ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 782

ทั้งสองคนสวมชุดวอร์มสีดำเหมือนกัน ชายคนนั้นดูเงียบขรึมและพูดจานุ่มนวล ทรงผมที่ฉวัดเฉวียนและดวงตาที่สงบ

ถ้าหากว่ามีคนอื่นที่ไม่รู้จักเขาได้มาเห็น พวกเขาอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่แสนซื่อสัตย์

ผู้หญิงคนนั้นดูมีชีวิตชีวามาก ผมยาวสีดำของเธอถูกรวบตึงขึ้นเป็นหางม้าสูง ใบหน้าของเธองดงาม ดวงตาของเธอสดใสและมีไหวพริบ ยิ่งไปกว่านั้น ริมฝีปากของดูบูดบึ้งเล็กน้อย ซึ่งนั้นทำให้ดูเหมือนว่าเธอเป็นคนยิ้มอย่างคลุมเครืออยู่ตลอดเวลา แม้ว่าเธอจะไม่ได้คิดอะไรก็ตาม

ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนทั้งสองคนยืนอยู่ที่นั่นครู่หนึ่ง ก่อนที่จะร่างกายที่เพรียวบางเดินเข้ามาหาพวกเขา

ทั้งสองคนตกใจขึ้นมาทันที

ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินเสียงที่นุ่มลึกและสุขุมผ่านสายโทรศัพท์ พวกเขาก็คิดว่าเธอคนนั้นน่าจะเป็นหญิงชรา พวกเขาไม่คิดเลยว่าเธอจะมีอายุน้อยขนาดนี้

ลิตเติ้ลเอท เป็นคนแรกที่ก้าวเท้าขึ้นมา เธอหรี่ตาลงและยิ้มออกมา “สวัสดีค่ะ คุณคือ คุณโทมัสใช่ไหมคะ?”

วิกกี้ยื่นมือไปจับมือของเธอ "ใช่ ฉันเองค่ะ"

คนข้างหลังก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับมือเธอเช่นกัน

วิกกี้ไม่ต้องการพูดคุยอะไรแม้แต่น้อย เธอเหลือบมองรถเอสยูวีที่อยู่ข้างหลังของพวกเขาพลางถามว่า “ของที่ฉันสั่งอยู่ที่ไหน?”

“อยู่ในรถค่ะ”

วิกกี้เดินนำไปที่รถ

ลิตเติ้ลเอทและคู่หูของเธอเดินตามเธอไปอย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นพวกเขาก็เปิดหีบและถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ที่วางอยู่ในรถออก

ลิตเติ้ลเอทปิดจมูกของเธอและไอออกมาด้วยความเก้อเขิน

“ต้องขอโทษด้วยค่ะ เนื่องจากมีเวลาจำกัด เราจึงไม่มีเวลามากพอที่จะหาภาชนะที่ดีกว่านี้สำหรับใส่เธอ เราจึงใส่เธอไว้ในกระเป๋าค่ะ”

สีหน้าวิกกี้ของยังคงสงบนิ่ง เธอตอบออกมาเพียงสั้น ๆ ว่า “ไม่เป็นไรค่ะ”

เธอจ้องมองมันอย่างเงียบ ๆ ไปสักพักหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาถามลิตเติ้ลเอทว่า “ยังใช้บัญชีเดิมอยู่หรือเปล่า?”

ลิตเติ้ลเอทพยักหน้ารับ

วิกกี้จึงหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา และโอนเงินให้เธอโดยไม่รอช้า

บัตรนี้เป็นคำขอในนาทีสุดท้ายของเธอจากพ่อบ้านออสบอร์น ก่อนที่เธอจะออกจากบ้านมาเมื่อเช้านี้ เนื่องจากจำนวนเงินนี้ไม่ได้มากจนเกินไป และเนื่องจากพ่อบ้านออสบอร์นได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติตามคำขอของเธอ เขาจึงจำเป็นต้องมอบมันให้กับเธอโดยไม่มีคำถามใด ๆ ทั้งสิ้น

วิกกี้รู้ว่าเธอจะเป็นประโยชน์กับเกรกอรีมากในไม่ช้าหลังจากนี้ ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องประหยัดเงินใด ๆ ขณะที่ใช้จ่ายเงินของเขา

มันไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด เพราะในท้ายที่สุดแล้ว เงินทั้งหมดนี้ก็ถือได้ว่าเป็นค่าตอบแทนของเธอ

เธอใช้เวลาไม่นานในการโอนเงิน

ขณะที่เธอกำลังโอนเงินนั้น ทางฝั่งของลิตเติ้ลเอทก็ได้รับการแจ้งเตือนว่าเงินเข้ามาแล้ว รอยยิ้มที่แสนจะจริงใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “ฉันได้รับเงินแล้วค่ะ ฉันเห็นว่าคุณไม่ได้ขับรถมาที่นี่ มันคงไม่สะดวกมั่งคะ ถ้าคุณจะอุ้มเธอเดินไปด้วย? ให้ฉันไปส่งคุณไหมคะ?”

วิกกี้ส่ายหัวปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดเลย

เธอหันหน้าไปมองดูร่างสีดำที่อยู่ตรงนั้นอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ที่ที่เธอจะไปอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนักหรอก ฉันพาเธอไปที่นั่นได้สบายมาก”

เมื่อลิตเติ้ลเอทได้ยินอย่างนั้น เธอก็คิดว่าคำพูดของวิกกี้นั้นฟังดูแปลก ๆ แต่เธอก็รู้ดีว่าไม่ควรพูดอะไรต่อ

เธอเพียงแค่พยักหน้าและพูดว่า “โอเค ถ้าอย่างนั้นพวกเราต้องขอตัวก่อน ขอบคุณสำหรับธุรกิจของคุณ หากว่าวันข้างหน้าคุณมีงานอื่นอีก ฉันหวังว่าคุณจะเรียกใช้เราอีกครั้งนะคะ”

วิกกี้พยักหน้าให้เธออย่างอารมณ์ดี

ด้วยเหตุนี้ลิตเติ้ลเอทและคู่หูของเธอจึงช่วยกันขนถ่ายร่างของผู้หญิงคนนั้นลงจากรถ ก่อนที่พวกเขาจะกระโดดขึ้นรถเอสยูวี และขับออกไป

รถขับแล่นไปบนความมืดมิดในยามค่ำคืน หลังจากนั้นบรรยากาศรอบตัวก็เงียบสงัดลงทันที ในทุ่งร้างแห้งนั้นมีเพียงแค่วิคกี้กับซากศพที่เน่าเปื่อย

เธอเดินไปที่ประตูเหล็ก และใช้กิ๊บหนีบผมอันเล็กที่หัวของเธอไขประตูออก ทันใดนั้น กลิ่นเหม็นที่ไม่พึงประสงค์ก็ลอยเข้ามาเตะจมูกของเธอ แต่เธอก็รู้ว่ามันคือกลิ่นของศพ หลายคนเชื่อในหลักของฮวงจุ้ยและการทำนายการณ์ภายหน้า ดังนั้นพวกเขาจะวางศพไว้ที่นี่ชั่วคราวก่อนวันเผาจะมาถึง

วิกกี้ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเธอจะได้มายังที่แห่งนี้ด้วยตัวเองเพื่อทำสิ่งนั้น คงจะไม่มีอะไรในโลกใบนี้ ที่จะแปลกไปกว่าการเผาศพอย่างลับ ๆ แบบนี้อีกแล้ว!

วิกกี้ไม่มีเวลาที่จะมัวมานั้งเสียใจกับตัวเองอีกแล้ว เพราะว่าเกรกอรีกำลังรอเธออยู่ที่คฤหาสน์ เธอเชื่อว่าถ้าหากว่าเธอไม่กลับไปถึงภายในเวลาสองทุ่มครึ่งแล้วล่ะก็ ชายคนนั้นจะรีบออกมาตามหาเธออย่างแน่นอน

เขามักจะใช้วิธีการแบบนั้นอยู่เสมอ ทั้งโหดร้ายและรุนแรง แต่ก็เป็นที่น่าพึงพอใจ

ดังนั้นเธอจึงสงบสติอารมณ์ของเธออย่างรวดเร็ว และก้าวเดินด้วยความเร่งรีบไปยังเตาเผาไฟที่กำลังลุกไหม้ หลังจากที่เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็วางร่างที่เย็นเฉียบลงโดยไม่ได้เปิดดูอีกครั้งก่อนจะผลักร่างนั้นเข้าไปข้างในเตาหลอม

ถุงสีดำกลายเป็นลูกไฟสีน้ำเงินภายในเตาเผาที่กำลังลุกโชน ในขณะที่วิกกี้ยืนอยู่หน้าเตาหลอม เธอก็สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่กำลังแผดเผาใบหน้าของเธอ ความเจ็บปวดที่เด่นชัดนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีมดนับหมื่นตัวกำลังคืบคลานเข้าไปในผิวหนังของเธอ และเข้าไปในเส้นเลือดเพื่อกัดกินเธอจากภายใน

เธอกดหน้าอกของเธอเอาไว้อย่างแรง ดวงตาของเธอแสบร้อนไปหมด แต่เธอก็ไม่สามารถหลั่งน้ำตาออกมาได้แม้แต่หยดเดียว

นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อสี่ปีก่อนเธอได้เสียน้ำตาทั้งหมดที่เธอมีไปหมดแล้ว

เป็นเวลากว่าร้อยวันที่เธอถูกขังอยู่ในห้องขังที่มืดมิดนั้น เธอสวดอ้อนวอนอย่างแรงกล้าเพื่อให้เพื่อนของเธอรอดชีวิต

แต่มันกลับกลายเป็นว่าไม่มีใครรอดชีวิตเลย ไม่มีแม้แต่คนเดียว

เรื่องนั้นทำให้เธอเสียใจมากในช่วงเวลานั้น เธอเสียน้ำตามาทั้งชีวิต

สี่ปีต่อมาวิกกี้ไม่สามารถร้องไห้ออกมาได้ง่ายเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

ความรู้สึกเจ็บปวดและขมขื่นที่ไม่มีใครเคยเข้าใจได้ถาโถมเข้ามาในใจของเธอ ราวกับมีภูเขาทับอยู่ที่อก

เมื่อนานมาแล้วมีคน ๆ หนึ่งที่เธอไม่รู้จักได้พูดเอาไว้ว่า

หลังจากประสบพบเจอกับสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ คน ๆ นั้นจะเงียบลง และเก็บเนื้อเก็บตัวมากขึ้น พวกเขาจะซ่อนตัวจากความฉุนเฉียวทั้งหมดของพวกเขา และอยู่แบบราบรื่นและไม่เป็นอันตราย แต่ในความเป็นจริงนั้น พวกเขาเพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสมเพื่อที่จะได้ปลดปล่อยระเบิดฆ่าเวลา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก