วินาทีต่อจากนั้น โจเอล ฟอสเตอร์ก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “ไม่เป็นไร ผมมีญาติอยู่ที่นี่ คืนนี้ผมก็เลยจะไปนอนที่บ้านญาติครับ”
ทีมงานได้ยินดังนั้นก็หยุดเดิน
“โอ้ บ้านพวกเขาไกลจากที่นี่มากไหม? คุณต้องมาทำงานตรงเวลาเข้าใจไหม?”
โจเอลตอบอย่างไร้ความรู้สึกว่า “ผมทำได้แน่นอนครับ”
เมื่อคน ๆนั้นได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม เขาแค่เพียงพยักหน้า
“ก็ได้ งั้นดูแลด้วยเองด้วยนะ”
จากนั้นทีมงานก็ได้เข้าห้องไป
ลูซี่ แคทซ์ที่กำลังจะเปิดประตูอยู่นั้น ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา
หลังจากที่เธอได้เปิดประตู เธอก็มองย้อนกลับไป ก็เห็นชายคนนั้นมือขวายืนล้วงกระเป๋ากางเกงของเขา เขามองมาที่เธอและยิ้มอย่างเย็นชา
ลูซี่ จ้องเขม็งไปที่เขา
เธอไม่ให้โอกาสให้เขาได้พูดอะไร ก่อนที่เธอจะเข้าไปในห้อง
ลูซี่ปิดประตูและล็อกประตูอย่างรวดเร็ว
เมื่อล็อกประตูเสร็จแล้วก็ปรบมืออย่างภาคภูมิใจ
‘ฮ่า! ใครขอให้คุณมาที่นี่และมาทำให้ฉันตกใจกัน มาดูกันว่าคืนนี้คุณจะเป็นยังไง’
เธอโยนกระเป๋าสตางค์ของเธอไปด้านข้าง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำ
อีกฝั่งนึงของประตู โจเอลไม่คาดคิดว่าเธอจะล็อกประตู
ในตอนแรกเขาได้เตรียมคีย์การ์ดไว้ข้างในห้องของลูซี่แล้ว และเขาก็จะแอบเข้าไปในห้องโดยไม่ให้ใครเห็น
เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะล็อกไม่ให้เขาเข้าไป
ล็อกห้องพร้อมสลักแบบนี้ เขาไม่สามารถเข้าห้องเพียงแค่ใช้คีย์การ์ดได้
โจเอลคิดแล้วก็หันหลังเดินออกไป
เขารู้ว่าเวลานี้ การตัดสินใจที่รวดเร็วของเขานั้น ทำให้ลูซี่โมโห
จากนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนภรรยาของเขา นายน้อยรองฟอสเตอร์ตัดสินใจว่าเขาจะใช้วิธีแบบอ้อมค้อมเพื่อแก้ปัญหานี้
นั่นคือตอนที่ลูซี่ออกจากห้องน้ำ เธอฮัมเพลงอย่างสดใสขณะที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเธอเห็นเงาลับ ๆ ล่อ ๆ ที่หน้าต่างห้องของเธอ
เธอตกใจและตัวแข็งทันที
วินาทีถัดมา เธอก็กรีดร้อง
“เอ่อ...ผี..”
เธอส่งเสียงร้องได้ไม่นาน ก่อนที่ชายคนนั้นจะกระโดดจากหน้าต่างมาเพื่อปิดปากของเธอ
“หยุดกรี้ด! ผมเอง!”
ลูซี่ตกใจเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ก่อนที่เธอจะกลับมามีสติอีกครั้ง เธอก็รู้ทันทีว่าใคร
เธอรู้สึกโกรธและโมโหมาก
“โจเอล ฟอสเตอร์ คุณเสียสติไปแล้วหรือไง? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่ระเบีงของคนอื่นในเวลากลางคืนแบบนี้ด้วย รู้ไหมว่าคุณทำให้ฉันตกใจเกือบตาย!”
ใบหน้าของโจเอลเสียใจ เมื่อลูซี่ดุเขา
“ภรรยา ผมก็ไม่ได้อยากไป แต่คุณล็อกประตูแล้วผมก็เข้าไปไม่ได้ ผมก็เลยปีนไปที่ระเบียงแทนไง”
ขณะที่เขาพูด เขาก็กะพริบตาอย่างน่าสงสารไปที่เธอ
ลูซี่รู้สึกงงงวย
เธอพูดไม่ออก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่โจเอลเป็นความจริงทั้งนั้น
เธอล็อกประตูแล้วขังเขาไว้ข้างนอก เขาไม่มีทางเข้านอกจากทางหน้าต่าง
ขณะที่เธอคิดถึงเรื่องนี้ ห้องของเธอสูงมากกว่าสิบชั้น แล้วเธอก็ไม่รู้ว่าชายคนนี้ปีนขึ้นมาได้อย่างไร ถึงเขาจะปีนขึ้นมาด้วยวิธีใดก็ตามมันก็ยังเป็นอันตรายอยู่ดี
ใบหน้าของลูซี่นั้นมืดมน
โจเอลรู้ว่าคราวนี้เขาเขาทำเกินไปจริง ๆ
เพื่อเอาใจเธอ เขาจึงขอความเมตตาจากเธออย่างรวดเร็ว
“โอเค โอเค ผมผิด มันเป็นความผิดของผม อย่าโกรธผมเลยนะ…”
อย่างไรก็ตาม เธอกลับมาที่ความเป็นจริง
มีคนอยู่ข้างนอกเยอะแยะ ชั้นนี้มีแต่ทีมงาน พวกเขาจะรู้ได้ทันทีถ้าพวกเขาไม่ทันระวัง
ดังนั้น ลูซี่จึงทำหน้าเฉย ๆ
เธอพยักหน้าเล็กน้อย เดินเข้าไปเพื่อให้เขาได้เข้ามาข้างใน
“ขอบคุณ”
โจเอลส่งอาหารเช้าให้เธอ เริ่มเตรียมสิ่งของที่ต้องใช้ที่จำเป็นในการถ่ายทำของวันนี้ อย่างเช่น ลิปสติกกับขวดน้ำ
ลูซี่นั่งอยู่ตรงนั้น กำลังเพลิดเพลินกับอาหารเช้า ในขณะที่เธอนั่งดูเขาจัดของให้เธอ
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่รู้ว่าเธอคิดผิดไหม แต่เธอรู้สึกดีตอนอยู่กับเขา เมื่อเทียบกับตอนที่เธออยู่คนเดียวหรืออยู่กับคาริน่า
อย่างน้อยที่สุด เธอรู้สึกว่าเธอปลอดภัย
ในขณะที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากของเธอ
เมื่อท่าทางของโจเอลเหมือนกับผู้ช่วยของเธอ เขาได้เรียนรู้การทำงานของการเป็นผู้ช่วยพิเศษล่วงหน้ามาแล้ว
ดังนั้นเขาจึงดูสบาย ๆ เมื่อทำงาน
หลังจากที่ลูซี่กินอาหารเช้าเสร็จแล้ว เธอก็ช่วยเขาไปจัดของที่เขาได้ทิ้งไว้
ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนี้จะดูเหมือนว่าทำงานได้ดี แต่เธอก็ยังไม่ลืมว่าเขาคือ นายน้อยรองของตระกูลฟอสเตอร์
นายน้อยคนนี้ที่ถูกคนอื่นรับใช้จนชิน กำลังช่วงเธอจัดข้าวของ
ทำไมภาพนี้มันดูน่ากลัว?
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอจะต้องเก็บของด้วยตัวเธอเอง
ยิ่งกว่านั้นผู้ชายก็ไม่ได้ละเอียดเหมือนกับผู้หญิง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีช่องโหว่งขนาดใหญ่ ในความเข้าใจทางจิตใจ
นี่เป็นของส่วนตัวของเธอ แล้วถ้าหากคน ๆ นั้นไม่ได้รู้จักเธอเป็นอย่างดี มันจะไม่โดนจัดแบบนั้น
โจเอลรู้จักเธอดีในด้านต่าง ๆ แต่มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ชายอย่างเขาที่จะเข้าใจความต้องการที่จำเป็นของเธออย่างครบถ้วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก