บทที่ 774 ลอบสังหาร
บทที่ 774 ลอบสังหาร
กลางดึก
มู่ซืออวี่ยืนอยู่หน้าแผนที่ พลางเอานิ้ววาดวงกลมลงบนจุดต่าง ๆ
หลี่กู่หยวนเดินเข้ามาจากด้านนอกแล้วเอ่ยว่า “อาจารย์ ร่างกายของท่านทนต่อไปไม่ได้นะขอรับ”
“เหตุใดเจ้าไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ กลับมาทำอะไร” มู่ซืออวี่หันกลับไปมองแวบหนึ่ง “หากเป็นเช่นนี้ต่อไป แม่ของเจ้าจะต้องตำหนิข้าเป็นแน่ เจ้าเป็นศิษย์ข้า บัดนี้กลับรู้สึกว่ากตัญญูกว่าลูกชายข้าเสียอีก”
“เช่นนั้นข้าควรเรียก ‘ท่านแม่’ หรือไม่?” หลี่กู่หยวนเอ่ยยิ้ม ๆ
มู่ซืออวี่เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “นับวันเจ้าชักจะหนังหนาขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว”
“ฮ่า ๆๆๆ” หลี่กู่หยวนดูไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย “หากไม่เป็นคนหนังหนา พวกเราสองแม่ลูกคงอยู่มาไม่ถึงวันนี้! ข้าจะถือเสียว่าอาจารย์ชม”
มู่ซืออวี่หัวเราะออกมา นางรู้สึกว่าคำพูดของเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร
“อาจารย์ แม่น้ำสายนี้มีปัญหาอะไรหรือ?” หลี่กู่หยวนเห็นมู่ซืออวี่วาดวงกลมลงบนแผนที่หลายวง หนึ่งในนั้นคือแม่น้ำสายหนึ่ง
“ไม่มีปัญหา” มู่ซืออวี่เอ่ย “เพียงแต่ข้ามีความคิดหนึ่งจึงอยากจะลองวางแผนดู”
“อาจารย์ หากมีงานสำคัญอะไร เช่นนั้นก็มอบให้ศิษย์ทำเถิด! ข้าอยากสร้างคุณงามความชอบมากกว่านี้” หลี่กู่หยวนเอ่ยอย่างประจบประแจง “ไม่ว่าจะอันตรายเพียงใดล้วนไม่เป็นปัญหา ท่านก็รู้ ข้าหัวดี!”
“ในเมื่อเจ้ากล่าวเช่นนั้น ข้าก็มีงานหนึ่งมอบหมายให้เจ้าทำจริง ๆ” มู่ซืออวี่กวักมือเรียกเขา “เจ้าเข้ามาใกล้ ๆ เรื่องนี้เป็นความลับ จะให้ผู้ใดรู้ไม่ได้เป็นอันขาด”
หลี่กู่หยวนพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก หลังจากได้ยินคำแนะนำของมู่ซืออวี่ รอนางกล่าวจบ เขาก็ประกบมือคำนับแล้วเดินออกไป
ลู่จื่ออวิ๋นนำอาหารมื้อดึกเข้ามา เดินสวนกับหลี่กู่หยวนพอดี
“ช้าก่อน” ลู่จื่ออวิ๋นร้องเรียก “แม่ครัวเพิ่งทำของว่างเสร็จ ท่านอยากลองชิมดูหน่อยหรือไม่?”
หลี่กู่หยวนมองของว่างหน้าตาประณีตสวยงามเหล่านั้น แล้วเอ่ยปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ข้าไม่กินแล้ว รอข้าเตรียมการตามที่อาจารย์มอบหมายเสร็จจะกลับมาขอกินอีกครั้ง ถึงตอนนั้นศิษย์น้องอย่าได้ขี้งกเล่า ข้าไปล่ะ!”
ลู่จื่ออวิ๋นเดินเข้าไปแล้วเอ่ยกับมารดา “ท่านแม่ลำเอียง งานสำคัญท่านมอบหมายให้ศิษย์พี่ทำ ไม่มอบให้ข้า เป็นเพราะข้าเป็นสตรีใช่หรือไม่?”
“เจ้าก็มีงานสำคัญเช่นกัน” มู่ซืออวี่เอ่ย “ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าไปเฝ้าคนให้เร่งทำเสื้อกันฝนและรองเท้าใส่ฤดูฝนหรือ?”
“แม้ตอนนี้อากาศไม่ได้ร้อนแผดเผา ทว่าฟ้าก็ยังโปร่งสวยงาม เหตุใดจู่ ๆ เราต้องทำอุปกรณ์กันฝนมากมายเพียงนั้นเล่าเจ้าคะ?”
“หนูน้อย เจ้าไม่ได้กลิ่นชื้นในอากาศหรือ? ฝนอาจมาได้ทุกเมื่อ ถึงตอนนั้นก็สายเกินกว่าจะห้ามไม่ให้มันตกแล้ว”
รถม้าโงนเงนไปมา มู่ซืออวี่เอนตัวพิงผนังรถม้า เปลือกตาเคลื่อนปิดลง จากนั้นนางก็ค่อย ๆ ผล็อยหลับไป
เจ๋อหลานยกมือขึ้นทำท่าเงียบปากให้ชิงไต้ แล้วใช้เสื้อคลุมห่มให้ผู้เป็นนาย
ทันใดนั้นเอง รถม้าก็หยุดลงพร้อมเสียงดังกึกกัก
มู่ซืออวี่สะดุ้งตื่น
“เจ้าขับรถม้าอย่างไรกัน?” เจ๋อหลานโมโหจึงตะโกนพูดกับคนขับรถม้าที่อยู่ด้านนอก
คนขับรถม้าไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
เจ๋อหลานสังเกตได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงแหวกม่านออกดู พบว่าคนขับรถม้าหายไปแล้ว
คนชุดดำหลายคนโรยตัวลงมากลางอากาศ
“ปกป้องฮูหยิน!” เจ๋อหลานตกตะลึง
นางรุดออกไปเผชิญหน้ากับชายชุดดำ ขณะที่ชิงไต้อยู่ในรถม้าคอยปกป้องมู่ซืออวี่
รถม้าได้รับการปรับแต่งแล้ว ขอเพียงแค่ปิดให้สนิท ไม่ว่าจะเป็นดาบหรือลูกธนูก็ไม่อาจทลายมันได้
ด้านนอก นอกจากเจ๋อหลานแล้วยังมีผู้คุ้มกันลับอีกหลายคน
เสียงการต่อสู้กันดังขึ้น
มู่ซืออวี่ฟังเสียงการปะทะข้างนอกแล้วเอ่ยกับชิงไต้ “เจ้าก็ออกไปช่วยเถิด”
“ฮูหยิน บ่าวมีหน้าที่ปกป้องท่านเจ้าค่ะ”
เสียงดาบตัดผ่านเนื้อดังชัดเจนเป็นพิเศษ
เมื่อกลับมาถึงจวน มู่ซืออวี่คิดถึงเรื่องที่เกิดเมื่อครู่ ทำอย่างไรนางก็นอนไม่หลับ
ชิงไต้เข้าใจว่าผู้เป็นนายกำลังคิดอะไรจึงชงชาผ่อนคลายให้ถ้วยหนึ่ง หลังจากนางดื่มลงไป ถึงได้รู้สึกง่วงนอนขึ้นมา
“ฮูหยินจะเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้” ชิงไต้เอ่ย “เมื่อใดทัพหนุนจะมาถึงเมืองฮู่เป่ยกันนะ! ไม่ว่าฮูหยินจะแข็งแกร่งเพียงใดก็เป็นเป็นเพียงสตรีบอบบาง เหตุใดต้องมาแบกรับภาระหนักหนาเพียงนี้?”
เช้าวันถัดมา ขณะที่มู่ซืออวี่กำลังรับประทานอาหาร ลู่ซวิ่นก็เข้ามา
“ไต่สวนเรียบร้อยแล้วหรือ?” มู่ซืออวี่วางตะเกียบลงแล้วเอ่ยกับลู่ซวิ่น “เจ้าไม่ได้นอนทั้งคืนใช่หรือไม่ นั่งลงทานข้าวด้วยกันก่อนเถิด แล้วค่อยกลับไปพักผ่อนทีหลัง”
ลู่ซวิ่นกล่าวขอบคุณแล้วนั่งลง
“พวกเขาเป็นผู้ใด?”
“เป็นพวกที่กบฏส่งมาขอรับ”
“มาได้อย่างไร?”
“ใช้นกจักรกลขอรับ”
สิ้นคำ ลู่ซวิ่นก็ตะโกนไปข้างนอก “เอาของเข้ามา”
ด้วยเหตุนี้ จึงมีคนสิบกว่าคนอุ้มนกจักรกลขนาดใหญ่เข้ามา
ตัวนกทำจากโลหะพิเศษ ไม่ได้ทำจากไม้ ดังนั้นจึงแข็งแรงกว่าปกติ ปีกของมันใช้ชิ้นส่วนเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนประกอบกัน แสดงให้เห็นว่าพวกมันคล่องตัวมากเพียงใดเมื่อบินอยู่บนท้องฟ้า
มู่ซืออวี่นั่งยอง ๆ ลงข้างหน้าและตรวจสอบชิ้นส่วนเหล่านั้น
รู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง
ไม่ว่าจะเป็นนกจักรกลหรือชิ้นส่วนอื่น นางล้วนรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง
ลู่จื่ออวิ๋นเดินเข้ามาแล้วเอ่ยว่า “ท่านแม่ ข้ามาช้าแล้ว ท่านทำนกขนาดใหญ่เพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?”
“ไม่ใช่ข้าทำ”
“ไม่ใช่หรือ? แต่มันดูเหมือนนกจักรกลที่ท่านทำให้เราเล่นเมื่อก่อนเลยนะเจ้าคะ” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “ท่านยังจำได้หรือไม่? ตอนที่ข้ากับพี่ชายยังเล็ก ท่านทำนกจักรกลให้เราเล่นสองตัว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...