บทที่ 726 ผู้ใดยังไม่มีลูกแฝดกัน
บทที่ 726 ผู้ใดยังไม่มีลูกแฝดกัน
หลังจากลู่ฉาวอวี่ได้ยินรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา สีหน้าหนักอึ้งก็ปรากฏบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม
เขาหันไปมองท่านอาที่กำลังตื่นเต้นแล้วเอ่ยว่า “ท่านอา สำนักตรวจการยังมีเรื่อง ข้าต้องขอตัวก่อนแล้ว”
ลู่อี้เอ่ย “เจ้าไปทำงานเถอะ! อาสะใภ้รองของเจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว รอเจ้าเสร็จงานค่อยมาหา”
“ขอรับ” ลู่ฉาวอวี่ประกบมือแล้วเดินออกไป
ลู่เซวียนกล่าวขึ้นว่า “ท่านพี่ ท่านเย็นชาต่อลู่ฉาวอวี่เกินไปกระมัง สีหน้าของเขาแปลก ๆ เหตุใดท่านไม่ถามเขาเล่าว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่?”
“สิงไท่ฟู่พาฮูหยินและลูก ๆ ไปไหว้พระที่วัด พวกเขาพบโจรระหว่างทางกลับมายังเมืองหลวง ท้ายที่สุดมีเพียงลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวหนึ่งคนที่เหลือรอดมาได้” ลู่อี้เอ่ย “คดีนี้เกี่ยวข้องกับราชสำนัก สำนักตรวจการ ศาลต้าหลี่ และกรมอาญา สามศาลต้องทำการไต่สวน ดูจากสีหน้าเมื่อครู่ คงมีเบาะแสใหม่จึงต้องรีบไปตรวจสอบเพื่อติดตามผล”
“ที่แท้ท่านก็ทราบทุกอย่างนี่เอง”
“เรื่องในราชสำนักเรื่องใดปิดบังข้าได้บ้างเล่า?” ลู่อี้เอ่ย “ลู่ฉาวอวี่มีความสามารถพอที่จะจัดการ เหตุใดข้าต้องไปชี้นิ้ว? อีกสิบยี่สิบปี ความสำเร็จของเขาจะต้องมากกว่าข้าเป็นแน่”
“ดูท่าทีโอ้อวดของท่านสิ” ลู่เซวียนแค่นเสียงเย็น “ตอนนี้ข้าก็เป็นคนมีลูกแล้ว คิดจะอวดกับผู้ใดกัน?”
ลู่อี้ “…”
เขามองลู่เซวียนราวกับมองคนโง่เขลาคนหนึ่ง
นี่เขาอวดหรือ?
เขาไม่ได้พูด ‘ความจริง’ มาโดยตลอดรึ?
“ดูท่าทีไร้ค่าของเจ้าสิ” ลู่อี้เอ่ย “เมื่อครู่ผู้ใดปาดน้ำตาอยู่ข้างนอกนั่น?”
“ข้าปาดน้ำตาที่ใด?”
“น้องสะใภ้ไม่เป็นอะไรแล้ว ถึงเวลาที่ข้าจะไปจัดการงานในมือ เจ้าหวงแหนความรู้สึกของการเป็นพ่อคนตอนนี้เอาไว้เถอะ!” ลู่อี้รู้ว่าน้องชายคงไม่อาจหายตื่นเต้นได้ในชั่วขณะ จึงไม่อยากรั้งอยู่ดูเขาคุยโวอีก
ผู้ใดยังไม่มีลูกแฝดกัน?
ลูกแฝดของเขาอายุสิบกว่าปีแล้ว น้องชายเขายังจะมาโอ้อวดอะไรอีก?
กล่าวถึงลูกแฝดแล้ว เขาก็นึกถึงลู่จื่ออวิ๋นขึ้นมา ตอนนี้ลู่อี้ยังไม่มีอารมณ์ไปหอสมุด ต้องไปหาลูกสาวแก้วตาดวงใจก่อนเพื่อถามนางว่ากับเซี่ยเฉิงจิ่นเป็นอย่างไรแล้ว
ลู่จื่ออวิ๋นเพิ่งรุดกลับมาเมืองหลวงก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น บัดนี้เรื่องคลี่คลายเรียบร้อย นางจึงผ่อนคลายลง คิดจะไปพักผ่อนเสียหน่อย ติงเซียงก็มาแจ้งนางว่านายท่านกำลังรออยู่ในห้องตำรา
“ท่านพ่อ ท่านตามหาข้าอยู่หรือเจ้าคะ?” ลู่จื่ออวิ๋นเดินถือกล่องใบหนึ่งเข้าไปในห้อง
ลู่อี้ปั้นหน้านิ่งมองลูกสาวคนโตอย่างจริงจัง
ลู่จื่ออวิ๋นรู้สึกราวกับไม่ได้รับความเป็นธรรม “ท่านพ่อ ท่านโหดร้ายยิ่งนัก!”
“ว่ามาเถอะ ครานี้เหตุใดเจ้าไปที่เมืองซื่อไห่ได้?” ลู่อี้ไม่ได้ถูกนางหลอกล่อ
ทุกครั้งที่ทำอะไรผิด เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์มักจะออดอ้อน ความผิดพลาดเล็ก ๆ ก่อนหน้านี้ การออดอ้อนของนางพอทำให้แล้วไปได้ ทว่าครั้งนี้นางเกือบถูกเจ้าเด็กเหม็นโฉ่ผู้นั้นลักพาตัวไปแล้ว ไม่สามารถปล่อยผ่านเพราะลูกไม้ตื้น ๆ ได้อีก
“เดิมทีพวกเราจะไปเมืองซานหลิน ผู้ใดจะรู้ว่าระหว่างทางจะพบเจอคนชั่ว จึงทำได้เพียงเปลี่ยนเส้นทางไปเมืองซานหลินโดยผ่านทางเมืองซื่อไห่ ผลคือเรื่องกับยิ่งเลวร้ายลง สถานการณ์ในเมืองซื่อไห่ไม่สู้ดีเสียยิ่งกว่า ท่านพ่อ ลูกขอบ่นสักประโยคเถิด ท่านเป็นถึงอัครมหาเสนาบดี อยู่ใต้คนผู้เดียว อยู่เหนือคนนับหมื่น นำพาความสงบมาให้ใต้หล้าเป็นหน้าที่ของท่าน ผลคือเมืองซื่อไห่กลับถูกโจรสร้างปัญหามาให้เป็นระยะเวลานาน อีกทั้งลูกสาวของท่านยังเกือบถูกพวกเขาลักพาตัวไปแล้ว”
ในที่สุดลู่อี้ก็ดูออก สาวน้อยคนนี้ปกติว่านอนสอนง่าย ทว่าอันที่จริงคารมคมคายของนางไม่ได้ด้อยไปกว่ามารดาของนางแม้แต่น้อย สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเสี่ยวชิงเอ๋อร์ก็มีความสามารถในการต้อนเขาให้อับจนปัญญาเช่นเดียวกัน
“เจ้าหมายความว่าที่เกือบเกิดเรื่องกับเจ้าเป็นความผิดของพ่อเจ้าหรือ?”
“สารภาพแล้ว”
“คดีนี้มีจุดน่าสงสัยหรือไม่?” ใบหน้าของสิงเจียซือไม่ได้ไร้เดียงสาและมีรอยยิ้มสดใสแต่งแต้มดั่งวันวานอีกต่อไปแล้ว
ลู่ฉาวอวี่นึกถึงท่านพ่อของเขา ลู่อี้ที่ต้องตรวจสอบความจริงเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมของครอบครัว ไม่รู้ว่าเพราะเข้าใจความรู้สึกหรือเพราะสงสารหญิงสาวผู้นี้ เขาจึงไม่ได้ปฏิบัติกับนางเช่นเดียวกับผู้อื่น
“คนผู้นั้นบอกว่าบิดาเจ้าเป็นศัตรูของเขา เขาจับตามองครอบครัวเจ้ามานานแล้ว เขารู้ล่วงหน้าว่าครอบครัวเจ้าจะไปที่วัดจึงนำคนไปลอบสังหาร อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าไปที่วัดนั้นอย่างไม่ได้วางแผนล่วงหน้า วันนั้นบิดาของเจ้ามีวันหยุดพอดี มารดาเจ้าจึงพาเขาไปที่วัดด้วยกัน หากคนลงมือรู้ล่วงหน้า เช่นนั้นผู้ใดมอบจดหมายให้เขา?”
“ใต้เท้าฉลาดเพียงนี้จะต้องสืบหาความจริงออกมาได้เป็นแน่”
“ข้าจะพยายาม”
“วันนั้นท่านแม่พาท่านพ่อไปที่วัด ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นวันหยุดของท่านพ่อ ท่านแม่ข้าจึงอยากให้เขาไปด้วย แต่ยังเป็นเพราะท่านพ่อข้าและท่านอารองทะเลาะกัน ท่านแม่จึงอยากให้ท่านพ่อออกไปเดินเล่นเพื่อผ่อนคลาย”
“ทางอารองของเจ้านั้นข้าตรวจสอบแล้ว ตอนที่พวกเขาทะเลาะเบาะแว้งกันมีคนเห็นหลายคน หลังจากเกิดเหตุฆาตกรรม พวกเราก็ไปสอบถามเขาแต่ไม่พบพิรุธอะไร”
“ไม่ใช่ท่านอารองก็ดีแล้ว” สิงเจียซือถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยสอบถามเรื่องของผู้ใหญ่มาก่อน ตอนนี้เรื่องใดล้วนไม่รู้ ใต้เท้าได้โปรดตัดสินให้สตรีตัวเล็ก ๆ ผู้นี้ และคืนความยุติธรรมให้ท่านพ่อท่านแม่ข้าด้วยเถิด”
“เจ้าลุกขึ้นเถอะ” ลู่ฉาวอวี่คว้าแขนของสิงเจียซือดึงนางลุกขึ้น “นี่เป็นหน้าที่ของข้า ไม่ว่าผู้ใดกระทำผิด ข้าจะสืบไปจนถึงต้นตอให้ได้”
สิงเจียซือคำนับลู่ฉาวอวี่ จากนั้นจูงมือน้องชายของนางจากไป
ลู่ฉาวอวี่เดิมทีคิดจะกลับบ้าน ทว่าตอนนี้กลับตัดสินใจจะไปดูที่เกิดเหตุ บางทีที่นั่นอาจหลงเหลือร่องรอยอะไรบางอย่าง
ผู้ติดตามเขาเอ่ยว่า “ฟ้ามืดแล้ว ยามนี้ออกนอกเมืองไปดูที่เกิดเหตุ เกรงว่าจะกลับมาไม่ทัน ไม่เช่นนั้นให้ข้าน้อยไปให้สักเที่ยวเถอะขอรับ?”
“พวกเจ้าเคยไปแล้ว หากตรวจพบเบาะแสอื่นใด คงตรวจสอบกลับมาได้ตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ข้าจะไปดูด้วยตนเอง” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “นอกจากนี้ เจ้าจัดคนไปนำร่างคนของสกุลสิงไปที่สำนักตรวจการ ดูแลให้ดี ตอนที่ข้ากลับมา ต้องให้อู่จั้วทำการชันสูตรอีกครั้ง”
ลู่ฉาวอวี่ขึ้นควบหลังม้า พาผู้ติดตามห้าคนออกจากเมืองหลวง…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...