ศึกเดือด มหากาฬ นิยาย บท 78

ดวงตาของเยว่ชูหลิงส่อประกายแวววาว หล่อนมองลงไปที่เฉินอีอีกครั้ง

“ก็แค่คนที่ชอบหาผลประโยชน์ให้ตัวเองแถมยังเอามิตรภาพความสัมพันธ์มาบีบคั้นผู้อื่นอีก ช่างไร้ค่าเสียจริง แม้ว่ามันอาจจะเสี่ยงที่ต้องทำร้ายประธานวังแต่ฉันจะต้องเอาชายหนุ่มคนนี้ออกไปให้ได้”

หล่อนตัดสินใจอย่างลับๆ

แต่ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือเฉินอีนั้นไม่ได้ใช้มิตรภาพความสัมพันธ์มาขู่เข็ญวังจ่างหลินแต่เป็นวังจ่างหลินเองต่างหากที่คอยพยายามเอาใจเฉินอี

ขณะนี้ฉินปิงหลันเองก็ยังคงรู้สึกสับสนเล็กน้อย

ทุกๆสองถึงสามนาทีเธอจะหยิบสัญญาขึ้นมาเพื่อดูตราประทับเป็นเวลากว่ายี่สิบวินาทีก่อนจะวางมันลงไป

“นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่?”

เมื่อเฉินอีเห็นพฤติกรรมของฉินปิงหลันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

ฉินปิงหลันรีบพูดออกไปว่า “นายไม่รู้สึกเหรอว่าเรื่องนี้มันดูเพ้อฝันมากเลยนะ?”

“แม้ว่าประธานวังจะเห็นด้วยกับแผนงานของฉันแต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องมาต้อนรับเป็นการส่วนตัวเลยนี่ ต่อให้มาต้อนรับก็ไม่ควรที่จะต้องรับอย่างเกรงใจดูสุภาพมีมารยาทขนาดนี้”

“ไม่ใช่ ท่าทางแบบนั้นไม่ใช่เกรงใจหรอก มันคือการนอบน้อมต่างหากล่ะ”

เมื่อนึกถึงท่าทางของวังจ่างหลิน ฉินปิงหลันก็รู้สึกเหลือเชื่ออย่างบอกไม่ถูก

เฉินอียิ้มออกมา “อาจจะเป็นเพราะประธานวังหวงแหนคนมีความสามารถ ดังนั้นเขาถึงพอใจในตัวเธอยังไงล่ะ เหมือนคำกล่าวที่ว่าคนตำแหน่งสูงเคารพในตัวของคนมีพรสวรรค์ ประธานวังคนนี้เอาใจเธออยู่นะ”

“แต่ฉันก็ไม่ได้ทำงานให้เขานะ เป็นความร่วมมือเองล้วนๆเลย”

เมื่อฟังดูในตอนแรกสิ่งที่เฉินอีพูดนั้นเหมือนดูสมเหตุสมผลแต่หากลองดูให้ละเอียดลึกลงไปมันไม่ใช่แบบนั้นเลย

“ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก ตอนนี้ก็นำเอาสัญญามาได้แล้วก็ถึงเวลาที่คุณย่าจะต้องทำตามสิ่งที่พูดเอาไว้”

เฉินอีเตือนออกไป ฉินปิงหลันรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับกดโทรออกไปและยังไม่ทันที่จะพูดอะไรก็ถูกเสียงตะโกนด่าใส่กลับมา- -

“ฉินปิงหลัน ยังจะมีหน้าโทรมาอีกนะ ไปหาแม่น้ำสักแห่งฆ่าตัวตายไปซะและอย่ามายุ่งกับเราอีกจะได้ไหม?”

เป็นเสียงของฉินหวยจือ

ฉินปิงหลันตกตะลึง “ไม่ใช่ นี่มันอะไรกัน?”

“เธอยังจะมีหน้ามาพูดอีก เมื่อกี้พี่ชายคนโตได้บอกกับพวกเราหมดแล้วว่าเธอไปทำให้ประธานวังจ่างหลินขุ่นเคืองใจทำให้ไม่สามารถเจรจาเรื่องการร่วมมือทำงานได้แถมยังมาทำให้พี่ชายกับตระกูลฉินต้องลำบากกันอีก ฉินปิงหลันเธอนี่เป็นหายนะจริงๆ อีกอย่างทั้งหมดนี้เธอก็จงใจทั้งนั้น ตอนแรกก็เป็นคุณชายหลี่เจ๋อแล้วก็มาเป็นประธานวังอีก เธอคิดที่จะทำให้เราตระกูลฉินไม่มีที่ยืนเลยหรือไงกัน?”

รอบนี้เป็นฉินโรซีที่รับสาย

นอกจากนี้ยังมีเสียงดุด่ามากมายจากหลายๆคน ความสุขของฉินปิงหลันที่เพิ่มพูนขึ้นในตอนแรกๆนั้นถูกทำให้มอดดับลงไปเสียแล้ว

“ต่อจากนี้ไป เธอไม่ต้องก้าวขาเข้ามาที่ประตูของตระกูลฉินอีกแล้วเว้นแต่คุณย่าจะสั่ง หากกล้าเข้ามาแม้แต่ครั้งเดียวล่ะก็ฉันจะหักขาเธอซะ!”

และสุดท้ายนี่คือคำสั่งของฉินหวยจือและเห็นได้ชัดว่าคงได้รับการยินยอมจากคุณย่าฉินแล้ว

ฉินปิงหลันถึงกับทรุดตัวลงไป

“นี่ มันเกิดอะไรขึ้น?”

“เห็นได้ชัดว่าฉันเอารายการของวังซื่อกรุ๊ปมาได้แล้วแต่ทำไมฉันถึงยังเป็นคนบาปของตระกูลอีกล่ะ แม้แต่คุณย่าเองก็ยินยอมกับคำพูดของฉินหวยจือ”

เธอผิดหวังเป็นอย่างมาก

เฉินอีขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า “ไป พวกเรากลับไปดูกัน”

“แต่!”

“ไม่ต้องแต่ ในเมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะทำแบบนี้ก็ต้องทำให้พวกเขากลับเสียใจภายหลัง”

“แต่ก่อนหน้านี้เราจะต้องทำให้พวกเขาเสียใจก่อน สัญญาที่อยู่ในมือของเธอตอนนี้คือเครื่องมือชั้นดีเลยแหละ”

เฉินอีไม่ฉินปิงหลัน เธอวิตกกังวลเกี่ยวกับคนในตระกูลแต่เฉินอีไม่เป็นแบบนั้น

ทำกับฉันไม่ดีก่อนก็อย่ามาหาโทษว่าฉันทำไม่ดีกลับล่ะ

ก่อนอื่นก็คือจะต้องให้พวกนั้นเห็นความหวังเสียก่อนและค่อยทำให้สิ้นหวัง นี่คือรูปแบบที่เฉินอีทำ

คุณย่าฉินพ่นเสียงเหอะออกมาอย่างเย็นชา ทันทีที่ลุกขึ้นก็ตีเข้าไปที่หลิวหลันในทันที หลิวหลันที่ต้องการหลบหลีกแต่เมื่อเห็นสายตาของท่านย่าที่มองมาก็ถึงกับต้องดับความคิดนั้นลงไป

ทนความเจ็บปวดมาหลายครั้งหลายคราคุณย่าฉินก็ได้พูดอย่างเฉียบขาดไปว่า “เรื่องอื่นฉันไม่สนใจแล้ว ภายในสองวันส่งตัวฉินปิงหลันไปที่ตระกูลหลี่ซะ”

“ตอนนี้ระหว่างเรากับวังซื่อกรุ๊ปนั้นมีช่องว่างกันอยู่ หากไม่จับขาของตระกูลหลี่ให้มั่น พวกเราตระกูลฉินคงไม่มีที่ให้ยืนอีกต่อไป!”

น้ำเสียงของหล่อนนั้นเข้มงวดกวดขัน

หลิวหลันรีบพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับตอบรับ

มีก็แต่สีหน้าของฉินต้าเจียงที่เปลี่ยนไปและได้รีบพูดออกมาว่า “แม่ พวกเราอย่าไปกดขี่ข่มเหงฉินปิงหลันอีกเลย สภาพของเธอในตอนนี้ก็แย่มาก เธอไม่สามารถไปทำอะไรให้วังซื่อกรุ๊ปขุ่นเคืองใจได้หรอก”

“อืม?”

เมื่อได้ฟังคำพูดของฉินต้าเจียง แววตาของคุณย่าฉินก็ดูเย็นลง “ไม่สามารถทำได้?”

“ตอนนั้นฉันได้ตกลงให้เธอแต่งงานกับตระกูลร่ำรวยที่อยู่เมืองถัดไปแต่ท้ายที่สุดเธอกลับนำสิ่งที่เลวร้ายสองสิ่งกลับมา ตอนนี้ยังจะอยากมาขอความเมตตาให้เธออีกเหรอ?ฉินต้าเจียง แกอย่าคิดนะว่าฉันจะตีแกไม่ได้เพียงเพราะขาสองข้างของแกเจ็บป่วย ฉันตีแกไม่ได้ก็จริงแต่ถึงยังไงซะลูกแกเมียแกก็ยังสภาพดีกันอยู่นี่!”

ฉินต้าเจียงอ้าปากพูดอะไรไม่ออก

เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าแม่ของเขาจะมีความคิดที่รุนแรงเช่นนี้ถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมาอย่างตรงไปตรงมาได้

“แม่ ท่าน!”

“หุบปาก!”

คุณย่าฉินกล่าวอย่างเด็ดขาด “ทำตามที่บอก เข้าใจไหม?”

“ได้ได้ได้!”

ก่อนที่ฉินต้าเจียงจะพูดอะไรออกไป หลิวหลันกับฉินปิงซินก็รีบตอบรับทันที

ในเวลานี้เอง สมาชิกของตระกูลฉินนั้นต่างยิ้มออกมาอย่างเย็นชาโดยเฉพาะฉินโร่ซี ดูเหมือนว่าการที่หล่อนได้เห็นความผิดหวังของฉินปิงหลันนั้นจะทำให้มุมปากกวาดรอยยิ้มขึ้นมา

“ฉินปิงหลัน เธอซวยแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ