ตามหลักจรรยาบรรณของวิชาชีพ เธอไม่มีทางบอกข้อมูลกับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน
“บ้าเอ๊ย ฉันอุตส่าห์ไว้หน้าแกแล้วนะ !”
ชายรูปร่างกำยำคนหนึ่งพูดขึ้น และกำลังจะยกมือขึ้นตบหน้าเจ้าหน้าที่ต้อนรับ แต่ท่านตาวเข้ามาขวางเขาเอาไว้ เขาโน้มตัวลงมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม : “น้องสาว ฉันเป็นญาติของผู้หญิงคนนี้ บอกฉันหน่อยสิว่าเธออยู่ที่ไหน ฉันจะให้เงินเธอสักพันหนึ่ง”
หนึ่งพัน
ดูเหมือนเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่หาเชากินค่ำ เขาไม่เชื่อว่าหญิงสาวคนนี้จะไม่สนใจ
แต่ความจริงเป็นสิ่งที่บอกเขาว่า บนโลกใบนี้ยังมีคนที่ใช้เงินซื้อไม่ได้อยู่ ถึงแม้จะเป็นเพราะจำนวนเงินไม่มากพอก็ตาม ท่านตาวก็ไม่ยินดีที่จะต่อรองอีกต่อไป
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะพาเธอออกไปเร่ขายซะ”
“ฉันชื่อท่านตาว เธอทำงานที่นี่ก็คงจะเคยได้ยินชื่อเสียงของฉันมาบ้าง ขอเพียงแค่ฉันเอ่ยปาก ฉันเชื่อว่าเจ้านายของเธอไม่กล้าปกป้องเธออย่างแน่นอน !”
ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็รู้สึกตกใจไม่น้อย เมื่อคิดที่จะเดินหลบหลีกออกไป ก็ถูกลูกสมุนของท่านตาวขวางเอาไว้
“อย่าคิดจะหนีไปไหนทั้งนั้น ใครเคยเห็นผู้หญิงในรูปนี้บ้าง รีบตอบมาเร็ว ๆ เข้า ไม่อย่างนั้นล่ะก็ หึหึ”
กลุ่มอันธพาลที่น่ากลัว
ถึงแม้จะใช้วิธีการที่หยาบคายก็ได้ผลเป็นอย่างดี
“ฉัน ฉันเคยเห็น ดูเหมือนพวกเขาจะขึ้นไปที่ชั้น 25”
ชายรูปร่างท้วมคนหนึ่งยกมือขึ้น เขารู้สึกกลัวท่านตาว และไม่ต้องการเสียเวลางานด้วยเรื่องของผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักเพียงคนเดียว”
“อ่อ ?”
ท่านตาวหัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ในทันที
ฉินหวยจือเองก็เช่นเดียวกัน นี่ถือว่าได้เบาะแสของฉินปิงหลันแล้ว
“ไปกันเถอะ ไปลากตัวผู้หญิงคนนั้นออกมาให้ฉัน !”
ท่านตาวตะโกนเสียงดัง คนกลุ่มใหญ่เตรียมตัวที่จะขึ้นไปชั้นบน แต่เมื่อถึงประตูลิฟต์ กลับพบว่ามีคนหลายคนยืนขวางเอาไว้อยู่
“บ้าเอ๊ย สุนัขที่ดีจะไม่ขวางทาง ไม่รู้ถึงเหตุผลข้อนี้หรืออย่างไร ?”
ฉินหวยจือก่นด่าออกมาก่อน
แต่วินาทีออกมา กลับถูกคนของอีกฝ่ายเตะเข้าที่หัวเข่า จนทำให้เขาโซเซล้มลงไปบนพื้น
ถูกเตะเข้าไปเต็มแรง
ท่านตาวถูกฉินหวยจือเข้ามาขวางสายตาเอาไว้ เขาจึงมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นทางนั้นกันแน่ ขณะที่กำลังจะตะโกนด่าออกไป เขาก็สบตาเข้ากับเซียวเทียนหู่
“หัว หัวหน้าเซียว !”
ท่านตาวอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกไปพักใหญ่
เซียวเทียนหู่ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาทีละก้าว ๆ แล้วมองท่านตาวด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นจึงเอ่ยถามว่า : “เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ ?”
“เปล่าครับ เมื่อกี้ผมกำลังจะด่าไอ้หมอนี่ว่าไม่รู้ดูตาม้าตาเรือ ที่กล้าเข้ามาขวางทางของหัวหน้าเซียว”
เขามีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างมากในทันที
ฉินหวยจือที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นรู้สึกตกตะลึง นี่มันเรื่องอะไรกันนี่ ทำไมจู่ ๆ ถึงตัดสัมพันธ์กันง่ายดายเช่นนี้ !
แต่เขาไม่ใช่คนโง่ และดูเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที
“หัวหน้าเซียว อีกทั้งยังเป็นที่ท่านตาวเกรงกลัวอีก คงต้องไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซียวเทียนหู่แห่งกลุ่มเสือฟ้าอย่างแน่นอน !”
“ฟิ้ว !”
ตอนนี้ฉินหวยจือรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
อยู่ดีไม่ว่าดี ทำไมต้องมาพบเข้ากับเซียวเทียนหู่ด้วยนะ
เขาคิดจะใช้ชื่อของหลี่เจ๋อมาเป็นข้ออ้างเพื่อข่มขู่เซียวเทียนหู่
ถึงแม้หลี่เจ๋อจะอายุยังน้อย แต่อย่างไรเสียก็เป็นคนของตระกูลหลี่ อย่างน้องเซียวเทียนหู่ก็คงจะไว้หน้าบ้าง
แต่ทว่า !
“ฉันไม่สนใจคุณชายหลี่เจ๋ออะไรนั่นหรอกนะ เมื่อกี้ฉันบอกแล้วว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เมืองฉือจะต้องเต็มไปด้วยคุณธรรม ใครกล้าใช้วิธีการที่สกปรก ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน !”
“ตอนนี้ฉันจะให้ทางเลือกกับแกสองทาง ทางแรกแกเอาชนะฉันให้ได้ จากนั้นก็ขึ้นไปข้างบน ทางที่สองแกยอมกลับไปแต่โดยดีซะ ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ !”
เสียงของเซียวเทียนหู่ดังกังวาน สะเทือนเข้าไปในหูของท่านตาว
“ผม ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
“ไสหัวไป !”
“ครับ ครับ ครับ !”
ท่านตาวไม่กล้าขัดขืน คนอีกเกือบหกสิบคนที่ตามมาด้วย ก็พากันกลับออกไปจนหมด
ลูกสมุนของกลุ่มเสือฟ้าคนหนึ่งเลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดเบา ๆ ว่า : “หัวหน้า ไม่สิ ประธานเซียว พวกของท่านตาวเป็นคนของตระกูลหลี่ ตอนนี้ตระกูลหลี่มีอำนาจยิ่งใหญ่ พวกเราเองก็ควรให้ความเกรงใจบ้างนะครับ”
“เหอะ ๆ ตระกูลหลี่มีอำนาจมากก็จริง แต่แกอย่าลืมสิว่าในตอนนั้นผู้หญิงคนนั้นเพียงคนเดียว ก็สามารถจัดการกับพวกเรากว่าร้อยคนได้ ฝีมือแบบนั้นไม่ใช่ธรรมดา”
เซียวเทียนหู่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ก็รู้สึกตัวมาจนถึงกระทั่งบัดนี้
ตอนนั้นหงส์แดงพาวังจ่างหลินมา เพื่อท้าสู้กับกลุ่มเสือฟ้า ตอนนั้นยอดฝีมือกว่าร้อยคนของกลุ่มเสือฟ้ากรูกันเข้าไปต่อสู้ แต่ท้ายที่สุดกลับถูกหงส์แดงจัดการจนราบคาบภายในระยะเวลาเพียงสองนาที การต่อสู้ในครั้งนั้นช่างน่ากลัวไม่น้อย
“ท่านหงส์แดงผู้นั้นเคยพูดเอาไว้ว่า เธอถนัดงานที่จะต้องใช้สติปัญญา ส่วนเรื่องการต่อสู้ท่านมังกรเขียวนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเธอ ส่วนเถ้าแก่ ถึงแม้ไม่รู้ว่าฝีมือยอดเยี่ยมหรือไม่ แต่ถ้าหากสามารถควบคุมคนที่แข็งแกร่งเหล่านี้เอาไว้ได้ แสดงว่าเถ้าแก่เองก็ต้องมีไพ่ไม่ตายของตัวเองอยู่
“ที่สำคัญที่สุดก็คือ เถ้าแก่สามารถนำเงินหนึ่งล้านล้านออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย วิธีการเช่นนี้ต่อให้เป็นตระกูลมังกรแห่งเมืองเอก หรือแม้แต่ตระกูลกวนเอง ก็ยังยากที่จะทำได้ ดังนั้นเมื่อนำเรื่องที่น่ากลัวเหล่านี้เข้ามาผูกโยงเข้าด้วยกัน แสดงให้เห็นว่าเถ้าแก่เป็นบุคคลที่น่ากลัวอย่างยิ่ง”
“อันที่จริงแล้วเขาสามารถใช้กำลังควบคุมกลุ่มอำนาจใต้ดินในเมืองฉือให้อยู่ในมือของเขาได้อย่างง่ายดาย แต่เขากลับไม่ทำเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ได้ แต่เขาไม่คิดที่จะทำ ฉันพูดขนาดนี้แล้ว แกพอจะเข้าใจความหมายในสิ่งที่ฉันพูดไหม ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ