สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 720

บทที่ 720 นางไม่ได้รับความเป็นธรรม นางไม่ผิด

บทที่ 720 นางไม่ได้รับความเป็นธรรม นางไม่ผิด

ณ สกุลลู่

มู่ซืออวี่เปิดจดหมาย อ่านเนื้อหาข้างในเพียงปราดเดียว แล้วจึงเอ่ยว่า “ครานี้พวกเราติดค้างใต้เท้าฉีแล้ว”

“ครานี้คุณหนูเหลวไหลเกินไป” ฉานอีเอ่ย “เพื่อที่จะช่วยท่านอ๋องจิ่น นางกลับทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตราย อีกทั้งยังไม่อยากให้ฮูหยินกับนายท่านเป็นห่วงมากเกินไป ฮูหยิน คุณหนูคงไม่ได้พึงใจจิ่นอ๋องผู้นั้นแล้วกระมังเจ้าคะ?”

“นางอายุเท่านี้กลับไม่กลัวฟ้ากลัวดิน ถึงแม้นางจะรู้ว่ามีอันตรายก็ไม่มีทางถอย ถึงแม้ไม่ใช่จิ่นอ๋อง หากเปลี่ยนเป็นสหายคนอื่น ๆ นางก็จะยอมเสี่ยงชีวิตตนเองเช่นกัน”

“นิสัยเช่นนี้ไม่รู้ว่าเหมือนผู้ใดนะเจ้าคะ” ซางจือที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ปีนี้เกรงว่าคุณหนูใหญ่คงกลับมาไม่ทันแล้ว ไม่ได้อยู่ฉลองปีใหม่ร่วมกับครอบครัว คุณหนูคงใช้เวลาปีใหม่ด้วยกันกับท่านอ๋องจิ่น”

“ทางเมืองซื่อไห่ต้องจัดการอย่างเหมาะสม” มู่ซืออวี่เอ่ย “รอเรื่องนี้จบลงแล้ว เมืองซื่อไห่จะต้องมีปัญหาตามมามากมายเป็นแน่”

ข้างนอกเกิดเสียงดังเสียดแก้วหูขึ้น

คนสองสามคนภายในห้องต่างมองหน้ากัน

ฉานอีออกไปตรวจสอบสถานการณ์ข้างนอก ไม่นานนักก็นำลิงน้อยทั้งสองเข้ามา

มู่ซืออวี่มองผู้ร้ายที่ทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยดินโคลนจนจำเค้าเดิมไม่ได้ จากนั้นก็หันไปมองผู้ร้ายอีกคนที่ใบหน้าขาวผ่องกระจ่างใส เส้นเลือดบนขมับนางพลันเต้นตุบ ๆ

“นี่มันเรื่องอะไร?”

ลู่จื่อชิงกะพริบดวงตาเฉลียวฉลาดของนางปริบ ๆ เอ่ยอ้อนเสียงอ่อนหวาน “ท่านแม่ พวกเรากำลังเล่นสอดแนมอยู่นะเจ้าคะ”

“สอดแนม?” มู่ซืออวี่มองผู้ร้ายที่อยู่ข้าง ๆ “ใบหน้าน้องชายเจ้าเป็นเจ้าที่ป้ายโคลนให้เขาใช่หรือไม่?”

ลู่จื่อชิงเม้มริมฝีปาก สีหน้าบ่งบอกถึงความรังเกียจ “ท่านแม่ ท่านคิดอะไรน่ะ? จะเป็นข้าป้ายไปได้อย่างไร? ข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ?”

“เช่นนั้นผู้ใดละเลงโคลนลงบนใบหน้าเขา?”

“เขาทำเองนะเจ้าคะ!” ลู่จื่อชิงเอ่ยอย่างมีเหตุผล “โคลนสกปรกเช่นนั้น ข้าเป็นเด็กผู้หญิง จะป้ายเองได้อย่างไร?”

มู่ซืออวี่แย้มยิ้มออกมา “ผู้ใดอยากเล่นลอบสำรวจศัตรูหรือ?”

“ข้าเอง!” ลู่จื่อชิงตอบ

“เช่นนั้นเหตุใดเขาจึงละเลงหน้าตนเองจนกลายเป็นเช่นนี้?” มู่ซืออวี่พยายามคงรอยยิ้มเอาไว้ ทั้งยังลอบพึมพำเสียงเบา ‘อย่าตีเด็ก ๆ’

“การสอดแนมไม่อาจให้ผู้อื่นจำได้ ไม่เช่นนั้นจะล้มเหลว เขาหน้าหน้าตาดีเพียงนี้จะถูกผู้อื่นจำได้เอาง่าย ๆ แน่นอนว่าต้องพรางตัวน่ะสิเจ้าคะ!”

“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าไม่ป้ายหน้าเจ้าด้วยเล่า?” หัวข้อยังคงวกกลับมาที่จุดเดิม

ซางจือและฉานอีขยิบตาให้ลู่จื่อชิง

ฮูหยินโกรธแล้ว คุณหนูรองปกติเฉลียวฉลาดเพียงนั้น เหตุใดวันนี้ถึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าน้ำเสียงของนางแปลกไป?

รีบหยุดพูดเถิด

ยอมรับความผิดแต่โดยดีเสีย

ลู่ฉาวจิ่งผู้ที่เงียบมาโดยตลอดเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่ไม่ค่อยชัดเจนนัก “พี่หญิงรองบอก ข้า… น่า ‘ออง’ (มอง) กว่านางจึงต้องพรางตัว”

“ลู่จื่อชิง แม่ลงโทษเจ้าให้คัดคัมภีร์ตรีอักษรหนึ่งจบ คัดเสร็จแล้วนำมาให้ข้า ข้าดูจนพอใจแล้วเจ้าจึงจะออกไปข้างนอกได้” มู่ซืออวี่เอ่ยด้วยสีหน้าเยือกเย็น

ลู่จื่อชิงเบะปาก “เหตุใดเล่า? ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด น้องชายหน้าตาน่ามองกว่าข้าจะถูกพบเอาได้ง่าย ๆ ข้าพรางตัวให้เขา มีปัญหาที่ใด?”

“มีตรงที่มันสกปรก เจ้าให้น้องชายเจ้าป้ายโคลนไปทั้งใบหน้าเช่นนั้น เหลือไว้เพียงดวงตากับรูจมูก เจ้ายังมีเหตุผลอยู่อีกหรือ?”

ขณะที่มู่ซืออวี่ตำหนิลู่จื่อชิงอยู่นั้น ซางจือและฉานอีก็พาลู่ฉาวจิ่งไปทำความสะอาดแล้ว

“เสี่ยวชิงเอ๋อร์ เหตุใดทำให้แม่เจ้าโกรธได้เล่า?” ลู่อี้เดินเข้ามาจากข้างนอก

พลังทำลายล้างของแม่สาวน้อยคนนี้ก็มากมายกว่าเด็กน้อยอีกสามคนรวมกันเสียอีก

“ท่านพ่อ…”

“เสี่ยวชิงเอ๋อร์ ระยะนี้เจ้าทำการบ้านเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

“ไม่อยากพาข้าไปก็แล้วไปเถอะ เหตุใดต้องเอ่ยถึงสิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดด้วยเล่า? ท่านพ่อเช่นนี้ไม่เอาแล้ว ข้าตามท่านแม่ไปหาท่านอาสะใภ้รองดีกว่า!” ลู่จื่อชิงวิ่งออกไป

ลู่อี้ส่ายศีรษะเบา ๆ

สาวน้อยคนนี้ช่างแปลกประหลาด ไม่มีวิธีใดจัดการนางได้จริง ๆ

เขาหยิบจดหมายบนโต๊ะขึ้นมาอ่านดู

“เจ้าเด็กนี่…” ลู่อี้ขมวดคิ้ว “ใครก็ได้…”

ถึงแม้จะกล่าวว่าฉีเซียวพาคนไปแล้ว แต่นั่นเป็นลูกสาวของเขา จะปล่อยให้ความปลอดภัยของนางอยู่ในกำมือของผู้อื่นได้อย่างไร?

“ท่านพ่อ…” ลู่ฉาวจิ่งดึงแขนเสื้อลู่อี้เบา ๆ

ลู่อี้ก้มหน้าลงมองลู่ฉาวจิ่งที่มองเขาด้วยดวงตาใสซื่อไร้เดียงสา

เขาอุ้มลูกชายคนเล็กของตนขึ้นมา สาวเท้าออกไปข้างนอก “ให้คนไปเชิญท่านแม่ทัพเซี่ยมา”

ถึงเวลาปราบโจรแล้ว!

แม้ฉีเซียวจะนำกองกำลังในเมืองซานหลินไป แต่คิดจะจัดการกับโจรในเมืองซื่อไห่ย่อมไม่ง่ายดาย หากต้องการให้เรื่องนี้ไร้ข้อผิดพลาด ต้องส่งกองกำลังไปมากยิ่งกว่าเดิม

เซี่ยคุนได้คุมกองทัพแล้ว ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้สร้างผลงานทางการทหาร

ลู่อี้เห็นว่ามู่ซืออวี่ไม่อยู่ที่จวน ลูกสาวคนเล็กก็ตามไปแล้ว เหลือไว้เพียงลู่ฉาวจิ่งเพียงลำพังจึงพาเขาไปพบเซี่ยคุนด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย