สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 678

บทที่ 678 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

บทที่ 678 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

“ผู้ใดไม่รู้ว่าเซวียนหวางเฟยป่วยเกินเยียวยาบ้างเล่า? แม้ท่านตายในจวนเซวียนอ๋องตอนนี้คงไม่มีผู้ใดสงสัย อย่างไรเสียท่านอ๋องก็ได้เชิญท่านหมอที่ดีที่สุดในใต้หล้ามารักษาอาการของท่านแล้ว”

ครึ่งเดือนก่อน เซวียนอ๋องไปยังวัดเจิ้นกั๋วด้วยตนเอง อีกทั้งยังอยู่ที่นั่นทั้งวันทั้งคืน เพียงเพื่อจุดธูปในวันแรกของปีใหม่ ทั้งหมดนี้ล้วนเพื่อเซวียนหวางเฟย ผู้ที่นอนป่วยติดเตียงมาเป็นเวลานาน ผู้ใดจะไม่เอ่ยบ้างเล่าว่าเซวียนอ๋องเป็นผู้ที่บูชาความรัก?

“ข้าไม่ได้ป่วยและสิ่งที่พวกเจ้าให้ข้ากินก็ไม่ใช่ยา ถูกหรือไม่?”

“ข้าไม่รู้ว่าหวางเฟยเอ่ยถึงเรื่องอะไร” จ้าวอวิ๋นซวงเอ่ยด้วยท่าทีสงบ “ข้าเพียงแต่มาบอกหวางเฟยว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่มียามาส่งอีกแล้ว และคนของท่านไม่อาจออกไปจากจวนอ๋องแม้เพียงครึ่งก้าว”

จ้าวอวิ๋นซวงบอกว่านางมาแจ้งก็คือมาแจ้งเท่านั้น หลังจากบอกเรื่องนี้กับหยางอีเหรินแล้ว พวกนางก็ส่งคนมาปิดล้อมเรือนหลังนี้ป้องกันบ่าวรับใช้ไม่ให้ออกจากเรือนทันที หากต้องการสิ่งใด พวกนางก็จะเป็นฝ่ายจัดเตรียมมาให้

เซวียนอ๋องกลับมาจากข้างนอกด้วยสีหน้าอึมครึม

จ้าวอวิ๋นซวงเห็นเขาพอดีจึงเข้ามาทัก “คารวะท่านอ๋อง”

“ประเดี๋ยวท่านอาจารย์เฝิงจะมา เจ้าให้บ่าวรับใช้เตรียมอาหารและสุราให้พร้อม”

“เจ้าค่ะ”

ท่านอาจารย์เฝิงเป็นหนึ่งในคนของเซวียนอ๋อง

เมื่อท่านอาจารย์เฝิงมาถึง จ้าวอวิ๋นซวงและบ่าวรับใช้ก็ตระเตรียมอาหารรสเลิศและสุราชั้นยอดไว้แล้ว จากนั้นถึงได้ให้คนถอยออกไป

“ท่านอ๋องยังโกรธที่วันนี้เสียแม่ทัพไปคนหนึ่งหรือ?”

“พวกเราชุบเลี้ยงแม่ทัพขึ้นมาหนึ่งคนไม่ง่ายดายเลย วันนี้กลับตกไปอยู่ในมือของลู่เซวียนเช่นนั้นแล้ว”

“ลู่เซวียนผู้นี้ พวกเราประมาทเขาเกินไปแล้วจริง ๆ ก่อนหน้านี้เราเพียงสนใจแต่ลู่อี้จึงมองข้ามลู่เซวียนไป ครั้งนี้พวกเราต้องเสียหายอย่างนักเพราะเขา ท่านอ๋อง ในเมื่อสองพี่น้องสกุลลู่พวกเราไม่อาจใช้ประโยชน์ได้ ลู่เซวียนผู้นี้ก็ไม่ต้องเก็บเอาไว้แล้ว”

“ท่านคิดว่าข้าไม่เคยคิดหรือ? เพียงแต่ลู่อี้หายตัวไป เขาออกไปเป็นราชทูตที่อาณาจักรเหลียง ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาต้องเผชิญเหตุการณ์อะไร เขาตายอยู่ข้างนอกก็เป็นเรื่องปกติ ทว่าลู่เซวียนนั้นแตกต่าง เขาเป็นขุนนางกรมพระคลัง ขุนนางหากไม่อยู่ในกรมก็อยู่ที่บ้านตนเอง หากจู่ ๆ ให้เขาตาย แล้วทิ้งร่องรอยมากมายเอาไว้ รังแต่จะทำให้ขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนักระแวงข้า คิดว่าข้าขาดความอดทนกับผู้อื่น”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้น…”

ท่านอาจารย์เฝิงไม่ทันได้กล่าวจบ ฟ่านเหยี่ยนก็เข้าใจความหมายของเขาแล้ว

บัดนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขาดแค่เพียงลมบูรพา

“ฝ่าบาทไม่ไหวแล้ว” ท่านอาจารย์เฝิงเอ่ย “ท่านอ๋อง บัดนี้ไม่มีผู้ใดแบกรับภาระนี้ได้ ขอเพียงแค่ท่านอยู่ในตำแหน่งนั้น สองพี่น้องสกุลลู่จะมีความหมายอะไร? ท้ายที่สุด พวกเขาก็จะต้องฟังท่าน”

“เสด็จพ่อทำงานหนักมาทั้งชีวิตแล้ว สมควรแก่เวลาพักผ่อนแล้วจริง ๆ”

…ฮ่องเต้ชราสวรรคตแล้ว

เมื่อระฆังแห่งความตายในพระราชวังดังขึ้น ทุกคนจึงหันไปมองยังทิศทางวังหลวง

ในวังหลวงมีระฆังอยู่ลูกหนึ่งที่จะดังขึ้นในวาระสำคัญเท่านั้น นั่นคือวันที่ฮ่องเต้สวรรคต ดังนั้นทันทีระฆังแห่งความตายนี้ดังขึ้น ราษฎรในเมืองหลวงจะแขวนผ้าขาวดำ ขุนนางบุ๋นบู๊ต่างรุดเข้าไปในพระราชวังอย่างเร่งรีบ

“จงอ๋อง? ล้อเล่นอะไรกัน? จงอ๋องยังอยู่ที่ชายแดนไม่ทันได้กลับมา น้ำไกลไม่อาจดับไฟใกล้ เมื่อเขากลับมา เกรงว่าดอกเบญจมาศคงเย็นเพราะฤดูหนาวมาเยือนแล้ว”

“หากจงอ๋องกลับมาทัน ไม่ว่าจะเป็นผลงานการรบหรือเป็นลำดับขั้น เขาก็ควรนั่งตำแหน่งฮ่องเต้นี้ใช่หรือไม่?” ลู่เซวียนเอ่ยอย่างสุขุม

“ทุกสิ่งล้วนมีสูงส่งต่ำต้อย เซวียนอ๋องมีสถานะสูงศักดิ์ อีกทั้งยังมาจากสกุลที่มีเกียรติ ขณะที่จงอ๋อง… เฮ้อ ผู้ใดไม่รู้ภูมิหลังของเขาบ้าง? หากคนเช่นนั้นได้เป็นฮ่องเต้ เกรงว่าคงไม่มีขอทานบนท้องถนนแล้ว”

“ผู้ตรวจการหลิน ท่านหมายความว่าองค์ชายเซวียนอ๋องที่ท่านนับถือ ไม่ต่างจากขอทานบนท้องถนนอย่างนั้นหรือ?” ลู่เซวียนมองเขา

“เหลวไหล! ท่านอย่ามาเถียงข้าง ๆ คู ๆ เห็นได้ชัดว่าข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ท่านมาสร้างความแตกแยกเช่นนี้มีจุดประสงค์ใดกันแน่?”

“อะไรคือสูงศักดิ์? อะไรคือต่ำต้อย? จงอ๋องเป็นพระโอรสของฝ่าบาท เซวียนอ๋องก็เป็นพระโอรสของฝ่าบาท ยิ่งไปกว่านั้นจงอ๋องมีอายุมากกว่าเซวียนอ๋อง มีน้องชายที่ใดข้ามผ่านพี่ชายบ้าง? สกุลผู้ตรวจการหลินไม่มีบุตรจากภรรยาเอกกระมัง? เท่าที่ข้ารู้ ท่านก็มีบุตรชายจากอนุสองคนเช่นกัน”

“พอแล้ว ท้องพระโรงไม่ใช่ตลาดสด เหตุใดยังต้องโต้เถียงกันอยู่ตรงนี้?” มีคนเอ่ยขึ้น “ในความคิดข้า ไม่ว่าจะเป็นเซวียนอ๋องหรือจงอ๋อง ล้วนแต่เป็นทายาทของฝ่าบาท ทุกคนล้วนมีสิทธิ์สืบทอดราชบัลลังก์ อย่างไรก็ตาม จงอ๋องยังไม่กลับมา บ้านเมืองไม่อาจขาดผู้ปกครองแม้เพียงวันเดียว พวกเรายังคงต้องยึดเซวียนอ๋องเป็นหลัก”

“จงอ๋องกลับมาแล้ว!!!” ขันทีผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาป่าวประกาศจากข้างนอก “กองทัพของจงอ๋องอยู่นอกประตูเมือง เพียงชั่วหนึ่งก้านธูปก็จะเข้ามาถึงแล้ว”

เหล่าขุนนางมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป

เดิมทียังมีคนลังเล บัดนี้กลับไม่ต้องลังเลอีกต่อไปเพราะจงอ๋องกลับมาแล้ว!

“ทุกท่าน พวกท่านลืมแล้วหรือว่าจงอ๋องโหดเหี้ยมเพียงใด?” มีคนเอ่ยขึ้นมา “พวกท่านลืมแล้วหรือว่าหลายปีที่ผ่านมานี้จงอ๋องทำอะไรไปบ้าง? หากคนอารมณ์ร้ายเช่นนั้นกลายมาเป็นผู้ปกครองแผ่นดิน เบื้องล่างจะมีชีวิตที่ดีได้หรือ? เขาคิดจะฆ่าผู้ใดก็ฆ่าผู้นั้น เห็นพวกเราราวกับเป็นมดปลวก เราจะเป็นหรือตายขึ้นอยู่กับความคิดของเขาเพียงผู้เดียว”

“ใต้เท้าอินกล่าวได้ถูกต้อง” ลู่เซวียนเอ่ย “ดังนั้น ท่านไม่กลัวว่าจงอ๋องจะรุดเข้ามาตอนนี้ แล้วสังเวยศีรษะท่านให้กับดาบของเขาหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย