สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 60

บทที่ 60 ไม่มีใครในครอบครัวสงสัยนาง

บทที่ 60 ไม่มีใครในครอบครัวสงสัยนาง

หัวหน้าหมู่บ้านไม่สามารถทำอะไรพวกนางได้ จึงมีการเปิดศึกกันอีกครั้ง

“คำพูดที่นี่เสนียดหูจริง ๆ วันนี้อวิ๋นเอ๋อร์ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว หากมีใครรังแกอีก กัดให้แรงกว่านี้นะ ไม่กัดนิ้วก็ดีเท่าไหร่แล้ว”

คนที่มุงดูพลันรีบถอยห่าง

เมื่อก่อนมู่ซืออวี่เป็นคนไม่เอาไหน และวัน ๆ ไม่ทำอะไร ครั้นดีขึ้นก็กลายเป็นผู้หญิงบ้าไปเสียแล้ว

แต่ผู้หญิงบ้าคนนี้ก็รู้วิธีที่จะปกป้องลูกสาวของตัวเอง ดังนั้นจึงถือว่านางเปลี่ยนไปอยู่ดี

คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านคุยกันด้วยเหตุผล ปกติแล้วพวกเขาอยู่กันอย่างสบาย ๆ ไม่รุกรานผู้อื่น แน่นอนว่า ‘คำข่มขู่’ พวกนี้จากมู่ซืออวี่ไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา

“ร้องไห้อยู่นั่นแหละ นังเด็กขี้แพ้ไร้ประโยชน์!” จงซื่อบีบคอจางไฉ่เสีย “ข้าให้เจ้ามาเก็บผัก แต่เจ้ามาสร้างปัญหาที่นี่ ข้าน่าจะให้เจ้าจมน้ำตายในถังฉี่ไปซะ”

จางไฉ่เสียไม่สามารถหยุดกรีดร้องได้หลังจากถูกจงซื่อบีบคอ

“ท่านแม่ อย่าบีบคอข้า ข้าเจ็บ… ท่านแม่ ข้าไม่กล้าแล้ว… อย่าบีบ…”

มู่ซืออวี่ขมวดคิ้ว ได้แต่รีบพาลู่จื่ออวิ๋นออกไปจากที่นั่น

ระหว่างทาง ลู่จื่ออวิ๋นไม่ได้พูดอะไรออกมา จนกระทั่งมาถึงกระท่อมที่ถงซื่อและมู่เจิ้งหานอาศัยอยู่

มู่ซืออวี่เคาะประตู

“มาแล้ว ๆ” ถงซื่อเปิดประตูและเห็นมู่ซืออวี่ จึงเอ่ยต้อนรับด้วยสายตาที่อ่อนโยน “เข้ามาก่อนสิ”

“ท่านแม่ ที่บ้านมีน้ำร้อนไหม?” มู่ซืออวี่เอ่ยถาม

จากนั้นถงซื่อก็พบว่าลู่จื่ออวิ๋นดูเหมือนคลานออกมาจากคูน้ำ ทั้งตัวเด็กหญิงเต็มไปด้วยโคลน “มี มี ยังมีน้ำร้อนอยู่ในหม้อ อวิ๋นเอ๋อร์เป็นอะไร? ไปล้มที่ไหนมา?”

“ข้าจะทำความสะอาดให้นางก่อน” มู่ซืออวี่พูดพลางนำน้ำร้อนออกมาจากห้องครัว

ลู่จื่ออวิ๋นดูเหมือนคนที่กระทำความผิดมา นางเดินก้มหน้าตามมู่ซืออวี่ไปเหมือนลูกสะใภ้ตัวน้อยที่กำลังน้อยใจ

ซ่า! ซ่า! หลังจากเปลี่ยนน้ำไปหลายหม้อ เจ้าลิงตัวน้อยเปื้อนโคลนก็สะอาดขึ้น

ขณะที่ทำความสะอาด มู่ซืออวี่ก็ตรวจดูร่างกายของลู่จื่ออวิ๋นแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากยืนยันได้ว่ามีรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย

“ท่านแม่ อย่าโมโหเลยนะ” ลู่จื่ออวิ๋นดึงชายเสื้อของมู่ซืออวี่ “ข้าจะไม่ทะเลาะกับคนอื่นอีกแล้ว”

“อวิ๋นเอ๋อร์ทะเลาะกับผู้ใด?” ถงซื่อขมวดคิ้ว “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”

ลู่จื่ออวิ๋นส่ายหน้าเบา ๆ “ข้ากัดนาง นางน่าสงสารกว่าข้ามาก”

“ลูกอวี่ อวิ๋นเอ๋อร์เป็นเด็กดีไม่สร้างปัญหา มีคนรังแกนางหรือ?” ถงซื่อกล่าว

“ข้าไม่โกรธนางที่ทะเลาะกัน ข้าโกรธนางที่ทะเลาะกับคนที่ตัวใหญ่กว่า เห็นอยู่ว่าไม่มีโอกาสชนะ เหตุใดไม่รู้จักหลีกเลี่ยง มีคำกล่าวว่าลูกผู้ชายสิบปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย ในเมื่อเจ้าไม่มีโอกาสชนะก็ควรหาทางป้องกันตัวเองก่อน วันนี้เจ้าได้พบกับจางไฉ่เสียที่อายุมากกว่า สูงกว่า แต่ตอบโต้ช้ากว่าก็จริง แต่ถ้าวันนี้เจ้าไปเจอคนอื่นล่ะ คนที่ว่องไวและมีไหวพริบมากกว่า เจ้าจะไม่มีโอกาสชนะหรอกนะ เวลานั้นเจ้ายังอยากสู้ตัวต่อตัวอยู่อีกหรือ?”

“ตอนนั้นข้าโมโหเกินไป ข้าไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มากนัก” ลู่จื่ออวิ๋นรู้สึกเสียใจ “นางจะเอาที่กลัดผมที่ท่านแม่ให้ข้าไป ข้าแค่ไม่ต้องการให้ผู้ใดมาเอาไป”

“ถึงของจะหายไปแต่คนต้องอยู่ ถ้าเจ้าทำร้ายตัวเองเพราะของเช่นนั้น แม่ก็เจ็บใจ ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก เจ้าต้องป้องกันตัวเองไม่ให้บาดเจ็บก่อน”

มู่ซืออวี่ลูบผมของลู่จื่ออวิ๋น ก่อนจะคุกเข่าลงแล้วมองเด็กน้อยด้วยแววตาอ่อนโยน “สำหรับข้า เจ้าคือสมบัติที่สำคัญที่สุด”

ดวงตาที่บริสุทธิ์ราวกับอัญมณีของลู่จื่ออวิ๋นเผยความสุขล้น

ลู่จื่ออวิ๋นจึงยอมขึ้นไปอยู่บนหลังของมู่ซืออวี่

มู่ซืออวี่เป็นห่วงลู่จื่ออวิ๋นจึงเอ่ยต่อไปว่า “เจ้าผอมเกินไปแล้ว เจ้าต้องกินเนื้อให้มากกว่านี้นะ”

“อืม” ลู่จื่ออวิ๋นตอบรับอย่างอ่อนหวาน “ไม่ว่าท่านแม่จะพูดอะไร อวิ๋นเอ๋อร์ก็จะเชื่อฟังเจ้าค่ะ”

เพราะฉะนั้น ท่านแม่ปฏิบัติต่อนางแบบนี้ตลอดไปได้หรือไม่?

นางชอบที่ท่านแม่เป็นเช่นนี้

“อวิ๋นเอ๋อร์เป็นอะไรไป?” และแล้วดวงตาอันเฉียบคมของลู่เซวียนก็มองเห็นมู่ซืออวี่กลับมาพร้อมลู่จื่ออวิ๋นบนหลัง “เจ้าทำอะไนาง?”

มู่ซืออวี่พูดด้วยความโมโห “เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรนางได้?”

“ท่านอา ไม่ใช่ท่านแม่ แต่เป็นจางไฉ่เสียกับจงซื่อที่รังแกข้า ท่านแม่ช่วยล้างแค้นให้ข้า” ลู่จื่ออวิ๋นอธิบายด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ข้าไม่ได้เสียเปรียบแต่อย่างใด ยังมีรอยฟันของข้าบนหน้าของจางไฉ่เสียอยู่เลยเจ้าค่ะ”

“เหตุใดเจ้าถึงกัดหน้านาง?” ลู่เซวียนดูรังเกียจ “สกปรกยิ่งนัก! คราวหน้าเปลี่ยนไปที่อื่นเถิด”

มู่ซืออวี่หัวเราะออกมา

“เจ้าหัวเราะอะไร?” ลู่เซวียนจ้องนาง “มีคนรังแกอวิ๋นเอ๋อร์จะไม่เอาคืนได้อย่างไร?”

“สมควรโดน ข้าไม่คิดเลยว่าเราจะยังมีความเห็นที่ตรงกัน เป็นไปได้ยากนัก!” มู่ซืออวี่หันมาพูดกับลูกสาวว่า “อวิ๋นเอ๋อร์ ข้าจะไปเอาน้ำให้เจ้า เจ้าไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมาเปลี่ยนเสื้อผ้านะ”

หลังจากซื้อรองเท้าครั้งนี้ นางก็ไม่มีเงินสำหรับซื้อเสื้อผ้าแล้ว หากนางหาเงินได้ในครั้งต่อไป นางจะซื้อชุดใหม่สักสองชุดให้อวิ๋นเอ๋อร์ ตอนนี้นางมีลูกสาวแล้ว แน่นอนว่าลูกสาวควรจะได้แต่งตัวงาม ๆ

มู่ซืออวี่ไม่คิดว่าตัวเองจะกลืนไปกับบทนี้อย่างรวดเร็วเช่นนี้

เมื่อพูดถึงการปรับตัวให้เข้ากับบทบาท ไม่มีใครในครอบครัวสงสัยนางเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าฝีมือการแสดงของนางจะดีเกินคาด หากอยู่ในยุคปัจจุบัน นางคงเป็นนักแสดงระดับนางเอกแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย