส่งบัตรเชิญไปให้แล้ว ยังมีคนอีกมากที่นางไม่ได้ส่งบัตรเชิญส่งของขวัญมาให้
ในเมื่ออีกฝ่ายส่งของขวัญมาให้แล้ว หากนางไม่ส่งบัตรเชิญไปย่อมไม่เหมาะสม นางจึงส่งบัตรเชิญออกไปจำนวนมหาศาล
มู่ซืออวี่คิดเพียงว่าเป็นขุนนางเล็ก ๆ ที่ต้องการประจบเอาใจขุนนางผู้ใหญ่ กระทั่งนางส่งบัตรเชิญจึงได้ตระหนักว่า ลู่อี้ที่เป็นผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ได้รับความสนใจมากมายกว่าที่นางคิด
ในเมืองหลวง สกุลผู้สูงศักดิ์บางสกุลนั้นธรณีประตูสูงเป็นอย่างยิ่ง ปกติแล้วอยู่ไกลเกินเอื้อม คนเหล่านี้คบค้าสมาคมอยู่เพียงแวดวงของตนเอง มักจะดูแคลนขุนนางใหม่ อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้มู่ซืออวี่กลับได้รับของขวัญจากครอบครัวผู้สูงศักดิ์เหล่านี้เกือบครึ่ง
“ของขวัญชิ้นนี้ผู้ใดส่งมา?” มู่ซืออวี่พบกล่องของขวัญวางอยู่บนโต๊ะเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชิ้น
“เป็นของเถ้าแก่หร่วนจาก ‘ร้านเพียงหนึ่งเดียว’ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเจ้าค่ะ” จื่อซูตอบ
“เถ้าแก่หร่วนผู้นี้ลึกลับจริง ๆ นะเจ้าคะ” จื่อเยวี่ยนที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ย “ได้พบเขาเพียงไม่กี่ครั้ง บางทีก็หายไปเสียหลายวัน”
“นี่ไม่แปลกอะไร” มู่ซืออวี่กล่าว “ข้าเห็นว่ากิจการของพวกเขาไปได้ด้วยดี อีกทั้งยังมีสาขาอยู่ที่อื่น เขาคงต้องไปจัดการเรื่องอื่นกระมัง! ก็เหมือนอย่างข้า บางครั้งข้าต้องจัดการเรื่องภายในร้าน บางครั้งต้องไปจัดการเรื่องที่รีสอร์ต บางครั้งยังต้องเดินทางไปที่อื่น”
“นั่นก็จริงเจ้าค่ะ”
“ช่วยข้าฝนหมึกเถิด ข้าต้องเขียนจดหมายไปหาท่านแม่ แจ้งข่าวเรื่องใต้เท้าลู่ได้เลื่อนขั้นสักหน่อย” มู่ซืออวี่สั่งนาง
“มีอะไรหรือ?”
“สหายเวินจะเข้ามาเมืองหลวง” ลู่อี้เอ่ย
“สหายเวิน หมายถึง…” มู่ซืออวี่มองเขา “เวินเหวินซงหรือ?”
“ถูกต้อง”
“เขาไม่ได้เป็นนายอำเภอหรือ?”
“อีกไม่นานก็จะย้ายมาเมืองหลวงแล้ว” ลู่อี้ตอบ
“ท่านทำหรือ?”
“เป็นเขาที่พยายามกระเสือกกระสนด้วยตนเองเช่นกัน ข้าเพียงแค่บอกเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ แก่เขา เขาทำได้แล้ว ย่อมง่ายดายที่จะย้ายมา” ลู่อี้เอ่ย “ข้างกายข้ามีคนที่ใช้ได้น้อยเกินไป ถึงแม้จะมีคนเข้าหาข้าอย่างสมัครใจไม่น้อย ทว่าพวกเขาไม่อาจไว้ใจได้”
“ได้ยินว่าใต้เท้าเวินแต่งงานกับศิษย์พี่หญิงของเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์แล้ว” มู่ซืออวี่กล่าว “ลำดับอาวุโสวุ่นวายแล้วจริง ๆ”
มู่ซืออวี่หัวเราะออกมา
เวินเหวินซงมาถึงเมืองหลวงล่วงหน้าสามวัน
เขาไม่มีบ้านอยู่ในเมืองหลวง จึงพักอยู่ที่จวนลู่
ลู่จื่ออวิ๋นพบกับฮั่วอวิ๋นซิ่ว จึงลากนางไปถามเรื่อง ‘ร้านสาวทอผ้า’ อยู่หลายคำ เมื่อนางได้รู้ว่าในที่สุดฟ่านอวี๋ก็ปล่อยวางความยึดติดแต่เก่าก่อน และแต่งงานกับจั่วอวิ๋นหู่แล้ว นางก็รู้สึกยินดีกับอาจารย์จากใจ
ภายในห้องตำรา ลู่อี้อธิบายสถานการณ์ในแต่ละกรมกองให้เวินเหวินซงฟัง
“หากเจ้าติดตามข้าไปที่ศาลต้าหลี่ ที่นั่นมีข้าดูแลรับผิดชอบจะต้องราบรื่นแน่นอน ทว่าหากเป็นเช่นนี้ เจ้าจะขาดการฝึกฝนอยู่บ้าง แต่หากเจ้าไปที่กรมอื่นจะต้องพบความลำบากมากมายเป็นแน่ ข้าอยู่ที่นี่มีศัตรูมากมาย มองผิวเผินหลายคนดูเหมือนเกรงใจ ทว่าฉากหลังกลับต้องการสังหารข้า เจ้าเข้าเมืองหลวงมาก็มาหาข้าถึงที่จวน ย่อมถูกเข้าใจว่าเป็นคนของข้าไปโดยปริยาย หากเจ้าไปที่อื่นอาจถูกบีบคั้นเอาง่าย ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...