ศึกเดือด มหากาฬ นิยาย บท 76

ในมุมมองของฉินหวยจือ เขาคิดว่าฉินปิงหลันนั้นรู้เรื่องข่าวคราวนี้แต่ไม่ยอมพูดความจริงกับเขา

แต่กลับไม่อยากคิดว่าจริงๆแล้วฉินปิงหลันได้พูดเตือนเขาแล้วแต่เป็นเขาที่ไม่เชื่อในคำพูดของฉิงปิงหลันเอง

เป็นเรื่องธรรมดาของคนชั่ว

เขาต้องการคิดบัญชีกับฉินปิงหลัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นก็ผงะไปครู่หนึ่ง “คุณเป็นประธานของฉินซื่อกรุ๊ปงั้นเหรอ?”

ฉินหวยจือพยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่ได้มีความคิดที่จะตอบสนองอะไร ในขณะที่เขากำลังจะเดินไปหาฉินปิงหลัน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นก็รีบเข้าไปประจบสอพลอทันที

“ประธานฉิน ท่านน่าจะบอกเร็วกว่านี้หน่อย เชิญเชิญเชิญครับ!”

ท่าทางที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือของพนักงานรักษาความปลอดภัยทำเอาฉินหวยจือตกตะลึง ใบหน้าของเขาดูมีความสุขขึ้นในทันใด

“ไป”

เขาขี้เกียจเข้าไปพัวพันให้ยุ่งยาก ขอแค่ได้เข้าไปในวังซื่อกรุ๊ปก็โอเคแล้ว อย่างไรก็ตามทันทีที่เข้ามาในวังซื่อกรุ๊ปก็มีคนอื่นๆพากันตะโกนเสียงดัง “ยินดีต้อนรับการมาถึงของท่านประธานฉิน”

เสียงต้อนรับของสาวสวมกี่เพ้านั้นดังและสูงเป็นอย่างมาก น้ำเสียงนั้นทำให้กระดูกของฉินหวยจืออ่อนแรงไปทั้งตัว

“ดี ดี ดี”

เขาทำตัวเป็นหัวหน้ามองไปทุกสารทิศ รูปร่างท่าทางที่ดูหยิ่งยโสมากนัก

โดยเฉพาะตอนที่หันกลับมามองฉินปิงหลันที่ดูโดดเดี่ยวเดียวดายด้านหลัง มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อยแสดงการเหยียดหยาม

“ครั้งนี้ตำแหน่งประธานฉินซื่อกรุ๊ปเป็นฉันต่างหากล่ะ”

แม้ว่าฉินหวยจือจะไม่ได้ส่งเสียงออกไปแต่ฉินปิงหลันเข้าใจความหมายดี

เธออดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น เกิดความสงสัยขึ้นในใจ

ทำไมคนของวังซื่อกรุ๊ปถึงปฏิบัติกับฉินหวยจือเช่นนี้?

หรือว่าฉินหวยจือจะรู้จักกับแขกผู้มีเกียรติของวังซื่อกรุ๊ปงั้นเหรอ อาจจะเป็นวังจ่างหลินก็เป็นได้

เมื่อนึกถึงการโทรมาของวังจ่างหลินครั้งก่อน เธอก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยเล็กน้อยแต่กลับไม่กล้าถามอะไรออกมา

“เท่านั้นแหละ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีโชคชะตาเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสักเท่าไหร่”

เธอเดินจากไป

ฉินปิงหลันไม่ได้กลับไปที่ตึกจิ่งหลันแต่กลับไปหาที่ลับตาคนเพื่อนั่งอยู่เงียบๆคนเดียว

ในมุมมองของเธอ เธอคงถูกกำหนดมาให้อยู่คนเดียว ไม่มีใครจะมาสนใจสนับสนุนเธอ

แต่สิ่งที่ฉินปิงหลันไม่คาดคิดก็คือตอนนี้มีร่างร่างหนึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากนั้นก็ได้กดโทรศัพท์โทรออกไป

เฉินอีขับรถปอร์เช่เข้ามาช้าๆกับไป๋หงเพื่อมองดูร่างที่ดูโดดเดี่ยวของฉินปิงหลัน

“เกิดอะไรขึ้น?”

น้ำเสียงของเฉินอีดูเย็นชา

เขาอารมณ์เสียเล็กน้อยแล้ว

วังจ่างหลินทำอะไรกันแน่ ทำไมภรรยาของตนจึงมาอยู่ที่นี่ได้?

ไป๋หงเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ สีหน้าของเฉินอีมืดมนขึ้นเรื่อยๆ

“ฉินหวยจือ รนหาที่ตายจริงๆ”

เขาไม่ได้สนใจฉินหวยจือแต่กลับเดินตรงไปหาฉินปิงหลัน

“นายมาได้ยังไง?”

เมื่อฉินปิงหันเงยหน้าขึ้นมาเห็นเฉินอีก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

เฉินอีไม่ได้ตอบอะไร เขาดึงฉินปิงหลันขึ้นมา “ไป”

“ไปไหน?”

“ไปเจรจาคุยกับวังจ่างหลินไง”

คำพูดของเฉินอีนั้นกระทบบาดแผลของฉินปิงหลันอย่างไม่ต้องสงสัย เธอสะบัดเฉินอีออกพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “เฉินอี พอแล้ว”

“คนที่เขาต้อนรับกันไม่ใช่ฉันแต่เป็นฉินหวยจือต่างหาก ฉันเป็นแค่เรื่องตลกเรื่องหนึ่งเท่านั้น”

เฉินอีตกตะลึง

เขามองไปที่ฉินปิงหลันอย่างลึกซึ้ง

เขาได้เรียนรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับฉินปิงหลันตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาและแน่นอนว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีความกล้าหาญ

แต่ตอนนี้มันกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน?

“ปิงหลัน ฟังผมพูดนะ รายชื่อของวังจ่างหลินคือคุณ ไม่ใช่ฉินหวยจือ”

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น หล่อนเป็นคนที่เข้ามารับผิดชอบโครงการนี้หลังจากที่เหยียนเลว่นั้นออกไป ในขณะเดียวกันก็เป็นหัวหน้าและผู้อำนวยการฝ่ายก่อสร้างของเหยียนเลว่อีกด้วย

“สวัสดีค่ะท่าน ฉันชื่อเยว่ชูหลิง”

หญิงคนนั้นยื่นมือไปจับฉินหวยจือ

แม้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครถึงสามารถให้ประธานวังมาต้อนรับเป็นการส่วนตัวได้เช่นนี้แต่เยว่ชูหลิงก็ยังคงปฏิบัติตัวอย่างสุภาพนอบน้อม

“ผู้อำนวยการเยว่ สวัสดีครับสวัสดี”

แม่ว่าเขาจะเป็นประธานของฉินซื่อกรุ๊ปแต่ตำแหน่งของเขานั้นเทียบหล่อนไม่ติด

“ถ้าหากจีบคนนี้ติดก็คงจะดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องเตรียมตัวให้ดีๆก็เท่านั้น”

เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาจึงพูดต่อว่า “คือว่า ผู้อำนวยการเยว่ เรามาพูดกันถึงเรื่องโครงการเลยดีไหมครับ?”

เขาไม่ได้เอ่ยถึงการร่วมมือทำงาน ด้านหนึ่งก็เพื่อเป็นการเน้นย้ำความมั่นใจในตนเอง ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าเป้าหมายของเขานั้นไม่ได้เด่นชัดมากนัก

แต่เยว่ชูหลิงกลับส่ายหัวเล็กน้อย “ประธานวังกำลังจะมาแล้ว ฉันเพียงแต่มาต้อนรับพวกคุณก่อนก็เท่านั้นเองค่ะ”

“อะไรนะ?”

ในเวลานี้ ฉินหวยจือนั้นตกตะลึงไปหมด

ประธานวัง?

วังซื่อกรุ๊ปมีประธานวังแค่คนเดียว ซึ่งนั่นก็คือบอสใหญ่วังจ่างหลิน

เดิมทีเขาคิดว่าการได้มาพบกับเยว่ชูหลิงนั้นก็ถือว่าสูงส่งมากแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับคนใหญ่คนโตอย่างวังจ่างหลิน!

“นี่ นี่ นี่!”

อีกสามคนก็ต่างตื่นตระหนกตกใจไม่แพ้กัน

แต่ที่มากกว่าก็คือความรู้สึกที่เซอร์ไพรส์ต่างหาก

หากสามารถทำความรู้จักวังจ่างหลินผ่านโครงการในครั้งนี้ได้ล่ะก็ต่อให้จะไม่ได้กำไรจากโครงการนี้แต่ก็สามารถทำให้เหล่าบริษัทที่เคยดูถูกกลับมาเลียแข้งเลียขาตนได้

ฉินหวยจือตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ในตอนนี้เขามีความคิดนี้เพียงอย่างเดียว

ประจบสอพลอวังจ่างหลิน

เป็นการเตรียมการสำหรับการจีบเยว่ชูหลิงในอนาคต

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ