"ไอ้สวะ อีกอย่างฉันยังไม่ได้ว่านาย"
เฉินอีกวาดมองไปหนึ่งรอบ สามสิบคนทั้งหมดสะท้อนในม่านตาของเขา "พวกนายเป็นไอ้สวะทั้งหมด"
"ไม่ใช่ฉันชื่นชมตัวเอง ต่อให้พวกนายทั้งสามสิบคนมาพร้อมกัน พวกนายไม่มีทางเอาชนะคนของพวกเราได้หรอก"
"......."
ทุกคนกลืนน้ำลายอย่างรุนแรง แล้วมองเฉินอีด้วยความโมโห
หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของวังซื่อกรุ๊ปเดินออกมาก้าวใหญ่ แล้วมองเฉินอีเพียงชั่วพริบตา และทำท่ามวยหวิงชุนออกมา
"ฉันมาประลองกับคุณหน่อย ดูว่าแกที่พูดจาโอ้อวดนั้นเก่งแค่ไหนกันเชียว"
"ฮ่าๆ น่าสนใจ"
เฉินอียกมุมปากขึ้นซึ่งดูจะคาดไม่ถึงเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเขาจะดูถูกเหยียดหยาม
เขาเดินเข้าไปใกล้ทีละก้าว ด้วยความเร็วที่ค่อนข้างช้า หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปชกไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง
"ให้ตายเถอะ หัวหน้าเตรียมจู่โจมด้วยแรงทั้งหมด มันจะหนักเกินไปหรือเปล่า"
"หึหึ อีกฝ่ายดูถูกเรา เลยให้สีหน้าดูถูกเขาบ้างก็ได้"
"แต่ยังไงก็คือแขกผู้มีเกียรติที่ประธานวังส่งมา ถ้าเกิดเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาเราก็คงรับผิดชอบไม่ไหว"
คำพูดสุดท้ายทำให้เป็นจุดสนใจของทุกคน พวกเขาก็อยากรั้งหัวหน้าของตัวเองไว้ ทว่าคนด้านหลังว่องไวเกินไป จึงไม่ทันได้ขัดขวาง
"ปึง!"
"เพี๊ยะ!"
เสียงพุ่งชนเหล็กดังขึ้นก่อน จากนั้นก็มีเสียงตบดังสนั่นขึ้น
โดนตบอีกแล้ว!
ทั้งตัวของหัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปราวกับว่าวที่ขาดจากสายจนร่วงหล่นกลับไป
"พู่ว!"
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปกระอักเลือดออกมา
"หัวหน้า!"
"พี่ใหญ่!"
"ฉันแม่งจะสู้กับแก!"
ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าหัวหน้าคนนี้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีมาก พนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มนั้นมุ่งหน้าสู้กับเฉินอี
"หยุดเดี๋ยวนี้!"
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปตะโกนให้ลูกน้องไม่กี่คนของเขา แล้วลุกขึ้นเดินไปที่เฉินอี พร้อมพูดด้วยความเคารพ "ขอบคุณคุณเฉินแล้ว"
"หัวหน้า หัวหน้าบ้าไปแล้วเหรอ?" ลูกน้องตกใจ
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปส่ายหัวเล็กน้อย ชี้หยดเลือดที่อยู่บนพื้น แล้วพูดว่า "หลายปีมานี้ร่างกายของผมมีแผลเก่าอยู่ไม่น้อย ยิ่งกว่านั้นก็คือมีเลือดคั่งที่ไม่สามารถระบายออกมาได้ ท่านเฉินอีเป็นคนช่วยฉัน"
"ฉันในตอนนี้ กลับสู่สภาพสุดยอด"
"ซือๆๆ!"
ลูกน้อยกลุ่มหนึ่ง แม้กระทั่งกลุ่มเสือฟ้าก็ยังทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป
หมัดเมื่อกี้ของหัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ออมแรงเลยสักนิด ต่อให้พวกเขาต่อสู้พร้อมกันก็ไม่สามารถรับมือได้ สุดท้ายไม่ใช่ว่ายังคงเป็นฝ่ายตรงข้ามที่มีกำลังสุดยอดหรอกเหรอ?
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปก็รู้สึกสะดุ้งตกใจอย่างมาก
สถานฝึกอบรมของที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เรียบง่ายมาก ทว่าทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้เห็นและได้ยินมาก่อน
นอกจากทหารรับจ้างไม่กี่คนที่มีภูมิหลังที่ดี
"นี่ หรือว่านี่จะเป็นสนามฝึกระดับราชาแห่งทหาร!"
พวกเขาต่างก็ร้องอย่างตกตะลึง ทำให้เป็นคนสนใจของคนอื่น
"เจ้าดำ เจ้าเหลือง พวกนายรีบพูดมาเร็ว!"
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปก็ถูกดึงดูดเหมือนกัน
เจ้าดำสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดด้วยความจริงจัง "พวกนายก็รู้ ที่ผ่านมาฉันคือทหารรับจ้างที่เขตแดนหยวนตง อีกอย่างโรงเรียนฝึกมหาทหารนานาชาติหยวนตง พวกนายน่าจะเคยได้ยินมาก่อน"
"เคยได้ยิน เหมือนลุ่มแม่น้ำอเมซอนจะมีชื่อเสียงกว่าโรงเรียนฝึกมหาทหาร แต่คนที่เข้าไปล้วนเป็นนักรบยอดฝีมือที่มีพลังการรบเดี่ยว หลังจากออกมาแล้วก็ยิ่งมีความสามารถเป็นปรมาจารย์"
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปเห็นได้ชัดว่าเคยเจออะไรมามาก
เจ้าดำส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น "ที่นายพูดนั้นเว่อร์เกินไปหน่อย แต่ก็ถูกต้องมาก เพราะว่าคนที่สามารถเข้าไปได้ล้วนเป็นปรมาจารย์ที่คัดมาจากหนึ่งในร้อย และหลังจากออกมาก็ยิ่งมีความสามารถที่แข็งแกร่งจนคาดคิดไม่ถึง เพียงคนเดียวก็สามารถเทียบได้กับกำลังของกองกำลังพิเศษหนึ่งหน่วยแล้ว"
"ไม่ใช่หรอกมั้ง"
มีคนถึงกับอึ้งไปเลย
เดิมทีนักรบกองกำลังพิเศษก็เป็นชนชั้นนำอยู่แล้ว และคนที่ออกมาจากโรงเรียนฝึกมหาทหารหยวนตงเพียงคนเดียวก็สามารถเทียบได้กับกำลังของนักรบกองกำลังพิเศษสิบนายงั้นเหรอ?!
เจ้าดำไม่ได้ปฏิเสธ กลับพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"ทหารรับจ้างที่หวังเป็นอย่างเป็นมากว่าจะได้เข้าไปในสถานที่แห่งนั้น แค่สามารถเข้าไปและสามารถรอดชีวิตออกมา ก็เพียงพอที่จะกลายเป็นราชาแห่งทหารที่มีพลังการรบเดี่ยวชั้นหนึ่งแล้ว!"
"และที่สำคัญที่สุดคือ รุ่นอาวุโสที่เคยฝึกจากโรงเรียนฝึกมหาทหารนานาชาติหยวนตงบอกฉันว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในนั้น สามส่วนในนั้นเหมือนที่นี่เด๊ะๆ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ