"คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร?"
คำพูดของเฉินอีทำให้ฉินปิงหลันตกใจ
เธออยากเชื่อ แต่ว่าไม่กล้าเชื่อ
เพราะถึงอย่างไรคำพูดแบบนี้ไม่สามารถพูดเรื่อยเปื่อยได้ ถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจนนั่นเท่ากับใส่ร้าย ถึงเวลานี้ไม่เพียงแต่ตนตกที่นั่งลำบากแม้แต่พ่อกับแม่และน้องชายก็เดือดร้อนไปด้วย
ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะแย่แค่ไหน เธอก็ไม่อยากจะเป็นลูกสาวอกตัญญู
เฉินอีอ่านความคิดของฉินปิงหลันออก อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
สุดท้ายผู้หญิงคนนี้ก็ใจดีเกินไป
ถึงแม้จะเป็นข้อดี แต่ก็ง่ายที่จะกลายเป็นข้อเสีย เพราะถึงอย่างไรตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้คนตระกูลฉินทำเรื่องสกปรกไม่น้อย แต่ผลสุดท้ายกลับโยนความผิดทั้งหมดไปให้ฉินปิงหลัน
"ผมจะเอาหลักฐานมาให้ แต่รอก่อน พวกเราเข้าไปแล้วดูก่อนว่าพวกคุณย่าเขาจะพูดยังไงบ้าง"
เฉินอีพูดขึ้น หลังจากนั้นก็หันไปคุยกับมังกรเขียวและมังกรหนึ่ง:"พวกนายไปเอารายงานบัญชีของฉินซื่อกรุ๊ปมา ฉันต้องใช้"
มังกรหนึ่งเดินออกไป มังกรเขียวยังคงอยู่ต่อ
คนในบ้านตระกูลฉินยังไม่หยุด แน่นอนว่านำโดยฉินหวยจือ ฉินโร่ซีและพ่อแม่ของพวกเขา ร่วมกับครอบครัวสี่ของตระกูลฉิน
สำหรับสีหน้าของซินต้าไห่พ่อของฉินปิงหลัน รวมถึงแม่หลินหลัน และน้องชายฉินปิงซินนั้นเคร่งขรึมอย่างมาก
คนพวกนี้เริ่มทำลายคนในครอบครัวของตนเองแล้ว !
"สมควรตาย ฉินหวยจือคนนี้จิตใจเหี้ยมโหดจริงๆ ตอนนั้นเขาก่อเรื่องจนต้องติดคุกติดตะราง ไม่ใช่คุณที่เป็นลุงของเขาเหรอที่ช่วยเขาออกมา สุดท้ายตอนนี้เพื่อเงินและอำนาจกลับเริ่มทำลาย ฉินต้าไห่ นี่คือหลานชายคนดีของคุณ!”
หลินหลันอดไม่ได้ที่จะด่าทอ
เธอทนสามีคนนี้ของตนไม่ได้จริงๆ ไม่ได้เรื่องที่สุด
ฉินต้าไห่เงียบ
เขาอายุแค่ห้าสิบกว่าปี แต่กลับต้องถือไม้เท้า ทั้งหมดเป็นเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ในตอนนั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุในตอนนั้น ตอนนี้เขาคงเป็นประธานบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไปแล้ว ต้องรู้ว่าฉินซื่อกรุ๊ปอยู่ในมือของท่านปู่ แต่คนที่ริเริ่มก่อตั้งขึ้นมากลับเป็นเขาและลูกสาวฉินปิงหลัน
ธุรกิจตระกูลฉินที่ยิ่งใหญ่ สุดท้ายกลับต้องตกอยู่ในมือคนอื่น ถึงแม้ฉินต้าไห่ไม่คิดจะแย่งตั้งนานแล้ว แต่ว่ายังคงรู้สึกผิดหวัง
"พ่อครับ พ่อช่วยเกลี้ยกล่อมพี่สาวหน่อยสิ ขอแค่พี่ยอมไปนอนกับคุณชายหลี่เจ๋อหนึ่งคืน ครอบครัวของเราต้องดีขึ้นแน่นอน"
ฉินปิงซินเริ่มกระพือลมให้เรื่องใหญ่ขึ้น
ฉินต้าไห่ขมวดคิ้ว ตำหนิ:"เมื่อวานท่านย่าพูด พ่อเองก็พูดแทรกไม่ได้ แต่ปิงหลันเป็นพี่สาวของแก แกอยากจะให้พี่สาวเสื่อมเสียชื่อเสียงจริงๆเหรอ"
สิ่งนี้ไม่แตกต่างกับโสเภณีด้านนอก
ผู้หญิงพวกนั้นไม่สนใจความบริสุทธิ์ อีกทั้งพวกเขาก็เกิดในครอบครัวธรรมดาไม่มีใครสนใจ
แต่ฉินปิงหลันไม่เหมือนกับผู้หญิงพวกนั้น เธอเป็นคนที่มีชื่อเสียงในเมืองฉือ ถ้าเกิดเรื่องอื้อฉาวนี้ขึ้น ร่วมกับเรื่องเมื่อเจ็ดปีก่อน ต้องทำให้ชีวิตของฉินปิงหลันดิ่งลงไปในเหวที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
"ได้แต่หวังว่าเฉินอีคนนั้นจะดีกับปิงหลันหน่อย บางทีเขาถึงจะเป็นคนที่สามารถคลายปมในใจให้ปิงหลันได้"
ประโยคนี้ ฉินต้าไห่พูดจากใจ
ว่ากันว่าสัญชาตญาณของผู้หญิงแม่นมาก แต่ในฐานะที่ฉินต้าไห่เคยเป็นคนมีฝีมือในแวดวงธุรกิจ เขามองคนไม่ผิดแน่นอน ผู้ชายที่กลับไปกับปิงหลันเมื่อวานเป็นผู้ชายที่สามารถฝากชีวิตไว้ได้
แต่ว่า!
"พวกเขามาแล้ว!”
เดิมทีฉินปิงซินอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าหลินหลันกลับพูดแทรกเขาขึ้นมา
พวกเขาหันไปมอง เห็นฉินปิงหลันและเฉินอีเดินเข้ามา สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเฉินต้าไห่สั่นเทา
"ไอ้หมอนี่ พาปิงหลันกลับมาได้ยังไง?"
ตอนนี้เขาอยากให้ชีวิตของปิงหลันดีหน่อย สำหรับคำด่าทอของตระกูลฉินเขาจะแบกรับเอาไว้เอง แต่การกระทำของเฉินอีทำให้เขารู้สึกว่าตนมองคนผิดไป
"อย่าบอกนะว่าไอ้หมอนี่ตกใจ ก็เลยตัดสินใจขายปิงหลัน"
นึกถึงคำเตือนทั่วเมืองของเซียวเทียนหู่ บางทีเฉินอีคนนี้อาจจะหมดความอดทนก็เลยทำเรื่องแบบนี้!
บัดซบ น่ารังเกียจ!
ทุกคนในเหตุการณ์ต่างเข้าใจชัดเจน แต่ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้
"ฉินปิงหลัน ทำไมเมื่อวานเธอถึงไม่ทำตามคำสั่งของพวกฉัน?"
ฉินหวยจือปกป้องลูกพี่ลูกน้องจากการจู่โจมของเฉินอี แล้วพุ่งเป้าไปที่ฉินปิงหลัน
ฉินปิงหลันสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่
อาจจะเป็นเพราะมีเฉินอีอยู่ข้างๆ ทำให้เธอมีความกล้ามากขึ้นไม่น้อย พูดเสียงเรียบ:"พวกนายมีภารกิจอะไรที่ต้องการให้ฉันทำ พูดมาได้เลย แต่อย่าเอาเรื่องชั้นต่ำแบบนี้มายุ่งกับฉัน!"
วันนี้น้ำเสียงของเธอแข็งขึ้นไม่น้อย
ฉินหวยจือมองเฉินอีครู่หนึ่ง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยืกอเย้น
"แม้แต่อันธพาลก็ยังเอามาควงได้ แล้วทำไมคุณชายหลี่เจ๋อถึงไม่ได้? หรือว่าเทียบกับคนชั้นต่ำอย่างไอ้สารเลวนี่แล้ว เธอรู้สึกว่าคุณชายหลี่เจ๋อไม่คู่ควรกับเธอ?"
"ฉินปิงหลัน ก่อนจะพูดอะไรช่วยคิดหน่อย อย่าพูดเรื่อยเปื่อย!”
เขาบีบบังคับเรื่อยๆ
ฉินโร่ซีเองก็ตอกกลับ ช่วยกันโจมตีฉินปิงหลัน
"พี่ปิงหลัน ครั้งนี้ทำเพื่อตระกูลฉิน อีกทั้งคุณชายหลี่เจ๋อก็พูดแล้ว ขอแค่พี่ยอมเขา ผลประโยชน์ที่คุยกันเอาไว้ในตอนแรกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า"
"อย่างน้อยพี่ก็เคยเป็นอดีตCEOของบริษัท พี่น่าจะรู้ดีว่าการร่วมงานในครั้งนี้ผลประโยชน์เพิ่มขึ้นสองเท่า สำหรับตระกูลฉินแล้วมีความหมายแค่ไหน?"
"สิ่งนี้เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลฉินกลายเป็นหนึ่งในตระกูลระดับที่หนึ่งของเมืองฉือ ถึงเวลาพี่กับพ่อแม่ และน้องชายก็จะได้ใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทอง มีอะไรที่ทำไม่ได้ด้วยคะ?"
เธอพูดทุกคำด้วยความตั้งใจ
เอาครอบครัวของฉินปิงหลันเข้ามาข้องเกี่ยว ขอแค่เธอไม่ยอมตกลง เธอก็จะกลายเป็นลูกอกตัญญู
"คนสารเลว!”
คนที่พูดคือเฉินอี เขามองฉินโร่ซีด้วยแววตาเยือกเย็น
ผู้หญิงคนนี้ สมควรตาย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ