ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 268

เนลล์ตกใจมาก เธอไม่เคยคิดมากแบบนั้น ทว่าเพียงแค่สันนิฐานว่าการมีโอกาสได้กลับไปพบกับครอบครัวทางสายเลือดอีกครั้งคงเป็นเรื่องที่ดี

หลังจากฟังความคิดเห็นของกิดเดียน ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตระกูลการ์เร็ตต์เป็นสถานที่ที่อันตรายและไม่ควรก้าวเท้าเข้าไปง่าย ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น การตามหาเด็กเจอจะไม่ใช่เรื่องดี

ในทันที เธอคิดถึงสเตฟานี่ขึ้นมาอีกครั้ง

เธอได้ยินว่าสเตฟานี่ได้รับการดูแลราวกับเป็นตัวแทนของเด็กคนนั้นที่หายไป ในอดีตที่ผ่านมาคุณผู้หญิงการ์เร็ตต์รับเธอมาเป็นบุตรบุญธรรม

ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา พวกการ์เร็ตต์ปฏิบัติกับเธอราวกับเธอเป็นคนของเขา และเลี้ยงดูเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะนายท่านใหญ่ป่วย ครอบครัวคงไม่คิดที่จะตามหาเด็กคนนั้น

ถ้าเด็กคนนั้นถูกตามหาจนเจอและพากลับมาจริง ๆ แล้วสเตฟานี่จะอยู่ในสถานะอะไร?

คนอย่างสเตฟานี่ต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน

ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิด เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

กิดเดียนจับตามองการครุ่นคิดอย่างต่อเนื่องของเธอและการถอนหายใจ

เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ ลูบศีรษะของเธอและปลอบให้เธอรู้สึกดีขึ้น “ผ่อนคลายนะครับ ถ้าผมมีเบาะแสอะไรผมจะแจ้งให้พวกเขาทราบแน่นอน ผมอยากจะเตือนคุณเอาไว้ว่าอย่าตั้งความหวังเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้สูงนักนะครับ”

อย่างไรก็ตามเด็กคนนั้นก็หายไปมากกว่ายี่สิบปีแล้ว เว้นเสียแต่ว่าสองปีแรกที่ตระกูลการ์เร็ตต์ตามหาเธออย่างไม่ลดละ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาพวกเขาแทบจะไม่ทำอะไรเลย

จนกระทั่งสภาพร่างกายของนายท่านใหญ่ทรุดโทรมลงสิ่งนั้นทำให้พวกเขากลับมาตามหาอีกครั้ง ผมไม่อยากลงรายละเอียดเพราะผมมั่นใจว่าคุณรู้ว่ามันเป็นชีวิตของพวกเขา

เมื่อเด็กกลับไปที่ตระกูลการ์เร็ตต์ มันยากที่จะบอกว่ามันเป็นพรหรือคำสาปของเธอ

เนลล์พยักหน้า

เป็นธรรมดาที่เธอเข้าใจว่าครอบครัวยอมแพ้ที่จะตามหาเด็กมากหลายปีแล้วหลังจากที่การตามหาไม่เป็นผล

ในตอนนี้นายท่านใหญ่ป่วยหนัก เมื่อเขาหวนนึกถึงอดีต เขารู้สึกว่าเขาติดหนี้บางอย่างกับเด็กคนนั้น

ครอบครัวไม่ต้องการให้เขาตายความปรารถนาที่ไม่เป็นจริง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจตามหาเด็กคนนั้น

พูดง่าย ๆ สำหรับพวกเขา เด็กเป็นเพียงเครื่องมือเอาใจนายท่านใหญ่

สุดท้ายแล้ว การเสียชีวิตของนายท่านใหญ่จะนำไปสู่ความขัดแย้งมากมายภายในครอบครัวนอกเหนือจากมรดกของเขา

เมื่อนายท่านใหญ่เสียชีวิต เครื่องมือก็จะหมดประโยชน์ และใคร ๆ ก็ทำได้เพียงสงสัยว่าครอบครัวจะดูแลมันอย่างไร

เนลล์รู้สึกเศร้าเมื่อความคิดนี้ซึมลึกลงไปในจิตใจของเธอ

กิดเดียนสังเกตเห็นว่าอารมณ์ของเธอแปรปรวนแค่ไหน และรู้ว่านี่ไม่ใช่หัวข้อที่ดีที่จะพูดคุย ดังนั้นเขาจึงหยุดและเปลี่ยนเรื่อง

พวกเขาทั้งสองคนพูดคุยตลอดทางกลับบ้าน

ป้าจอยซ์จัดเตรียมอาหารกลางวันแสนอร่อยเอาไว้ให้พวกเขาเมื่อเธอรู้ว่าพวกเขาจะกลับมา

หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน กิดเดียนเลือกที่จะอยู่กับเนลล์ แทนที่จะกลับไปที่บริษัท

ลิซซี่สบายดีหลังจากที่ผ่านการตรวจร่างกายแล้ว ความจริงเธอรู้สึกดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก

โดยรวมแล้วเธออยู่ระหว่างการพักฟื้น

ตอนนี้เนลล์หายกังวลแล้ว

ตอนกลางคืนพวกเขาได้รับข่าวจากตำรวจ พวกเขาพบว่าอะไรเกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน

แม้ว่าซิลเวียจะไม่ได้สารภาพ ทว่าแซลลี่ได้ให้การแล้วว่าเธอทำอะไรในอดีตหลังจากถูกตำรวจสอบสวน

ภาพถ่ายของผ้าเบรกที่เนลล์ส่งให้ก่อนหน้านี้ และการให้ปากคำของช่างก็ช่วยได้มากเหมือนกัน

ความจริงเป็นเหมือนกับที่เนลล์คาดเดาเอาไว้ ในตอนนั้นเคธี่ค้นพบความสัมพันธ์ของฌอร์นและแซลลี่และพบว่าพวกเขามีลูกสาวอายุสิบแปดปีเช่นกัน

นอกจากนี้ เธอยังต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจในการสืบสวนคดีการลักพาตัวของเนลล์

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการสอบสวน เซลีนยืนยันว่าเธอถูกลักพาตัวด้วยเช่นกัน

ต่อมามีการพิสูจน์ว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง

แท้ที่จริงแล้วเนลล์รู้ว่าเซลีนถูกลักพาตัวไป แต่เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ

ในขณะที่ตำรวจก็ไม่ได้ดำเนินคดีใด ๆ ในที่สุด มันก็กลายเป็นปริศนาที่แก้ปมไม่ได้

โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย ดังนั้นอย่างน้อยคดีนี้ก็มีผลในเชิงบวก

หลังจากที่ซิลเวีย ฌอร์น และแซลลี่ ถูกคุมขัง คณะกรรมการบริหารได้ทำการตัดสินใจเกี่ยวกับมรดกของเจนนิงส์ คอร์ปอเรชั่น

พวกเขาตกลงกันว่าเนลล์ควรจะเป็นทายาท

ประการแรก เจนนิงส์เริ่มต้นจากการเป็น มอร์ริสัน เคธี่ มอร์ริสันเป็นแม่แท้ ๆ ของเนลล์ และเมื่อพูดตามหลักแล้ว เนลล์ควรจะเป็นผู้สืบทอด

กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวของเซลีน เธอจึงไม่คุณสมบัติที่จะเข้ารับตำแหน่งในบริษัทอีกต่อไป ดังนั้นบุคคลเพียงผู้เดียวที่มีคุณสมบัติที่จะทำได้คือเนลล์เท่านั้น

ถึงอย่างนั้น เนลล์ไม่ได้สนใจมันจริง ๆ แม้ว่าเจนนิงส์ คอร์ปอเรชั่น จะเคยเป็นของมอร์ริสัน คอร์ปอเรชั่น เธอก็ไม่ได้เป็นทุกข์ร้อนกับบริษัทของแม่ผู้ล่วงลับไปแล้วและไม่เคยจัดการมันมาก่อน

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากดำเนินการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งภายใต้การบริหารของฌอร์น เจนนิงส์ คอร์ปอเรชั่น จึงเป็นหน่วยงานที่แตกต่างจาก มอร์สัน คอร์ปอเรชั่น โดยสิ้นเชิง

การรับช่วงต่อบริษัทมีแต่จะเพิ่มปัญหาให้กับเธอเท่านั้น

หุ้นของเจนนิงส์ดิ่งลงอันเป็นผลมาจากเรื่องไร้สาระทั้งหมดนี้ บริษัทไม่มีมูลค่าอีกต่อไปและใครก็ตามที่เป็นผู้สืบทอดจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหามากมาย

ราวกับฟ้าหลังฝน เมื่อทราบว่ามอร์ตันได้ทำการลงทุนเป็นเงินจำนวนมากในเจนนิงส์ ขณะนี้โทมัสสนใจที่จะซื้อบริษัทเจนนิงส์และเนลล์ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด

หลังจากพูดคุยอย่างเป็นทางการ พวกเขาได้ลงนามในสัญญาซื้อขายและจัดการแก้ไขปัญหานี้เป็นครั้งสุดท้าย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก