บทที่34 เขาสารภาพผิดแล้ว
ไป๋เสว่เอ๋อร์จ้องมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “ลบคลิปวิดีโอซะ”
เผยอี้สีหน้าเยียบเย็น “คลิปวิดีโออะไร?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ลังเลแม้แต่น้อย แถมยังสาวเท้าไปข้างหน้าครึ่งก้าว “คลิปที่ฉันขอโทษรองประธานฟางในห้องทำงานเมื่อกี้ไง ฉันเห็นนายอัดไว้”
เผยอี้ยิ้มเยาะ มองยังผู้หญิงตรงหน้า แสดงสีหน้ารังเกียจ “ไป๋เสว่เอ๋อร์ ประสาทไปแล้วหรือไง? คิดว่าตัวเองเป็นใคร? ดาราเหรอ? ฉันจะถ่ายอะไรก็ได้ ทำไมฉันต้องถ่ายคลิปเธอ?”
เผยอี้ยิ้มเย็นก้าวเดินหนี แต่ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังตามไปข้างหน้า ขวางทางเขาอีกครั้ง “ถ้าวันนี้นายไม่ลบออก ฉันจะไม่ให้นายไปไหนทั้งนั้น”
หญิงที่อยู่ตรงหน้าเปล่งแววตาจริงจัง แม้น้ำเสียงจะไม่ดังนัก แต่ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะหยุดเขา
เผยอี้มองเธอเพียงชั่วครู่ ยิ้มเย็นเอ่ย “ทำไม? ตอนนี้มีเผยลี่เชินหนุนหลัง เลยปีกกล้าขาแข็งเรอะ? ฉันจะบอกให้รู้ไว้ ฉันถ่ายวิดีโอไว้จริง แต่ไม่มีทางลบเด็ดขาด!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้ว จ้องมองชายหน้าด้านแล้วยิ่งโมโหขึ้นเรื่อย ๆ
พนักงานภายในบริษัทเดินผ่านมา เห็นท่าทางของพวกเขาสองคน จึงหันมามองด้วยความแปลกใจ
ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันกรอด เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เผยอี้ ฉันไม่ได้พึ่งบารมีใครทั้งนั้น ตอนนี้พวกเราแยกทางกันเดิน ต่างคนต่างไป อย่าขัดขากันให้มากนักจะดีกว่า นายลบคลิปนั่นซะแล้วฉันจะไปทันที!”
เธอรู้อยู่แก่ใจ ว่าหากเผยอี้ต้องการสร้างพาดหัวข่าวให้เธอ คลิปวิดีโอเพียงเล็กน้อยนั่นก็สามารถทำให้ตระกูลไป๋มัวหมอง
เธอไม่อยากแบกรับแรงกดดันจากสาธารณชนอีกต่อไป ตอนนี้เธอเพียงอยากใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และค่อย ๆ กลายเป็นคนที่เข้มแข็ง
สีหน้าของเผยอี้เคร่งขรึม จ้องมองเธออย่างล้ำลึก เอ่ยเสียงเย็น “ถ้าอยากให้ฉันลบคลิปวิดีโอนี้ออกล่ะก็ หลังเลิกงานให้มาหาฉันที่ห้องทำงาน”
พอเขาพูดจบก็ก้าวเท้ายาว เดินตรงดิ่งจากไป
ไป๋เสว่เอ๋อร์มองเงาด้านหลังของเขา รู้ว่าตอนนี้ตามรังควานเขาต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงได้แต่กัดฟันข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้
เธอไม่รู้ว่าเผยอี้คิดจะทำอะไรกันแน่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอจะต้องลบคลิปวิดีโอในมือเขาให้ได้
ทุกวันนี้ตระกูลไป๋ของพวกเขาก็เจอเรื่องหนักหนาสาหัสมามากพอแล้ว ไม่อาจทนการเหยียดหยามใด ๆ ได้อีกต่อไป
ไป๋เสว่เอ๋อร์กลับมายังห้องทำงานของตัวเอง จัดเก็บรายงานแต่ละฤดูกาลที่ส่งมาจากแผนกเข้าด้วยกัน จากนั้นจึงส่งต่อไปยังห้องประธานที่อยู่ด้านข้าง
เธอผลักประตูเข้าไป เผยลี่เชินกำลังคุยโทรศัพท์อยู่พอดี เธอสาวเท้าเข้าไปโดยไม่พูดอะไร แจ้งเรื่องรายงานนายมือให้ฝ่ายชายทราบ จากนั้นจึงวางลงบนโต๊ะทำงาน
หลังจากเสร็จภารกิจแล้ว เธอหมุนตัวกำลังจะจากไป เป็นจังหวะเดียวกับที่เผยลี่เชินวางสาย เอ่ยเสียงรั้งเธอเอาไว้ “เธอมานี่ซิ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์หยุดเท้า หันร่างกลับไป ยืดตัวขึ้นเล็กน้อย “ประธานเผยมีคำสั่งอะไรคะ?”
“ติดต่อไปยังคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบทางเมืองหนานไห่ล่วงหน้า ยืนยันเรื่องเวลาการจัดกิจกรรมและสถานที่ จัดเตรียมที่พักอาการการกินโรงแรมเอาไว้ให้เรียบร้อย”
“รับทราบค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์รับคำแผ่วเบา
เผยลี่เชินกวาดสายตามองไป๋เสว่เอ๋อร์แวบหนึ่ง นิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “ฉันได้ยินข่าวบางอย่างเกี่ยวกับพ่อของเธอ”
เขาเปลี่ยนประเด็นอย่างรวดเร็ว ทีแรกไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆ ทว่าเมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับพ่อ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา สาวเท้าขึ้นมาข้างหน้าอย่างว่องไว “พ่อของฉัน...เขาเป็นยังไงบ้างคะ?”
“ไป๋เจิ้งตงยอมรับสารภาพทุกอย่าง ตอนนี้ทางศาลกำลังคำนวณมูลค่าที่ชัดเจน คิดว่าอีกไม่นานทางศาลคงจะตัดสินโทษ”
“อะไรนะ?” สีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ซีดขาวอย่างฉับพลัน เธอกำหมัดแน่น จ้องมองเผยลี่เชินอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “คุณบอกว่าพ่อของฉันทำผิดกฎหมายเหรอ?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์กำโทรศัพท์ไว้แน่น อึกอักพูดอะไรไม่ออก
คุณแม่ไป๋ตกอกตกใจ รีบเค้นถาม “เสว่เอ๋อร์ เป็นอะไรไป? ร้องไห้ทำไม! มีใครแกล้งหนูหรือไง?”
“เปล่าค่ะ แม่ หนูได้ยินเรื่องของพ่อมาจากเพื่อน…” ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปาก อดกลั้นไม่ให้เสียงสั่นเครือ “หนูได้ยินว่า พ่อก่ออาชญากรรม ...อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หนูเพิ่งค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จะต้องถูกตัดสินลงโทษ……”
เธอยังไม่ทันพูดจบ ตนเองก็สะอื้นไห้ออกมาเสียก่อน ในทางกลับกัน คุณแม่ไป๋ที่อยู่อีกฝั่งกลับสงบนิ่งยิ่งนัก “เสว่เอ๋อร์ อย่าร้องไห้เลย ตอนที่พ่อของลูกถูกนำตัวไปสอบสวน แม่เองก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ประหลาดใจ “แม่? แม่...หรือแม่รู้อยู่แล้วว่าพ่อทำผิด?”
“แม่ไม่รู้เรื่องธุรกิจหรอก แต่แม่รู้ว่าบริษัททั่วไปย่อมมีการทุจริตไม่มากก็น้อย”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ทำอะไรไม่ถูกชั่วขณะ เธอขมวดคิ้ว “แม่ หนูไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพ่อจะทำผิดกฏหมาย และยิ่งนึกไม่ถึงว่าพ่อจะถูกลงโทษเพราะก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ตอนนี้พวกเราควรจะทำอะไรสักอย่าง…”
“ตอนนี้ไป๋ซื่อก็ล้มละลายแล้ว ถึงอยากได้เงินก็หาไม่ได้ ต้องการอำนาจก็ไม่รู้จะเอามาจากไหน แล้วเราจะทำอะไรได้ล่ะ?” คุณแม่ไป๋ถอนใจเบา ๆ “คงมีแต่ต้องยอมรับชะตากรรม”
ยอมรับชะตากรรม?
ไป๋เสว่เอ๋อร์ฟังแล้ว พูดอะไรไม่ออกไปเนิ่นนาน ต่อให้พ่อก่ออาชญากรรม พ่อก็ยังเป็นเสาหลักของบ้าน เป็นคนที่เลี้ยงดูเธอมาถึงยี่สิบเก้าปี จะให้เธอไม่สนใจไยดี ยอมรับชะตากรรมเนี่ยนะ?
ไป๋เสว่เอ๋อร์ทำใจให้เย็นลง ไม่พูดอะไรกับคุณแม่ไป๋อีก เธอยกข้ออ้างขึ้นมาเพื่อวางสาย ภายในใจหนักอึ้งราวถูกหินก้อนใหญ่กดทับไว้จนแทบหายใจไม่ออก
พ่อก่ออาชญากรรม ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฏหมาย เธอคงทำอะไรไม่ได้ แต่ด้วยความรักตลอดเวลายี่สิบปีที่ผ่านมา เธอยิ่งไม่อาจนิ่งเฉยไม่สนใจไยดี หากพ่อจะต้องรับโทษจำคุก อย่างน้อยที่สุด เธอก็จะต้องให้พ่อมีชีวิตที่ดีในคุกสักหน่อย…
ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันกรอด ออกมาจากห้องน้ำ ล้างมือแล้วสาวเท้าออกไป ขณะที่กำลังจะถึงทางออก หล่อนเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นเงาร่างหนึ่งที่คุ้นตากำลังเดินมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญาร้ายของประธานปีศาจ
มีตอนต่อไปไหม...