“แอลฟ่าแอบป้าดาอยู่ในห้องแต่งตัวค่ะ” ฉันบอกป้าดาด้วยน้ำเสียงสั่นเพราะกำลังร้องไห้อยู่ บางคนอาจจะว่าฉันบ้าที่กล้าบอกป้าดาแบบนั้นแต่ฉันอยากรู้ว่าแอลฟ่ากำลังคิดอะไรอยู่ ถึงได้ร้อนรนหาที่หลบขนาดนั้นถึงได้บอกไง
“พิมเธอนั่งรอตรงนี้ก็ได้นะฉันขอไปจัดการไอ้ตัวดีก่อน มิลค์พาป้าเข้าไปหน่อยลูก” คุณป้าดาบอกแม่ฉันแล้วก็บอกฉันต่อทันทีฉันเลยเดินนำป้าดาเข้าไปในห้องนอน
“เอ่อ...ป้าดาคะ คือแอลฟ่าไม่ให้มิลค์บอกความจริงว่าเขาอยู่ที่นี่นะคะ เขาจะว่ามิลค์ไหมคะที่บอกป้าดา” ฉันถามป้าดาทันทีแต่ด้วยน้ำเสียงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“จ้ะ ไม่เป็นไร มันไม่กล้าว่าหนูหรอก” ป้าดาหันมาบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วยตัวเอง
“ออกมาแอลฟ่า” ป้าดาเปิดประตูเข้าไปก็พูดเสียงเย็นยะเยือก แต่ห้องนี้มันมีแต่ความเงียบ เงียบจนเหมือนไม่มีใครแอบอยู่
“แม่รู้ว่าแกอยู่ที่นี่ ออกมาซะ” ป้าดาพูดขึ้นอีกครั้งแต่ทุกอย่างกลับอยู่ในความเงียบเหมือนเดิม แอลฟ่าช่างมีความสามารถในการซ่อนตัวจริงๆ นะคะฉันเพิ่งรู้ เงียบมากจนไม่ได้ยินเสียงหายใจเลย ทุกอย่างในห้องนี้ก็นิ่งมากด้วยไม่มีอะไรขยับเลย
ป้าดาไม่พูดอะไรต่อแต่เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าทีละบานเพื่อหาตัวแอลฟ่า แต่จนบานสุดท้ายก็ไม่เจอเขา อย่าบอกนะว่าแอลฟ่าไม่ได้ซ่อนที่นี่ นี่เขาเป็นบ้าอะไรเนี่ย!
“โอเคจ้ะหนูมิลค์ ป้าเชื่อแล้วว่าแอลฟ่าไม่ได้อยู่ที่นี่จริง ๆ ป้าขอโทษด้วยนะลูกที่เข้าใจผิด ถ้างั้นหนูก็นอนพักผ่อนเถอะนะจ้ะเดี๋ยวป้ากลับแล้ว” พอหาแอลฟ่าไม่เจอป้าดาก็หันมาพูดกับฉันแล้วก็เดินออกไปซะงั้น ทิ้งไว้ให้ฉันยืนงงอยู่คนเดียว
“ฟู่ว์!” เสียงแอลฟ่าที่ดังออกมาพร้อมกับตัวเขาที่ค่อย ๆ คลานออกมาจากตู้เสื้อผ้าด้วยความโล่งใจยิ่งทำให้ฉันงงไปหมด
“แอล นายอยู่ในห้องนี้เหรอ แล้วเมื่อกี้ทำไม...”
“แอบอยู่ในกระเป๋าเดินทาง เกือบขาดอากาศตาย” แอลฟ่าลุกขึ้นแล้วก็บ่นออกมาด้วยความหงุดหงิดทันที แค่เพื่อไม่ให้ผู้ใหญ่จับได้ว่าเขากับฉันกำลังคบกันมันต้องลงทุนขนาดนี้เลยเหรอวะ?
“นายกลัวป้าดารู้เหรอว่าอยู่ที่นี่” ฉันถามเขาด้วยความรู้สึกที่โคตรหน่วง เจ็บกว่าการที่เขานอกใจคือการที่เขาไม่กล้ายอมรับกับผู้ใหญ่นี่แหละ
“กลัวสิ เฮ้อ! ขอบคุณนะมิลค์ที่ออกไปรับหน้าแทน” ยิ่งเห็นท่าทางโล่งใจของแอลฟ่ามากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น ตกลงเขาจะเอายังไงกับฉันกันแน่วะ จะเล่นตลกไปถึงไหน
“ทำไมเหรอแอลฟ่า ถ้าเจอหน้าแม่แล้วมันจะยังไง”
“มันก็จะซวย เฮ้ย! แม่!” แอลฟ่ากำลังจะตอบแต่แล้วเขาก็ต้องร้องออกมาเสียงหลง ฉันเองก็ตกใจไม่แพ้แอลฟ่า เสียงที่ถามเขาเมื่อกี้ไม่ใช่เสียงฉันแต่เป็นเสียงของป้าดาที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องแต่งตัวต่างหาก
“แกหลบฉันทำไมฮะ!” ป้าดาตะคอกแอลฟ่าทันทีที่เขารู้ตัวว่าโดนจับได้แล้ว
“แม่ครับ คือ มันไม่ใช่แบบที่แม่เข้าใจนะ” แอลฟ่าพูดตะกุกตะกักพยายามปฏิเสธทันที
“แล้วมันเป็นแบบไหน ไหนแกลองบอกแม่มาซิ!”
“คือ แอลกับมิลค์เรายังไม่ได้มีอะไรเกินเลยสักครั้งเลยนะแม่” แอลฟ่ารีบบอกป้าดาทันทีด้วยน้ำเสียงรนแต่ฉันนี่ยืนอึ้งหน้าถอดสีแล้ว ไม่เคยมีอะไรกันงั้นเหรอ? สาบานเลยค่ะถ้าตอนนี้ป้าดากับแม่ฉันไม่อยู่ที่นี่ฉันจะคว้าเอามีดมาสับหัวมันให้เละ
“แน่ใจ?”
“แน่ใจสิครับแม่ ไม่เชื่อถามมิลค์ดูก็ได้” แอลฟ่ารีบตอบทันทีโดยที่ไม่มีการหยุดคิดหรือประมวลคำตอบเลยสักนิด พร้อมทั้งโยนมาให้ฉันช่วยยืนยัน จิตใจสันดานไอ้บ้านี่ทำด้วยอะไรวะ
“จริงเหรอหนูมิลค์ พูดความจริงกับป้านะ” ป้าดาหันมาพูดกับฉันบ้าง แล้วจะให้ฉันตอบว่ายังไงดี ป้าดารู้ความจริงทั้งหมดแล้วแต่ท่านก็คงจะตามน้ำไปเพื่อดูความเลวของลูกชายตัวเองเท่านั้นแหละ
“เรา...มีอะไรกันแล้วค่ะป้าดา” ฉันตัดสินใจพูดหักหน้าแอลฟ่าซะ ในเมื่อเขาไม่อยากรับผิดชอบไม่กล้ายอมรับความจริงฉันก็จะหักหลังเขาบ้าง แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ฉันคงไม่เอาเขากลับเข้ามาในชีวิตอีกต่อไป
“เฮ้ย! มิลค์! พูดทำไม!” แอลฟ่าหันมาพูดกับฉันด้วยเสียงตกใจ แต่ฉันเลือกที่จะเบือนหน้าหนีเขาแทน
“ไอ้แอลฟ่า! กล้าโกหกแม่แล้วยังไม่ยอมรับอีกใช่ไหม!” ป้าดาตะคอกแอลฟ่าด้วยความโมโหก่อนที่จะเดินไปใช้เท้าถีบที่ลำตัวแอลฟ่าเต็มแรงจนเขาล้มลงไปกองที่พื้น
“โอ้ยแม่ แอลเจ็บ อ่าส์~” แอลฟ่ายันตัวขึ้นมาพร้อมกับบ่นเบา ๆ
“เจ็บสิดี ฉันเคยสอนให้แกไร้ความรับผิดชอบให้ผู้หญิงออกรับแทนเหรอฮะ!” ป้าดาด่าแล้วก็ตรงเข้าไปใช้เท้าทั้งถีบทั้งเตะแอลฟ่าซ้ำ ๆ ไม่มีออมแรงเลยสักครั้งเดียว
“ครับ” แอลฟ่าแค่มองหน้าฉันที่นั่งเงียบแล้วก็หันไปคุยกับป้าดา
“แม่บอกแล้วว่าถ้าแอลรักหนูมิลค์จริงก็อย่าทำร้ายหรือล่วงเกินหนูมิลค์” ป้าดาพูดประโยคนี้ขึ้นทำให้ฉันมองหน้าแอลฟ่ากับป้าดาด้วยความงงปนสงสัย อย่าบอกนะว่าป้าดารู้เรื่องที่พวกเราเคยคบกัน
“ผมพยายามแล้วครับแม่ แต่ผม เฮ้อ! โอเคครับผมผิดสัญญา แต่แม่ไอ้ที่ตกลงกันไว้ยกเลิกไม่ได้เหรอ”
“ไม่” ป้าดาพูดขึ้นทำให้แอลฟ่าถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด ฉันที่นั่งเงียบก็ทำได้แค่หันไปมองเขาด้วยความสงสัยว่าเขากับป้าดาคุยอะไรกัน
“คืออะไร?” ฉันถามแอลฟ่าเบา ๆ
“แอลฟ่าเคยสารภาพกับป้าว่าชอบหนูตั้งแต่อยู่ม. 6 จ้ะ ป้าเลยตกลงกับแอลฟ่าว่าห้ามทำเลวกับหนูไม่งั้นป้าจะลงโทษด้วยการให้แอลฟ่าไปอยู่อเมริกา 2 ปี”
พอป้าดาพูดจบฉันก็หันไปมองหน้าแอลฟ่าด้วยความอึ้ง นี่เขาบอกป้าดาแบบนั้นตั้งแต่อยู่ ม. 6 เนี่ยนะ ไอ้บ้าเอ้ยแก่แดดเป็นบ้าเลย -///-
แต่พอคิดถึงเรื่องข้อตกลง บางคนอาจจะมองว่าข้อตกลงมันโคตรจะปัญญาอ่อนไม่ได้ดูร้ายแรงอะไรเลยแต่สำหรับฉันที่รู้จักป้าดามานาน ตั้งแต่จำความได้เลยด้วยซ้ำฉันว่ามันน่ากลัวค่ะ ป้าดาทำจริงแน่ แล้วสิ่งที่น่ากลัวสำหรับฉันกับเขาตอนนี้คือการที่ต้องอยู่ห่างกันไกลขนาดนั้นถึง 2 ปี ทำไมเขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับฉันเลย
“แต่ไม่ต้องห่วงนะลูกรัก แม่จะให้แอลของแม่ไปอยู่หลังเรียนจบ ไปจ้ะพิม” ป้าดาพูดแล้วก็จูงมือแม่ฉันออกไปจากห้อง ทิ้งไว้แค่แอลฟ่าที่นั่งหน้าเครียดอยู่ตรงหน้า
“ทำไมไม่บอกกันก่อน” ฉันหันไปถามแอลฟ่าด้วยความอึ้ง ถ้ารู้ว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ฉันจะไม่บอกป้าดาเลย แต่ก็เพราะเขานั่นแหละที่แสดงท่าทางให้ฉันคิดไปไกลเอง
“ไม่ต้องพูดเลย โทษเธอนั่นแหละ เมียไรวะไม่เชื่อฟังผัว แม่ง”
"อะไร มันความผิดนายรึเปล่าที่ไม่บอกฉันให้เคลียร์" ฉันแหวใส่เขากลับ ตัวเองไม่พูดเองดันมาโยนให้เป็นความผิดฉันเฉยเลย
"ไม่ต้องพูด ยังไงก็ความผิดเธอที่ไม่เชื่อฟังผัว คืนนี้เตรียมตัวโดนลงโทษได้เลยมิลาน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว!