ชายคนนั้นถอยหลังกลับไปสองสามก้าวเนื่องจากโดนแรงปะทะ และแน่นอนว่าเขาไม่สามารถเอื้อมมือไปถึงลูกกอล์ฟได้ วิกกี้จึงรีบฉวยโอกาสจากสิ่งนี้เธอพยายามตั้งท่าให้ดีที่สุด ขณะที่เธอกำลังจะทำคะแนนได้นั้น ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังของเธอก็รีบหยุดเธอเอาไว้ด้วยไม้กอล์ฟของเขา เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีมือที่แข็งแรงกำลังดึงแขนของเธอออก ซึ่งนั้นทำให้เธอเสียโอกาสในการทำคะแนนอีกครั้ง
วิกกี้เริ่มรู้สึกรำคาญเต็มทน
มาถึงตอนนี้ พวกเขาทั้งคู่รู้แล้วว่าพวกเขาแต่ละคนมีเล่ห์เหลี่ยมสกปรกอยู่มากมาย การแข่งขันในรอบนี้ไม่ใช่แค่การเล่นของเล่นเด็กอีกต่อไป
วิกกี้ก้มโค้งหลังของเธอลง ดวงตาของเธอคมกริบ ในขณะที่เกรกอรีก็ทำการป้องกันเช่นเดียวกันเธอกัดฟันกรอด “วันนี้คุณจะต้องแพ้แน่นอน”
เกรกอรียิ้มออกมาอย่างเย็นชา “นี่คุณมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”
"แน่นอนที่สุด!"
เมื่อเธอพูดจบ เธอก็พุ่งตัวผ่านช่องว่างระหว่างวงแขนของเขาอย่างรวดเร็วในทันที
เกรกอรีขมวดคิ้ว เขาไม่มีเวลามาตอบกลับเมื่อเธอคว้าไม้กอล์ฟได้และกระโจนตัวไปทางขวาของเกรกอรีอย่างกระฉับกระเฉงและว่องไว มือขวาของเธอแกว่งไปมาเบา ๆ และทำให้ลูกกอล์ฟลอยขึ้นไปบนอากาศด้วยการตีเบา ๆ จากการใช้ไม้กอล์ฟของเธอ ก่อนที่ลูกบอลจะตกลงสู่พื้นอย่างสมบูรณ์ โฮลอินวัน
มัสซิโมส่งเสียงเชียร์และปรบมืออย่างอดไม่ได้
“เป็นเกมที่น่าทึ่งมาก! คุณนี่สุดยอดไปเลยวิก!”
เขาดีใจมากจนเผลอเรียกชื่อของเธอออกมาเหมือนกับคนที่สนิทสนมกันแล้ว
แต่ทว่าทั้งเกรกอรีและวิกกี้กลับไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย เกรกอรีปาดเหงื่อออกพร้อมกับยอมรับความพ่ายแพ้ เขาพูดออกมาว่า "ผมแพ้คุณแล้ว"
วิกกี้เลิกคิ้วพลางมองเขาด้วยความพอใจ “แล้วการเดิมพันของเราล่ะ?”
เกรกอรียังคงรักษาคำพูดของเขา เขาจึงถามเธอกลับไปว่า “คุณอยากได้อะไรล่ะ?”
คำถามนี้ทำให้วิกกี้รู้สึกลังเล
จะขอความช่วยเหลือจากเกรกอรีดีไหม? ให้ตายเถอะ เธอยังไม่ทันได้คิดว่าเธอต้องการอะไรจากเขา
เกรกอรีเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเธอกำลังลังเล
“คุณไม่ต้องรีบหรอก ใช้เวลาคิดให้เต็มที่ เพราะคำสัญญาของเรานี้จะมีผลไปจนวันตาย”
จากนั้นเขาก็หันหลังกลับไปและเดินมุ่งหน้าไปยังหลุมที่เหลือ
ยูเลียนารอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว การแข่งขันในรอบก่อนหน้านี้ทำให้เธอรู้สึกกังวลมากเป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะว่าเธอคิดว่าเกรกอรีจะเป็นผู้ชนะ และก็ไม่ได้คิดว่าวิกกี้จะเป็นคนชนะแทน
ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ เธอรอให้เกรกอรีเข้ามาใกล้ก่อนจะยื่นเครื่องดื่มเย็น ๆ ให้กับเขาพลางคร่ำครวญว่า “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะไม่ปล่อยให้คุณชนะเกรกอรี เธอควรจะรู้จุดยืนของตัวเธอเองสิ เธอคิดว่าเธอเป็นใครกัน?”
เมื่อได้ยินดังนั้น มือที่ถือแก้วน้ำของเกรกอรี่ก็หยุดชะงักอยู่กลางอากาศ
เขาจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณสามารถพูดถึงเธอแบบนั้นได้?”
ยูเลียนาตกใจมาก เมื่อได้ยินเขาพูดกับเธอแบบนั้น
ไม่กี่นาทีต่อมา เกรกอรีดึงมือของเขากลับ เขาสั่งบริกรด้วยคำพูดสั้น ๆ ว่า “เอาน้ำเย็นแก้วใหม่มาให้ฉัน”
"ได้ครับ"
พนักงานเสิร์ฟรีบออกไปเอาน้ำแก้วใหม่มา ส่วนยูเลียนายังคงตกใจไม่หาย เธอรีบนำแก้วน้ำมาให้เขาอีกครั้งพร้อมกับอธิบายว่า “เกรกอรี ฉันเอาน้ำแก้วนี้มาให้คุณโดยเฉพาะ…”
เขาหยุดเธอไว้กลางประโยคโดยไม่ได้รอให้เธอพูดจนจบ
“เลิกคิดเองเออเอง แล้วเอาเครื่องดื่มหวาน ๆ มาให้ผมสักที! ผมไม่ต้องการให้คุณให้มาบริการอะไรผมทั้งนั้น!”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หยิบไม้กอล์ฟขึ้นมาแล้วเดินกลับไปที่กลางสนามอีกครั้ง
ปล่อยยูเลียนาไว้กับความงงงัน
ความเย็นชาของผู้ชายคนนั้นที่มีต่อเธอ ทำให้เธอรู้สึกอับอาย มันเหมือนกับว่าสิ่งนั้นผุดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจของเธอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความโกลาหลที่เกิดขึ้นได้รับความสนใจจากผู้เห็นเหตุการณ์ ส่วนหนึ่งของพวกเขารับรู้ได้ถึงความสัมพันธ์อันดุเดือดของเกรกอรีและวิกกี้ เธอสัมผัสได้ถึงใบหน้าที่กำลังร้อนผ่าว ในขณะที่หัวใจของเธอในตอนนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความชิงชังอย่างสุดจะทน
ทั้งหมดมันเป็นเพราะนังตัวดีนั่น!
ความเกลียดชังของเธอกำลังลุกโชนขึ้นมาอย่างแรงกล้า เธอจ้องมองไปที่เกรกอรี และเดินตามพวกเขาไปด้วยรองเท้าส้นสูงของเธอ
เนื่องจากวิกกี้ชนะการแข่งขันในรอบที่แล้ว เธอจึงอารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อเช้ามาก
เธอจะไม่ยอมปล่อยให้วิกกี้อยู่เคียงข้างกับเกรกอรีอย่างเด็ดขาด!
สายตาอันโหดเหี้ยมฉายแววผ่านดวงตาของยูเรียน่า เธอพูดขึ้นมาว่า “ก็ดี งั้นแกก็รอดูละกัน! ฉันจะบอกกับเกรกอรีว่าแกรังแกฉันยังไง!”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็หันหลังและเดินออกจากสนามไปด้วยรองเท้าส้นสูงของเธอ
วิกกี้รู้สึกหงุดหงิดตั้งแต่แรก เธอเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าผ้าเช็ดหน้าที่เธอหยิบมาใช้เป็นของมัสซิโมก็เมื่อตอนที่เธอเช็ดหน้าเสร็จแล้ว
เธอรีบบอกกับเขาว่า “ฉันขอโทษนะ แล้วฉันจะคืนผ้าเช็ดหน้าให้คุณหลังจากที่ฉันซักมันแล้ว”
บรรยากาศที่อึกครึมในก่อนหน้านี้ ได้เตือนให้มัสซิโมหวนนึกถึงความยากลำบากและความกล้าหาญของเธอเมื่อสี่ปีก่อน มัสซิโมยังคงค่อนข้างตกใจ เขาส่ายหัวเพื่อดึงสติของตัวเขาเองให้กลับมาสู่ความเป็นจริง
“ไม่เป็นไรหรอก มันก็แค่ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวเอง คุณโยนมันทิ้งไปเถอะ วิก คุณ…”
เขาพูดจาตะกุกตะกักราวกับว่าเขาไม่แน่ใจว่าเขาควรจะพูดต่อดีหรือไม่
วิกกี้เลิกคิ้วและยิ้มให้เขาอย่างไร้อารมณ์ขัน “คุณไม่เรียกฉันว่าคุณโทมัสแล้วเหรอคะ?”
มัสซิโมยิ้มออกมาอย่างไม่สบายใจ
เมื่อตอนที่เกรกอรีและวิกกี้เลิกกัน เกรกอรีก็ได้ห้ามให้พวกเขาเป็นเพื่อนกับวิกกี้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาจึงเริ่มเรียกเธอว่า “คุณโทมัส” และรักษาระยะห่างจากเธอเพื่อพิสูจน์ความจริงใจของเขา
เธอยังคงโหดร้ายเหมือนเมื่อสี่ปีก่อน แต่ทว่าความโหดร้ายของเธอก็ถูกลดทอนลงด้วยความสงบ และความอ่อนน้อมถ่อมตนของตัวเธอเอง
ทันใดนั้นความคิดซับซ้อนก็ปะทุขึ้นมาในหัวของเขา และเขาก็ไม่สามารถเก็บมันไว้ได้อีกต่อไป
มัสซิโมส่ายหัวพลางพูดออกมาว่า “เรื่องระหว่างคุณทั้งสองคนมันซับซ้อนจนเกินไป ในฐานะคนนอกผมไม่สามารถพูดอะไรมากได้ แต่ผมสามารถบอกคุณได้ว่า เกรกอรีเองเขาก็ไม่ได้ผ่านสี่ปีนี้ไปได้ง่าย ๆ อย่างที่คุณคิด ดังนั้นถ้าหากว่าเป็นไปได้…”
"ไม่"
ดูเหมือนวิกกี้จะรู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไรกับเธอ แม้ว่าเขาจะยังพูดไม่ทันจบก็ตาม
เธอรีบตัดบทเขาและตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เขากับฉันมีแค่ความแค้นที่ไม่มีวันจบสิ้น ถ้าเขารอด ฉันก็จะตาย”
เมื่อได้ยินเธอพูดอย่างนั้น คำพูดที่มัสซิโมอยากจะพูดต่อก็ติดอยู่ในลำคอของเขา และเขาก็พบว่ามันยากที่จะพูดอะไรต่อไปอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก