ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 858

ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา กองทหารมังกรตกอยู่ในความโกลาหลและความพ่ายแพ้ สถานการณ์ในประเทศจีนซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากข้อพิพาทระหว่างตระกูลเกรแฮมและตระกูลลีย์

เส้นทางข้างหน้าของเกรกอรีอาจจะยากขึ้น และอันตรายมากขึ้น

ด้วยเกราะไหมสีทองนี้ อย่างน้อยในบางครั้ง มันก็อาจจะสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้เขาได้

จิตใจของวิกกี้เต้นระรัว ทันใดนั้นฝ่ามืออันแสนอบอุ่นก็เอื้อมออกมาอีกครั้งหนึ่ง และจับมือของเธอเอาไว้อย่างเงียบ ๆ

ราวกับว่าหัวใจของพวกเขาได้ประสานเข้าด้วยกัน จากนั้นพวกเขาก็หันหน้ามาและมองหน้ากันอีกครั้ง

ทั้งคู่ต่างก็มองเห็นอารมณ์ความรู้สึก และความรักภายในสายตาของกันและกัน

วิกกี้ตกตะลึง

ในขณะนั้น เธอรู้สึกได้ถึงกระแสน้ำอุ่นที่ไหลพุ่งผ่านเข้ามาภายในหัวใจของเธอ

อารมณ์ความรู้สึกได้ผุดขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของเธอ จนทำให้เธอดูตื่นตระหนก

จากนั้นเธอก็ดึงมือออกจากมือของเขา และพูดเบา ๆ ว่า "อย่าทำแบบนี้ เราอยู่ในที่สาธารณะ!"

ความเขินอายและปฏิกิริยาการตอบสนองของเธอ ทำให้ริมฝีปากของเค้าโค้งขึ้นด้วยความพอใจ

เขาไม่ได้โต้ตอบ แต่เขาก็ยังดื้อรั้นที่จะวางมือของเขาเอา ไว้ และเธอก็ยังสามารถสัมผัสถึงมันได้

หัวใจของวิกกี้กำลังสับสน เธอไม่กล้าสบตาเขา เธอจึงหันหน้าไปทางเวที

วัตถุโบราณชิ้นอื่น ๆ ที่พิธีกรนำเสนออีกหลายชิ้นต่างก็เป็นสมบัติของจักรพรรดิและขุนนางในสมัยโบราณ มีทั้งหยกและอัญมณีที่ล้ำค่าที่นางสนม และราชินีได้เคยสวมใส่

เกรกอรีและวิกกี้ไม่มีความสนใจในในวัตถุเหล่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งดูอยู่เงียบ ๆ

ในทางกลับกัน มัสซิโมได้เสนอราคาประมูลชุดเครื่องประดับปะการังสีแดงที่งดงามให้กับควีนซี่

เนื่องจากมีวัตถุโบราณในการประมูลหลายชิ้นในวันนี้ ภายในชั่วพริบตา เวลาก็ได้ผ่านไปแล้ว 2 ชั่วโมง

พิธีกรพักเบรค 20 นาทีก่อนที่จะเริ่มการประมูลครึ่งหลัง

ฝูงชนเริ่มแยกย้ายกันออกไปที่ด้านนอกของห้องโถง เพื่อเดินยืดเส้นสายก่อนที่การประมูลจะเริ่มขึ้น

วิกกี้และเกรกอรีเองก็ออกไปข้างนอกด้วยเช่นกัน

ในขณะที่มัสซิโมและควีนซี่ก็ได้ติดตามพวกเขาออกไป อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาคุ้นเคยกันมากขึ้นแล้ว ดังนั้นควินซี่จึงไม่ได้ดูเขินอายเหมือนตอนที่พวกเขาได้พบกันครั้งแรก เธอยังหัวเราะและหยอกล้อกับมัสซิโม่จนทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวา

พวกเขาทั้งสี่คนออกไปที่ด้านนอกของห้องโถง จากนั้นไม่นาน ก็มีใครบางคนเข้ามาพูดคุยกับเกรกอรี

ชายผู้นั้นเป็นชายหัวล้านวัยกลางคนที่มีหน้าท้องที่ยื่นออกมา ในมือของเขาถือแชมเปญเอาไว้หนึ่งแก้ว เขายิ้มและกล่าวว่า

“ยินดีด้วยคุณเกรแฮม วันนี้คุณได้รับสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด"

เกรกอรียิ้มอย่างแผ่วเบา เขาหยิบแก้วขึ้นมาและชนแก้วกับชายผู้นั้น

หลังจากที่ดื่มเสร็จ ชายวัยกลางคนก็ยิ้มและพูดว่า “ผมสงสัยว่านายน้อยเกรแฮมจะเคยได้ยินเกี่ยวกับวัตถุโบราณอันล้ำค่าอีกชิ้นหนึ่ง ที่จะปรากฏในรายการประมูลในวันนี้หรือไม่?”

เกรกอรีเลิกคิ้วขึ้น เขาตอบอย่างไม่ปิดบัง

“ผมรู้"

“มันเป็นเหตุผลที่นายน้อยเกรแฮมมาในวันนี้ด้วยหรือเปล่า?”

เกรกอรีมองเขาอย่างมีเลศนัย เขายิ้มและพูดว่า "ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ในวันนี้ ก็คงจะมาที่นี่เพื่อสิ่งนี้เท่านั้น"

เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงจะพอใจกับคำตอบ

จู่ ๆ ชายวัยกลางคนก็ถอนหายใจ และส่ายหน้าอย่างไม่คาดคิด เขาก้มลงมองด้วยท่าทางที่ลึกลับ เขากล่าวว่า “ผมพูดจริง ๆ นะ ผมไม่ค่อยเชื่อในตำนานเรื่องการทำให้คนที่ตายไปแล้วฟื้นคืนชีพได้ แต่ไม่ว่ามันจะมีประโยชน์หรือไม่ ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็คลั่งไคล้และพยายามที่จะคว้ามันมา มันคงจะไม่ใช่สิ่งนำโชคอีกต่อไป”

ดวงตาของเกรกอรีหรี่ลงเล็กน้อย

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาพูดเพียงแค่ว่า "เป็นความเห็นที่ดี คุณคลินตัน”

มัสซิโมมีท่าทีราวกับว่าเขาจะสนใจเรื่องซุบซิบนินทา เขามองไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้ามาใกล้ จากนั้นเขาก็กระซิบว่า "ฉันขอถามหน่อยว่า พวกนายรู้ไหมว่าใครเป็นผู้จัดการประมูลในครั้งนี้?"

วิกกี้และเกรกอรีเองก็สงสัยเช่นกัน พวกเขาขมวดคิ้ว

“เราไม่รู้”

โดยปกติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานประมูลที่ไหน ผู้จัดงานก็จะต้องเป็นที่รู้จัก

แต่ในครั้งนี้ ชื่อของผู้จัดงานได้ถูกละเว้นจากคำเชิญที่ได้ส่งออกไป บัตรเชิญได้ระบุเอาไว้เพียงแค่สถานที่และเวลาเท่านั้น

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้คนที่มาร่วมงานต่างก็ให้ความสนใจเพียงแค่วัตถุโบราณที่จะถูกนำมาประมูลเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่า ชื่อผู้จัดงานประมูลนั้นขาดหายไป

มัสซิโมหัวเราะและพูดว่า "ไม่ใช่แค่พวกนายที่ไม่รู้ ฉันคิดว่า 99% ของคนที่มาในวันนี้เองก็ไม่รู้เหมือนกัน"

ใบหน้าของเกรกอรีเย็นชา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า "เลิกอ้อมค้อมได้แล้ว”

วิกกี้เม้มปากและเห็นด้วยกับเกรกอรี

มัสซิโมพยายามแสดงท่าทางที่เฉลียวฉลาดอย่างหนัก แต่การกระทำของเขาถูกเกรกอรีทำลายลงอย่างไร้ความปราณีดังนั้น เขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย

เขาเหลือบมองเกรกอรีอย่างไม่เต็มใจ และพูดว่า "เอาล่ะ ฉันจะบอกนายก็ได้ มันคือตระกูลฟลินเดอร์“

“อะไรนะ?”

“อะไรนะ?"

เกรกอรีและวิกกี้อุทานขึ้นพร้อมกัน จากนั้นพวกเขาก็จ้องหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตา

ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าคนนอกจะไม่รู้ มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้

ย้อนกลับไปตอนนั้น กองทหารมังกรและองค์กรนกหงส์หยกได้ทำสงครามกันเพราะหยกอาถรรพ์ แต่ในท้ายที่สุด ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก จากนั้นหยกอาถรรพ์ก็ถูกขโมยไปท่ามกลางความโกลาหลตั้งแต่นั้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก