“ลั่วต้าเจียง!”
เห็นได้ชัดว่าหลันหลันกังวลแล้ว
เธอมองออกว่าเพื่อนร่วมงานรอบๆตัวก็มองมาด้วยสายตาที่แปลกๆ นี่จะให้เธอทำงานดีๆในอนาคตได้อย่างไร
“ฉันขอย้ำเป็นครั้งสุดท้ายว่า ฉันไม่ใช่แฟนของนาย ยิ่งไปกว่านั้นงานของฉันเป็นเรื่องของตัวฉันเอง ที่สำคัญคือฉันรักงานนี้ ไม่ใช่ว่านายบอกว่าออกก่อนเวลาได้ก็ออกก่อนเวลา!”
เธอพูดจบในรวดเดียว ต่อจากนั้นมองไปทางเฉินอีกับมังกรเขียว และกล่าวอย่างขอโทษว่า: “คุณผู้ชายทั้งสองท่าน พวกเราลงทะเบียนข้อมูลกันต่อเถอะค่ะ”
เฉินอีพยักหน้าเล็กน้อย ค่อนข้างเห็นดีเห็นงามต่อผู้หญิงคนนี้
เป็นผู้หญิงที่มีหลักการมาก
“ฉันขอย้ำอีกครั้งว่า เป็นคุณเฉินอีกับคุณมังกรเขียว พวกคุณต้องการนัดหมายพบอธิบดีหลัน ถูกใช่ค่ะ?”
“ครับ”
เฉินอีพยักหน้าเล็กน้อย ตอนที่หลันหลันจะพูดต่อไป ชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองคนนั้นก็คือลั่วต้าเจียงก้าวไปข้างหน้า และแสยะยิ้มอย่างไม่หยุดหย่อน
“หลันหลัน เธอทำงานได้ค่อยดีนะ ก็ไม่ตรวจสอบดูว่าคนพวกนี้เป็นใคร ก็ต้องการจัดการให้พวกเขาพบหน้ากับอธิบดีหลัน”
“คุณช่าว คุณคิดว่าไง?”
เขาเหลือบมองไปที่หญิงวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่าที่อยู่ไม่ไกล
คุณช่าวเป็นหัวหน้าของแผนกต้อนรับ ก็ย่อมรู้จักลั่วต้าเจียงเป็นธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นแตกต่างกับหลันหลัน ท่าทีที่เธอมีต่อลั่วต้าเจียงก็เคารพเป็นอย่างมาก
“หัวหน้าลั่วพูดได้ถูกต้อง ต้องการพบหน้าอธิบดีหลัน อย่างน้อยต้องผ่านหลายขั้นตอนเช่นการตรวจสอบข้อมูลประจำตัว ทั้งสองท่านไม่ทราบว่าพวกคุณทำงานหน่วยงานไหนคะ?”
คุณช่าวมองไปทางเฉินอีกับมังกรเขียว
แต่ทั้งหมดสามารถที่จะมีคุณสมบัติพบหลันเทียน โดยพื้นฐานก็ต้องมีฐานะอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในหน่วยงานของรัฐ
ชายหนุ่มตรงหน้าทั้งสองคนมองดูแล้วก็ไม่ใช่ผู้ที่ทำงานในหน่วยงานของรัฐแบบนั้น ดังนั้นเธอจึงถามอย่างไม่สนใจแม้แต่น้อย
“ฉันไม่ได้ทำงานหน่วยงานไหน แต่ฉันเป็นคนในเครือของวังซื่อกรุ๊ป ตอนนี้เป็นตัวแทนของประธานวังมาเจรจาเรื่องบางอย่างกับอธิบดีหลันเทียน”
เฉินอีก็ไม่ได้ทำให้คนพวกนี้ลำบากใจ ไม่ได้พูดคำพูดอะไรที่ว่าฉันไม่มีฐานะแต่ฉันต้องเข้าไป
เขามีสิทธิ์เป็นตัวแทนของวังซื่อกรุ๊ปมาเจรจาเรื่องเหล่านี้ได้จริงๆ
“วังซื่อกรุ๊ป?”
คุณช่าวนิ่งอึ้ง เห็นได้ชัดว่าเหนือขอบเขตงานที่เธอสามารถจัดการได้
ที่ผ่านมาเธอก็สามารถที่จะทำให้คนของวังซื่อกรุ๊ปลำบากใจ แต่ตอนนี้วังซื่อกรุ๊ปได้รับโครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมืองแล้ว ก็ย่อมมีพร้อมคุณสมบัติกับสิทธิ์ของการพูดคุยกับผู้บริหารกรมการก่อสร้าง
“หัวหน้าลั่ว พวกเขาเป็นคนของวังซื่อกรุ๊ป พวกเราก็อย่าทำให้ลำบากใจกันต่อไปอีกเลย”
หลังจากที่แน่ใจว่าเฉินอีกับมังกรเขียวเป็นพนักงานของวังซื่อกรุ๊ป คุณช่าวพูดประโยคหนึ่งด้วยเสียงที่ต่ำ
ลั่วต้าเจียงกลับแสยะยิ้ม
“ก็เพราะว่าเป็นวังซื่อกรุ๊ปถึงไม่สามารถเข้าไปได้ เมื่อกี้นี้พวกแกถูกร้องเรียน ไม่นึกเลยว่าจะขโมยภาพวาดการออกแบบของหลี่ซือกรุ๊ปดำเนินการสับเปลี่ยนกระเป๋า หัวหน้าลั่วคุณอาของฉันได้สั่งให้วังซื่อกรุ๊ประงับการโครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมืองแล้ว สำหรับจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ต้องรอแจ้งเตือนนะ”
เขาโบกมือ และพูดอย่างไม่แยแสมาก
ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ใช่คนของวังซื่อกรุ๊ป เขาอาจจะยังรู้สึกว่ามันยุ่งยากอยู่ แต่ตอนนี้ก็จัดการได้ง่ายมาก
“ระงับโครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมืองชั่วคราวเหรอ? ขโมยภาพวาดการออกแบบของหลี่ซือกรุ๊ป?”
เฉินอีเลิกคิ้ว
ปรมาจารย์ออกแบบท่านนั้นเป็นคนที่เฉินอีตั้งใจเชิญมาเสริมอานุภาพให้วังซื่อกรุ๊ป ก็คืออาศัยอำนาจร่างออกแบบของอีกฝ่ายกับเงินทุนหลายหมื่นล้านถึงสามารถได้โครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมืองทั้งหมดมา
หัวหน้าลั่วคนนั้นในฐานะกรรมการคนหนึ่งที่รับผิดชอบเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทราบไม่เรื่องนี้ ดังนั้นอีกฝ่ายจะต้องมีความคิดอื่นอย่างแน่นอน
“ตอนนี้ฉันก็จะพบอธิบดีหลัน”
เฉินอีพูดอย่างเยือกเย็น
สีหน้าของหลันหลันเปลี่ยนไป
เธอย่อมสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยชอบมาพากล แต่อีกฝ่ายไม่การนัดหมายก็ไม่สามารถพบคนระดับอย่างอธิบดีหลันได้
ไม่รอให้เธอเอ่ยปาก ลั่วต้าเจียงก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา
“ฮ่าๆๆๆ ฉันขำจะตายแล้ว แกแม่งปัญญาอ่อนหรือเปล่าว่ะ? เมื่อกี้นี้ฉันพูดแกฟังไม่เข้าใจเหรอ?”
“อธิบดีไม่ใช่ว่าแกอยากจะพบก็จะพบได้ ตอนนี้มีด่านอาของฉันนี้แกผ่านไปไม่ได้ ยังต้องการพบอธิบดีหลันฝันกลางวันชัดๆ!”
เขาพูดอย่างหยิ่งผยอง
ลั่วต้าเจียงก็ย่อมรู้ดีว่าเบื้องหลังนี้มีหลี่ซือกรุ๊ปแอบวางแผนอยู่
แต่เพียงแค่หลี่ซือกรุ๊ป ยังไม่สามารถทำให้คุณอาของตัวเองทำเรื่องราวที่มีความเสี่ยงอันตรายร้ายแรงทำลายอนาคตแบบนี้ได้ เพียงเพราะว่าเบื้องหลังนี้ยังมีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งเข้าร่วมอยู่ในนั้น หัวหน้าลั่วคุณอาของตัวเองถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ได้
ตราบใดที่มีผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้นช่วยเหลือปราบปรามเรื่องนี้ เรื่องที่จะต้องเป็นไปตามการพัฒนาของสถานการณ์คือโอนย้ายโครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมืองไปในมือของหลี่ซือกรุ๊ป เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้พวกเขายังจำเป็นต้องรีดไถเงินทุนหมุนเวียนนับหมื่นล้านของวังซื่อกรุ๊ป ตัวอย่างเช่นเป็นค่าชดเชยให้กับหลี่ซือกรุ๊ป
นี่เป็นเหตุผลใหญ่ที่สุดว่าทำไมจะต้องพูดว่าวังซื่อกรุ๊ปขโมยภาพวาดออกแบบของหลี่ซือกรุ๊ป เป้าหมายก็เพื่อเงินหลายหมื่นล้านกับทั้งโครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมือง สองอย่างนี้หลี่ซือกรุ๊ปกับคนเบื้องหลังของเขาก็ต้องการ!
ทำไมลั่วต้าเจียงถึงท่าทางได้ใจขนาดนี้ ประเด็นหลักคือที่ผ่านมาเขาต้องการร่วมลงทุนกับวังซื่อกรุ๊ป อีกฝ่ายกลับเพิกเฉยต่อเขามาโดยตลอด ไม่ให้โอกาสเขาได้ทำเงินด้วยซ้ำ เพราะเหตุนี้ลั่วต้าเจียงถึงได้แค้นเคืองใจ ต้องการอาศัยโอกาสดีๆนี้มาแก้แค้นวังซื่อกรุ๊ป
สำหรับสุนัขรับใช้สองตัวของวังซื่อกรุ๊ปที่อยู่ตรงหน้านี้อยากจะพบอธิบดีหลัน เรื่องตลก ตราบใดที่เขากับคุณอาของเขาปรามอยู่ ควบคู่กับเส้นสายความสัมพันธ์ของพวกเขา อย่างน้อยอธิบดีก็ไม่มีทางทราบเรื่องที่เกิดขึ้นภายในช่วงเวลาสั้นๆ แต่รอจนกว่าตอนที่รู้ก็สายเกินไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ