เหตุใดเขายังรู้สึกคลางแคลงสตรีผู้นี้อยู่เสมอ แต่เพราะหลินฮุ่ยหมินมีใจรักหลินฉีมากเขาจึงไม่เคยปริปากเรื่องนี้ออกไปให้นางขุ่นใจ ได้แต่คอยระวังอยู่เบื้องหลังเงียบๆมาตลอด
ครานี้หากแต่งเข้าจวนแม่ทัพหยางแล้วใจหนึ่งก็ทำให้เขาเจ็บปวดแต่อีกใจก็ขอให้หยางเอ้อหลางเป็นคนดีเพื่อจะช่วยคุ้มครองนางได้
"อย่าพูดเลย วาสนาของเราสองพี่น้องต้องกันเช่นนี้อย่างไรเสียข้าก็ต้องดูแลเจ้าด้วยชีวิตเข้าใจหรือไม่"
"ใช่ เราสองคนคงต้องเป็นพี่น้องไปจนตาย มาพี่ใหญ่มาดื่มให้กับข้างานมงคลที่แปลกประหลาดในวันพรุ่งนี้ เอ่ยถึงเรื่องพวกนี้แล้วทำให้ใจเจ็บปวด เราสองคนไม่เมาไม่เลิก มา"
ทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน หลินฮุ่ยหมินมีข้อดีคือนางมักจะสลัดความทุกข์ใจทิ้งแล้วก้าวเดินไปได้อย่างรวดเร็ว นิสัยไม่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้หากยากยิ่งในหมู่สตรีอื่น
ใครที่อยู่ใกล้ชิดจึงอดที่จะหลงเสน่ห์ของนางไม่ได้ น้องสาวตัวน้อยของเขา
ดื่มไปนานเท่าใดไม่รู้ เมื่อหันไปมองอีกคราพี่ใหญ่ของนางก็กอดไหเหล้าเมาหลับไปแล้วกระนั้นเขาก็ยังทรงตัวบนหลังคาได้ดี
วรยุทธ์ของเขาล้ำเลิศองค์หญิงสิบสามจึงวางใจหวังไปสำรวจด้านหลังตำหนักก่อนออกเรือนสักหน่อย นางยืดตัวขึ้นกระโดดลงจากหลังคา
องค์หญิงสิบสามเดินเซไปตามทางเรื่อย ๆ พบทหารหลายคนพวกเขาเพียงทำหน้าที่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดกับนาง เห็นว่านางเมาอีกทั้งกลิ่นสุราคละคลุ้งก็ไม่คิดเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องพวกนี้ควรเป็นหน้าที่ของมามาและนางกำนัลที่จะนำองค์หญิงกลับเข้าตำหนัก ทหารพวกนั้นจึงเพียงแต่ทำความเคารพแล้วเดินห่างๆ ออกมา
องค์หญิงสิบสามเดินเล่นเพียงลำพังคิดว่าหลังจากพรุ่งนี้ชีวิตของตนภายในจวนสกุลหยางจะเป็นเช่นไร นางมองสำรวจสวนในตำหนักที่มีแสงคบเพลิงสว่างสไวถูกจุดอยู่รอบบริเวณ
ที่สวนของนางดอกไม้ไม่มากนักขาดคนดูแล อีกทั้งยังเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ผิดกับสวนของตำหนักองค์หญิงอื่นที่งดงามแล้วหดหู่นัก
ความจริงที่ตนเองเป็นองค์หญิงชั้นสองต่ำต้อยในวังนั้นประจักษ์ชัดแจ้ง แต่นางก็หาได้ใส่ใจชีวิตของนางความจริงแล้วสั้นนัก
ที่ควรสมควรทำนางก็คิดว่าได้ทำแล้วหากถึงวันที่นางต้องจากโลกนี้ไปจริงๆ หวังว่านางจะมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าไม่ใช่รอยน้ำตาก็พอแล้ว
จู่ๆ เกิดเสียงใบไม้คล้ายคนเหยียบดังขึ้น องค์หญิงสิบสามแม้จะมึนเมาก็ยังหูดียิ่ง นางตวาดออกไปทันใด
"ข้าจับเจ้าได้แล้วหากไม่อยากตายก็ออกมาให้ข้าเห็นเจ้าแต่โดยดี"
นางจับกระบี่อ่อนที่คาดเอวเอาไว้ กระบี่นี้พี่ใหญ่เพิ่งให้นางมาคมกริบยิ่งใช้สังหารคนได้ในพริบตา นางก้าวขาไปอีกก้าวแต่ไม่รู้พลาดเหยียบสิ่งใดพลันฟ้าหมุนแผ่นดินเคลื่อน
ร่างของนางจึงล้มลงไปที่พื้น
แต่น่าแปลกใจที่นางกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด นางยื่นมือออกไปจับได้ถึงเนื้อหนังของคนผู้หนึ่ง
"หยางเอ้อหลางเจ้าท้าทายข้าเกินไปแล้ว"
นางเงื้อกระบี่ขึ้นตัดใจคิดสังหารคน เปิดช่องว่างเพียงเล็กน้อย พลันเขาสลัดกระบี่ออกจากมือนางว่องไว พลิกร่างอรชรลงล่าง ใช้ขากดกายนางไว้ สองคนเกลือกกลิ้งอยู่ที่พื้นจวบจนเขาทาบทับนางอย่างแน่นหนาได้ในที่สุด เป็นเพราะเมาจึงทำให้วรยุทธ์ขององค์หญิงสิบสามค่อนข้างเงอะงะและไม่อาจออกท่าทางได้ดั่งใจคิด พื้นดินหมุนวนไปหมดแต่กระนั้นนางยังมีสติอยู่บ้าง
"เมาสุราเช่นนี้จะคิดเอาอะไรมาสู้กับข้า"
เขาเอ่ยเยาะหยัน ก้มลงสูดดมกลิ่นสุราหอมกรุ่นจากปากของนาง เพียงดมเท่านั้นกลับทำให้หัวใจของเขาสั่นระรัว
"เจ้าไม่ตายดีแน่"
องค์หญิงสิบสามสติขาดแล้ว เขากำลังดมนางราวกับสุนัขดมกลิ่น สำรวจนางด้วยสายตาและจมูกอย่างชิดเชื้อ เจ้าคนไม่กลัวตายผู้นี้กล้าดีเกินไปแล้ว
"ท่านดื่มมากไปแล้ว" หยางเอ้อหลางตำหนินางเบาๆ
"เรื่องของข้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้เจ้าคนพาล"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25
ได้อ่านถึงตอนที่ 66 แระคะ...มีอัพเดทเพิ่มเติมอีกมั้ยคะ..อยากอ่านต่อค่ะ...
สนุกมากกค่ะ...มีอัพเดทตอนต่อไปหรือป่าวคะ...ขอบคุณค่ะ...