ผู้คุมเรือนจำก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
เพราะในท้ายที่สุด วิกกี้ก็มีประวัติความประพฤติที่ดีในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา
เธอเป็นคนที่ดีมากจนไม่เหมือนกับอาชญากรที่ชั่วร้ายเลย แต่ว่าเป็นสาวบ้าน ๆ ที่อ่อนโยน เป็นผู้หญิงที่ทุกคนอดที่จะดูแลไม่ได้
บางครั้งผู้คุมก็แอบถอนหายใจในใจ เพราะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก!
ชีวิตของวิกกี้ได้ถูกทำลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี
ขณะที่ปลอบโยนเธอ บางครั้งผู้คุมก็บอกเธอว่าเธอยังเด็ก ยังมีความหวังและความเป็นไปได้มากมายในอนาคต
ผู้คุมรู้ว่าเมื่อมีคนเข้าคุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อหาฆาตกรรม ชีวิตของพวกเขาจะไม่ง่ายเหมือนเดิม เมื่อพวกเขาได้ออกไป
ความคิดนี้ทำให้เธอถอนหายใจออกมา
หลังจากที่วิกกี้ถูกปลดกุญแจมือแล้ว เธอก็เดินกลับไปที่ห้องขังและนั่งลงบนเตียง
ผู้คุมล็อคประตูห้องขังและเดินออกไป
ห้องเล็ก ๆ เงียบลงอีกครั้ง
เธอนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบ ๆ พลางไขว้ขาเข้าหากัน ร่างกายของเธอผอมลงมากจนน่าสมเพช ในสายตาของคนอื่น เธอเป็นคนที่มีความทิฐิอยู่ในตัวค่อนข้างมากเลยทีเดียว
วิกกี้ดูเหมือนกับต้นสนที่ไม่เคยย่อท้อต่อสิ่งใด และพร้อมจะยืนหยัดอย่างมั่นคงแม้ว่าจะถูกโค่นล้มมาแล้ว
เธอก้มศีรษะลงและนิ่งเงียบ เวลาผ่านไปนานมากแล้ว เธอเอื้อมมือเข้าไปหยิบดินสอที่เก็บเอาไว้ใต้หมอน และเริ่มเขียนบนผนังเล็ก ๆ ข้างเตียง
ลายเส้นที่ยุ่งเหยิงพร้อมกับตัวอักษรและตัวเลขพวกนั้น คนทั่วไปที่มาเห็นคงไม่สามารถเข้าใจได้
เธอวาดลายเส้นเหล่านั้นมารวมกันและแปลงเป็นคำตอบที่เธอต้องการ
ในท้ายที่สุด วิกกี้ก็หรี่ตาลงและยิ้มออกมาหลังจากที่ได้เห็นผลลัพธ์บนผนัง
สี่ปีเต็มเท่ากับหนึ่งพันสี่ร้อยหกสิบวัน
เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนับวันพวกนั้น
วิกกี้เชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นแค่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถชุบชีวิตของตัวเธอเองขึ้นมาใหม่ได้หลังจากที่เธอได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก
…
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แค่เพียงพริบตาเดียวก็ถึงวันรุ่งขึ้นแล้ว
วันนี้คือวันที่เธอจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำอย่างเป็นทางการ
ในตอนเช้าวิกกี้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงแตร หลังจากที่อาบน้ำเสร็จอย่างรวดเร็ว เธอก็ออกไปรับประทานอาหารเช้ากับนักโทษคนอื่น ๆ
เธอได้รับประโยชน์จากการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเทย์เลอร์ แม้ว่าชีวิตในคุกของเธอจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่เธอก็ไม่ได้ถูกรังแกมากนักในช่วงสี่ปีที่เธออยู่ที่นี่
เนื่องจากคดีของเธอเป็นคดีพิเศษ เธอจึงมีห้องขังเดี่ยวที่เรือนจำได้เตรียมกักขังเธอเอาไว้ตามลำพัง
อาจจะดูเหมือนกับว่าเป็นการลงโทษสำหรับเธอ แต่ว่าการกักขังโดยลำพังนั้นหมายความว่าเธอจะได้อยู่คนเดียวตลอดเวลา ยกเว้นเวลาทานอาหารและเวลาว่างในคุก
ระยะเวลาสี่ปีที่มากกว่าหนึ่งพันวันและหนึ่งพันคืน ที่เธอไม่มีใครคุยด้วย
หากต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้คนธรรมดาทั่วไปคงจะทนไม่ได้อย่างแน่นอน
แต่สำหรับคนอย่างวิกกี้แล้ว มันไม่สำคัญเลยว่าจะมีคนคุยด้วยหรือไม่
เธอไม่ได้เป็นคนที่ชอบพูดคุยกับคนอื่นมากนัก การที่ได้อยู่คนเดียวคงจะดีกว่าสำหรับเธอเพราะว่ามันเงียบดี
และยิ่งไปมากกว่านั้น มันจะสะดวกสำหรับเธอมากกว่าที่จะกระทำบางอย่าง
ริมฝีปากของเธอยกขึ้นขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้
ถึงเวลาออกจากคุกหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จ
ยังมีขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนที่ยังต้องดำเนินการก่อนที่เธอจะได้รับการปล่อยตัว
ทุกคนรู้ว่าเธอจะได้ออกไปจากที่นี่ในวันนี้แล้ว ดังนั้นผู้ต้องขังทุกคนจึงมาร่วมแสดงความยินดีกับเธอหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ
แม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่กับพวกเขามาหลายปี และไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาในคุกมากนัก เพราะไม่มีใครมีเพื่อนที่นี่
เขาไม่กล้ารบกวนนายน้อยอีกต่อไป เขาวางชามเปล่าลงบนถาดแล้วถือมันไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ทันทีที่พ่อบ้านออสบอร์นออกไป เขาก็เห็นยูเลียนายืนอยู่อีกด้านหนึ่งของสุดทางเดิน เธอมองไปในทิศทางที่เขาอยู่ด้วยความคาดหวัง
พ่อบ้านออสบอร์นอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา
ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้ว ความประทับใจของเขาที่มีต่อยูเลียนาก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่จะมีจิตใจที่ชั่วร้ายแล้ว เธอยังยั่วยวนนายน้อยเข้าใกล้เธอตั้งหลายครั้ง ไม่ว่าใครก็ตามที่มีสายตาที่เฉียบแหลม ดูก็จะรู้ได้ทันทีว่าเจตนาที่แท้จริงของเธอคืออะไร
พ่อบ้านออสบอร์นไม่ใช่คนดื้อรั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นห่วงเกรกอรีมากแค่ไหนที่ไม่มีผู้หญิงอยู่รอบตัวเขาเลยในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเกรกอรีจะเหลือฟางเส้นสุดท้ายไว้ในมือ
เขามองว่ายูเลียนาเป็นแค่เด็กสาวยากจนที่ถูกขายมาที่นี่ ซึ่งนั้นมันก็ไม่ใช่ความผิดของเธอ
ต่อมาพฤติกรรมและความปรารถนาของเธอได้ถูกเปิดเผยออกมา มันทำให้ความคิดของพ่อบ้านออสบอร์นที่มีต่อเธอได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นจะมีคำกล่าวที่ว่า 'กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง' ได้อย่างไร?
หลังจากที่ชีวิตพลิกผันหลายครั้ง เธอถูกลักพาตัว ถูกกลั่นแกล้งสารพัด และสุดท้ายก็ถูกขายให้กับที่นี่ แต่ว่าเธอกลับไม่ได้รู้สึกขอบคุณเกรกอรีที่ช่วยเธอให้พ้นจากอันตรายเลย แต่เจตนาที่ชั่วร้ายของเธอคือการเข้ามาตีสนิทกับผู้คนที่มีอำนาจ และอิทธิพลเพื่อบรรลุเป้าหมายของเธอเอง
และเพื่อให้เป้าหมายที่เธอได้ตั้งไว้บรรลุแล้ว เธอไม่ลังแลเลยที่จะใช้ประโยชน์จากคนที่ช่วยชีวิตเธอ
อา! ผู้หญิงประเภทนี้ต้องการปีนขึ้นไปบนเตียงของนายน้อย เธอมีค่าพอหรือเปล่า?
พ่อบ้านออสบอร์นรู้สึกดูถูกเธออยู่ในใจ แต่สีหน้าของเขาก็เย็นชาอยู่
เขาเดินเข้าไปหาเธอแล้วถามว่า “คุณลินช์ครับ ไม่ทราบว่าคุณมาทำอะไรที่นี่ครับ? มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ นายน้อยยังไม่ว่าง และถ้ามันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไรมันจะเป็นการดีถ้าคุณไม่เข้าไปรบกวนเขา”
เมื่อวันก่อนที่ยูเลียนาเพิ่งจะมาถึงที่นี่ เธอยังไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของพ่อบ้านออสบอร์น และก็ไม่รู้ว่าเกรกอรีเชื่อใจและไว้วางใจเขามากแค่ไหน
ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมเธอจึงทำให้เขารู้สึกขุนเคืองมากขนาดนี้
หลังจากที่เธอกลับมาตั้งแต่วันนั้น เธอก็ได้เรียนรู้จากจินนี่สาวใช้ของเธอ เกี่ยวกับสถานะของพ่อบ้านออสบอร์นในคฤหาสน์แห่งนี้ ในตอนนั้นเธอรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับสิ่งที่เธอได้ทำลงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก