สัญญาร้ายของประธานปีศาจ นิยาย บท 20

บทที่20 เธอมีอะไรดีกว่าคนอื่น

เผยลี่เชินจัดการอ่านเอกสารในมือจนจบก่อนจะตระหนักได้ว่าด้านข้างมีไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอยู่ เขาจัดการปิดเก็บเอกสารทันที ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “ได้เจอกับเลขาสวี่แล้วหรือยัง?”

ความหมายเลขาสวี่ของชายหนุ่ม แน่นอนว่าต้องเป็นสวี่เยว่หรูไม่ใช่ใครอื่นแน่

“เมื่อกี้เจอแล้วที่ห้องทำเครื่องดื่มค่ะ” เธอตอบตามความจริง

“เลขาสวี่รับผิดชอบเรื่องจัดตารางงานในแต่ละวัน ฟังฉันและไปจัดการ สายๆเธอไปหาเลขาสวี่ บอกเขาว่าต้องการตารางการเดินทางของฉัน และอีกสักพักก็ไปเข้าประชุมกับฉันด้วย มีประชุมกับพวกระดับสูงกับโปรเจคหนานไห่ เธอต้องรับผิดชอบในการสรุปการประชุม”

“รับทราบค่ะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบรับ ชายหนุ่มสักพักก็ลุกขึ้นยืน คว้าสูทที่พาดไว้กลับขึ้นมาใส่ ก่อนจะเดินนำออกไปข้างนอก

หญิงสาวรอจนเผยลี่เชินเดินออกไปก่อนถึงเดินตามหลังไป แต่ก้าวได้ไม่ทันไร อยู่ๆคนตรงหน้าก็หยุดเข้าให้ คนตามหลังที่ไม่ทันได้ระวังก็เลยชนเข้ากับแผ่นหลังหนานั่นทันที

“ขอโทษทีค่ะท่านประธาน!”

ไม่ทันได้ถูแผลที่โขกบรรเทาความเจ็บ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ต้องรีบเอ่ยขอโทษอีกคนเอาเสียก่อน

เผยลี่เชินมองเธอก่อนไม่กี่วิต่อมาจะเอื้อมมือไปเชยคางอีกคนเข้า

หญิงสาวหัวใจรัดแน่นเมื่อสายตาสบเข้าโดยตรงกับดวงตาหนาลึกนั่นแต่กลับอ่านความหมายมันไม่ออก

“ไป๋เสว่เอ๋อร์ จำไว้นะ คนที่มีคุณสมบัติของเลขาจะไม่แสดงออกตลอดเวลาแบบนี้”

“ฉันเข้าใจแล้ว”

เธอไม่เคยทำงานเป็นเลขามาก่อน หรือให้พูดตามตรงเลยก็คือทันทีที่เธอเรียนจบก็เข้าทำงานที่ไป๋ซื่อเลย ต่อให้ไม่ค่อยได้เรื่องเสียเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีประสบการณ์การทำงานด้านอื่น

“ถ้าเป็นฉัน อย่างน้อยก็จะยิ้ม” เผยลี่เชินว่า ทันใดนิ้วโป้งก็เลื่อนขึ้นไปเกลี่ยริมฝีปากนุ่มนิ่มนั่น

ไป๋เสว่เอ๋อร์นิ่งไป ก่อนชายตรงหน้าจะรีบถอนมือออก เขารีบหันหลังกลับมาก่อนจะเปิดประตูห้องออกไป

หญิงสาวเดินตามหลังไป คิดถึงประโยคล่าสุดของอีกคน จึงค่อยๆแอบยกริมฝีปากอย่างเงียบๆ

ในห้องประชุมขนาดใหญ่บนชั้นเดียวกัน โต๊ะประชุมวงรีเต็มไปด้วยผู้คน เหลือก็เพียงตำแหน่งด้านหน้าตรงกลางที่ยังคงว่างอยู่

ทุกคนที่นั่งอยู่ ทั้งหมดเป็นพวกคนระดับสูงของเผยซื่อ เผยอี้ก็อยู่ด้วยเช่นกัน เขามองโครงการหนานไห่ตรงหน้า ในใจอดจะรู้สึกหดหู่เล็กน้อยไม่ได้

หลังจากเมื่อเช้าที่เจอไป๋เสว่เอ๋อร์ที่บริษัท เธอก็เป็นเหมือนดั่งเงาที่ตามติดเขา ผลุบๆโผล่ๆในสมองของเขาตลอดเวลา แค่คิดว่าเผยลี่เชินเป็นคนจัดการให้เธอมาทำงานที่เผยซื่อก็อดจะโมโหไม่ได้

“กริ๊ก” เสียงประตูห้องประชุมถูกเปิดออก เผยลี่เชินเดินเข้ามา ดูเหมือนท่าทางที่ออกมาไม่รู้ตัวจะทำให้คนรอบกายเกรงขาม คนที่นั่งอยู่ต่างยืดตัวและหยุดพูดคุยแทบจะในทันที

เผยอี้ไม่ได้ตั้งใจมองก็เผลอมองเช่นกัน ไม่ทันจะได้ละสายตาออกมาก็เจอกับร่างเพรียวบางที่เดินตามเข้ามา

เผยอี้หันไปมองอย่างเต็มตา ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินตามเผยลี่เชินมาด้วยกัน ในมือถือตัวช่วยในการจดบันทึกอย่างแท็บเลตขนาดเล็ก ท่าทางราวกับเป็นเลขาส่วนตัวอย่างไงอย่างงั้น

ต้นคิ้วขมวดมุ่น มองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าไปมา

ไม่ว่าหญิงสาวจะอดทนกับความรู้สึกของเธออย่างไร แต่ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นแดงจัด ริมฝีปากที่ถูกกัด ก็เผยออกมาโดยที่เธอก็พูดอะไรไม่ออก

เผยลี่เชินเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น สีหน้าเริ่มอึมครึม “เผยอี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การที่ฉันจะเอาใครเข้าบริษัทต้องมารอการยินยอมจากนายกัน?”

เขาไม่ได้เรียกอีกคนว่า “รองประธานเผย” แล้ว แต่กลับเรียกเป็นชื่อของเจ้าตัว มันเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าเขามีความอดทนไม่มากในขณะนี้

ดูเหมือนว่าเผยอี้จะโกรธ ในสายตาของเขาในเวลานี้ไม่ได้สังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของเผยลี่เชินเลยสักนิด เขาไม่คิดสนใจอะไร และยังคงทำลายอีกคนด้วยสิ่งที่พูดทิ้งไว้ของเขาต่อหน้าทุกคนต่อไป “ท่านประธานกฎของเผยซื่อคุณรู้ดีกว่าใคร สิ่งต้องห้ามที่สุดคือการเปิดเชิญใครก็ไม่รู้เข้ามาทางประตูด้านหลัง ถ้าคุณที่เป็นคนนำหน้าพวกเราทุกคนทำแบบนี้ แล้วคนอื่นจะทำอย่างไรกัน? ถ้าหากว่ามีคนที่ไร้วุฒิการศึกษา ไร้ประสบการณ์ก็สามารถขึ้นมาเป็นเลขานุการผู้บริหารใหญ่ได้เข้าเสีย งั้นบริษัทจะไม่มั่วไปหมดงั้นหรอกเหรอ?”

เผยอี้ลดระดับกดไป๋เสว่เอ๋อร์ให้ลงด่ำดิ่งต่ำลงไปที่สุด เขาไม่ได้สนใจใบหน้าของเธอเลยสักนิด แต่เขารู้สึกว่าแค่นี้มันยังไม่สาสม เลยเปลี่ยนให้มันแรงยิ่งขึ้น “ถ้าประธานกล้าที่จะรับเลขาแบบนี้เข้ามาทำงาน งั้นผมเห็นควรว่าโปรเจคหนานไห่ ควรจะระงับไปเลยเสียดีกว่า!”

“พูดจบรึยัง?”

เผยลี่เชินเปล่งเสียงออกมา สายตามองจ้องไปที่เผยอี้

เผยอี้ที่เห็นเผยลี่เชินเริ่มโกรธ ก็เย็บปากตัวเองเก็บแทบจะทันที

“การที่ฉันจะรับใครเข้าทำงานโดยที่ฉันเป็นคนจัดการเองมันเป็นไปไม่ได้หรือไง? ฉันต้องมาถามพวกพวกคุณแต่ละคนทีละคนๆว่ารับไหมอย่างนั้นเหรอ?”

เผยลี่เชินกล่าวมาแบบนี้ แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกต่อไป หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งผู้จัดการเฉินของฝ่ายวางแผนก็กล่าวขึ้น "ประธานเผย ฉันคิดว่ารองประธานเผยพูดก็ไม่ผิด เป็นการยากที่จะโน้มน้าวใจผู้คนหากคุณเข้ามาในบริษัทโดยไม่มีการตรวจสอบ แต่ถ้าเลขานุการถังดีพอที่จะสร้างผลประโยชน์ให้กับบริษัท แน่นอนว่าพวกเราก็ยินดีที่จะรับมัน "

ผู้จัดการเฉินเป็นคนเฒ่าคนแก่ที่ดีคนนึง คำพูดที่อีกคนใช้ในสถานการณ์ที่ขัดแย้งเช่นนี้ต้องระวังไม่ทำให้ใครขุ่นเคือง

เขามองไปยังไป๋เสว่เอ๋อร์ ก่อนจะหันกลับไปพูดกับเผยลี่เชินอีกครั้ง “ทำไมไม่หาโอกาสให้เลขาไป๋พิสูจน์ความสามารถของเธอเองเพื่อให้ทุกคนได้มั่นใจได้กันล่ะครับ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญาร้ายของประธานปีศาจ