เนลล์ประเมินสถานการณ์และคิดว่าเธอปลอดภัยแล้วในตอนนี้ แต่ทว่าเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแนนซี่บ้าง
เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับแนนซี่
ผู้หญิงคนนั้นหยุดเดิน และจ้องมาที่เธอครู่หนึ่ง
เธอเห็นความสิ้นหวังบนใบหน้าของเนลล์ เธอจึงพูดว่า “ตกลง พรุ่งนี้เราจะไปที่บ้านของเฟร็ดเพื่อตรวจดูให้แน่ใจ และฉันจะพาผู้หญิงคนนั้นมาด้วยถ้าสะดวก”
เนลล์พูดเสริมขึ้นมาทันทีว่า “แล้วทำไมเราไม่ไปกับพวกเขาล่ะ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นลดลงเล็กน้อย เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณผู้หญิง คุณกังวลเรื่องอะไรอยู่กันแน่? เราช่วยชีวิตคุณและเพื่อนของคุณไว้ ไม่มีทางที่พวกเราจะทำร้ายคุณ แค่สองคืนเอง คุณกลัวว่าเราจะกินเพื่อนของคุณเหรอ?”
ทัศนคติที่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรงของเธอทำให้เนลล์ตกใจ
เธอไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกท้อใจ
ตอนนี้เธอได้อาศัยอยู่ในบ้านของผู้หญิงคนนั้น ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถออกตัวแรงเกินไปได้ อันที่จริงจะเป็นผลดีกับเธอมากกว่าหากว่าเธอพูดให้น้อยที่สุด เธอต้องละทิ้งคำขอของเธอ เพราะผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธที่จะประนีประนอมกับเธอ
ผู้หญิงคนนั้นเห็นความผิดหวังของเธอ และพยายามปลอบโยนเธอ
“อย่าเศร้าไปเลย หมู่บ้านที่เฟร็ดอาศัยอยู่ห้ามมิให้บุคคลภายนอกเข้าไป เพื่อนของคุณโชคดีที่พวกเขาเต็มใจช่วยเธอ หากเป็นเวลาอื่น พวกเขาคงไม่ได้ช่วยชีวิตคนนอกไว้อย่างแน่นอน”
เนลล์ขมวดคิ้วและครุ่นคิดโดยไม่รู้ตัวว่าคำพูดของเธอนั้นฟังดูแปลกไปมากแค่ไหน
ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ให้เวลาเธอคิดเรื่องนั้นเลย เพราะหลังจากที่พูดจบเธอก็เดินออกไป
ผู้หญิงคนนั้นออกไปได้ไม่นาน ก็กลับมาทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง
“ฉันได้พูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ พรุ่งนี้จะมีคนไปดูว่าผู้หญิงนั้นคือเพื่อนของคุณหรือเปล่า อ๋อ แล้วคุณชื่ออะไร ฉันจะได้บอกให้พวกเขารู้ มันยากสำหรับคุณสองคนหรือเปล่าที่จะจำกันได้โดยไม่มีรูปถ่ายหรืออะไรทำนองนั้น”
เนลล์เม้มปากแน่นเธอไม่ได้บอกชื่อจริงของเธอให้กับผู้หญิงคนนั้น
เธอบอกแค่ชื่อเล่นให้เธอ และมีแนนซี่คนเดียวเท่านั้นที่จะรู้ได้
“ฉันชื่อลิตเติ้ลเซเว่น”
ผู้หญิงคนนั้นหยุดการเคลื่อนไหวของเธอ จากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา “นั้นมันเป็นชื่อเล่นจริง ๆ ใช่ไหม? ได้ ฉันจะบอกให้พวกเขารู้ในภายหลัง ถ้าเธอเป็นเพื่อนของคุณจริง ๆ ฉันจะส่งคนไปรับเธอมาที่นี่”
ด้วยเหตุนี้เธอจึงจากไป
เนลล์ยังคงอยู่ในที่นั่งของเธอ และรอการกลับมาของเธอหลังจากที่เธอบอกผู้คนภายนอกด้วยชื่อของเธอ
ผู้หญิงคนนั้นพูดกับเธอว่า “ดึกแล้ว คุณกลับไปนอนพักผ่อนในห้องเดิมที่คุณเคยนอนเถอะ ถ้าคุณอยากจะพูดอะไรก็รอจนกว่าจะถึงเช้าวันรุ่งขึ้นแล้วกันนะ”
เนลล์พยักหน้า เธอเอามือพิงกำแพง แล้วหาทางกลับห้องโดยไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเธอ
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง เนลล์นอนอยู่บนเตียงและกระดิกเท้าไปมาอยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็นอนไม่หลับ
เธอได้ยินเสียงของแมลงข้างนอกห้องของเธออย่างชัดเจน นี่เป็นเสียงที่จะได้ยินได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาอยู่ในหมู่บ้าน
เนลล์ได้กลิ่นอับชื้นลอยออกมาจากเตียงที่เธอนอนอยู่ ความรู้สึกลังแลได้ผุดขึ้นมาในหัวใจของเธอ เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นมันมาจากไหน
แต่ทว่ามันไม่มีประโยชน์สำหรับเธอที่จะคิดมากในตอนกลางดึกแบบนี้
เธอสงสัยว่าแนนซี่จะเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้ และถ้าหากว่าเธอได้รับบาดเจ็บล่ะ หวังว่าเธอจะไม่พบกับผู้ชายเหล่านั้น
เธอหลับตาลงด้วยความคิดเหล่านั้น ในระหว่างวันร่างกายของเธอได้รับแรงกระแทกมากจนเกินไป ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะหลับในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการที่จะทำเช่นนั้นก็ตาม เธอกำลังคิดว่าเธอควรตื่นตัวเพื่อดูแลตัวเอง
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเธอตื่นขึ้นมา
เนลล์ลืมตาขึ้นและพบว่าตัวเองกำลังถูกจ้องมองจากใบหน้าสกปรกของกลุ่มเด็กที่ยืนอยู่ข้างเตียงของเธอ
เธอตกใจและกระโดดลงจากเตียงแทบไม่ทัน
"นี่เธอ…"
เด็ก ๆ พากันหัวเราะคิกคัก
เด็กกลุ่มนี้น่าจะมาจากหมู่บ้าน พวกเขาไม่กลัวที่เห็นเธอตื่น และยังคงหัวเราะคิกคักขณะที่จ้องมองเธอกันต่อไป
ภายใต้สายตาที่จับจ้อง เนลล์มองเห็นแต่ความไร้เดียงสาในดวงตาของพวกเขา และตระหนักว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายใด ๆ ต่อเธอเลย พวกเขาน่าจะแค่อยากรู้จักกับเธอ ในที่สุดเธอก็ลดกำแพงกั้นลง
ในที่สุดเนลล์ก็มองเห็นหมู่บ้านเป็นอย่างแรกเมื่อเธอก้าวออกจากบ้าน
เหมือนกับที่เธอได้จินตนาการเอาไว้เลย แสงแดดยามเช้าทำให้เธอมองเห็นบ้านที่ทำจากดินกระจัดกระจายอยู่ทั่วหมู่บ้าน
บ้านทุกหลังมีรั้วล้อมรอบเป็นกำแพง พวกมันไม่สูงมากนัก ดังนั้นเธอจึงเห็น เป็ด ไก่ และห่านวิ่งเล่นอยู่ในนั้น เธอไม่รู้ว่าใครทิ้งวัวไว้ข้างถนน แต่อึของมันส่งกลิ่นฉุนคละคลุ้งไปหมด
เธอยืนอยู่หน้าประตูและยืดร่างกายของเธอพลางถอนหายใจออกมา
การอยู่ที่นี่ไม่ได้ง่ายสำหรับพวกเขาเลย
เด็กกลุ่มนี้ไม่ได้จากไปหลังจากที่พวกเขาออกมาจากบ้านแล้ว พวกเขายังยืนอยู่ข้าง ๆ และจ้องมาที่เธอ
เนลล์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย และนึกไม่ออกว่าทำไมเด็ก ๆ พวกนี้ถึงคอยติดตามเธอไปทั่ว
พวกเขาจ้องมองเธออย่างเปิดเผย สายตาของพวกเขาดูแปลกและดูน่าสงสาร เธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ต แต่ก็ไม่เจอสิ่งใดที่กินได้หรืออะไรที่ให้พวกเขาเล่นได้เลย
จริง ๆ แล้ว เธอสูญเสียของทุกอย่างของเธอตอนที่กระโดดร่มลงมา ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่มีอะไรติดตัวเธอเลย
สิ่งเดียวที่เธอคิดว่าจะถามได้ก็คือ “พวกเธอกินข้าวเช้ากันหรือยัง?”
“กินแล้ว” กลุ่มเด็กน้อยตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน
เนลล์ลูบท้องของเธอเอง
“แต่ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย”
“ฟลอร่าบอกว่าคุณสามารถทำอาหารเองได้ถ้าคุณตื่นนอนแล้ว มีข้าวอยู่ในห้องครัว”
เนลล์อึ้งกับคำตอบ เธอหันไปทางที่เด็กชายกำลังชี้และถามว่า “นั่นคือห้องครัวเหรอ?”
"ใช่ครับ"
เธอเห็นบ้านหลังหนึ่งที่มีเพดานต่ำมาก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เนลล์ก็เดินเข้าไปหามัน
เธอพูดขณะที่เธอกำลังเดินอยู่ว่า “พวกเธอกินข้าวเช้ากันแล้ว อยากลองกินของว่างดูบ้างไหม? ฉันจะทำข้าวเกรียบให้พวกเธอเอาไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก