เนลล์จึงตอบสั้น ๆ ว่า “เข้าใจละ”
กิดเดียนถามเธอว่า “คุณไม่ได้เล่นโป๊กเกอร์แล้วเหรอ? ทำไมมาอยู่ที่นี่? พวกเขาเลิกเล่นแล้วเหรอ?”
เนลล์ตอบว่า “ใช่ เลิกเล่นแล้ว พวกเรารู้สึกหิวก็เลยคิดว่าจะหาอะไรทาน ฉันจึงมาถามพวกคุณว่าต้องการอาหารว่างด้วยไหม เพื่อที่สาวใช้ในครัวจะได้ทำให้พวกคุณด้วย”
กิดเดียนมองไปที่เกรกอรีและเลียม
เกรกอรีเหงื่อตกจากสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้
เกรกอรีใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อ และพูดว่า "ก็ดีนะ”
เลียมจึงพยักหน้าเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้นฉันก็เอาด้วย”
เนลล์จึงตอบว่า “ตกลง ฉันจะไปบอกพวกเขาก่อน”
แล้วเธอก็หันหลังเดินไป
ในขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไป จู่ ๆ เกรกอรีก็เรียกเธอให้หยุด
“เอ่อ เดี๋ยวก่อน”
เนลล์หันไปมองเขา "ว่ายังไง?"
เกรกอรียิ้มและพูดว่า “เมื่อคุณกลับเข้าไปแล้ว บอกวิกกี้ให้ออกมาที่นี่ครู่หนึ่ง ผมมีบางอย่างที่อยากจะคุยกับเธอ”
เนลล์เลิกคิ้วและพยายามมองหาคำตอบจากใบหน้าของเกรกอรี แต่เธอก็ไม่ประสบความสำเร็จดังนั้นเธอจึงพยักหน้าและพูดว่า “ได้สิ”
เมื่อเธอออกไป เธอก็ตรงไปที่ห้องครัว
ในเวลานั้น วิกกี้กำลังอยู่ในครัวเพื่อขอให้แม่ครัวทำอาหารว่าง
มันเป็นอาหารว่างที่เรียบง่าย เกี๊ยวกุ้ง ที่ค่อนข้างสดชื่นและเบา จึงเหมาะสำหรับฤดูกาลนี้
เมื่อเนลล์กลับมา วิกกี้ก็ถามว่า “ว่ายังไง? พวกเขาต้องการด้วยไหม?”
เนลล์พยักหน้า “ใช่ พวกเขาต้องการ คุณขอให้สาวใช้ทำเพิ่มให้พวกเขาด้วย”
วิกกี้พยักหน้าทันที “ได้เลย“
เธอหันหลังและกำลังจะกลับเข้าไปในครัว
แต่เนลล์ก็พูดขึ้นว่า “อ้อ เกรกอรีฝากมาบอกว่าเขามีเรื่องจะคุยกับคุณ เขาจะรออยู่ที่ลานบ้านด้านนอก”
วิกกี้มองดูเนลล์อย่างสับสน
“ฉัน? เขาอยากคุยอะไรกับฉัน?”
เนลล์ฉีกยิ้ม "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
จากนั้นเนลล์ก็นึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง จนดวงตาของเธอส่องประกายแวววาวอย่างน่าทึ่ง
“หรือว่าเขากำลังจะทำเซอร์ไพรส์ให้คุณ? เอาล่ะ รีบไปกันเถอะ คุณต้องรีบไปดูเดี๋ยวนี้”
วิกกี้ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบาง ๆ
“คงไม่ใช่หรอก เขาไม่ใช่คนโรแมนติกแบบนั้น”
ถึงแม้ว่าเธอจะพูดเช่นนั้น แต่ฝีเท้าของเธอก็เดินไปเพื่อพบกับเกรกอรีอย่างรวดเร็ว
เนลล์เองก็อยากรู้เหมือนกัน เธอจึงเดินตามวิกกี้ไป
เมื่อพวกเธอเดินมาครึ่งทางและได้พบกับเจเน็ตที่ซึ่งสังเกตเห็นพวกเธอกำลังรีบไป เจเน็ตก็ถามด้วยความสงสัย “พวกคุณกำลังจะไปไหนกัน?”
เนลส์ตอบว่า “ฉันจะไปดูสิ่งที่น่าสนใจ”
สิ่งที่น่าสนใจ?
เจเน็ตชะงักก่อนจะกระโดดลงจากโซฟาแล้วตามพวกเธอไป
“สิ่งที่น่าสนใจ? ฉันไปด้วย!”
จากนั้นเรื่องที่ควรจะเกี่ยวข้องกับคนเพียงแค่สองคน ก็กลายเป็นกลุ่มคนที่วุ่นวาย
ปกติแล้วจะมีแสงไฟอยู่ทุกที่ แต่คืนนี้มันกลับมืดสนิท จนให้เธอรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในความมืด
วิกกี้รู้สึกกลัวเล็กน้อยทั้ง ๆ ที่เธอรู้จักสภาพแวดล้อมรอบตัวเธอดี แต่เธอกลัวความมืดจนทำให้อารมณ์ของเธอไม่คงที่
แต่ความกลัวของเธอนั้นก็อยู่ไม่นาน
เมื่อเสียงทุ้มต่ำของเกรกอรีดังขึ้น “เริ่มได้”
ทันใดนั้น สถานที่ก็สว่างไสว
ราวกับแสงที่เกิดจากโคมไฟ และไม่ใช่แสงจากโคมไฟเพียงแค่ดวงเดียว แต่เป็นโคมไฟดวงเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนที่กำลังลอยขึ้นจากพื้นดิน
พวกมันพุ่งผ่านเธอ ในขณะที่มันลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
วิกกี้ตกตะลึง เธอมองขึ้นไปบนฟ้าโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเธอก็ได้เห็นฝูงโดรน ที่บินวนอยู่บนท้องฟ้าและกำลังก่อตัวเป็นภาพ
ภาพนั้น…
หัวใจของวิกกี้เต้นระรัว
โดรนเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนเรียงกันอย่างสวยงามเพื่อสร้างภาพของช่วงเวลาที่เธอได้พบกับเกรกอรีเมื่อตอนที่เธออายุแปดขวบ
ทันใดนั้น เสียงของเกรอกอรีก็ดังขึ้น
“จำได้ไหม เราพบกันเมื่อตอนที่เธออายุแปดขวบ ในตอนนั้นฉันไม่เคยคิดเลยว่าเราจะต้องผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย”
“ฉันยังจำได้ ในตอนที่ฉันพบเธอครั้งแรก เธอมีผมเปียเล็ก ๆ สองเส้น ถึงแม้ว่าตัวเธอจะเล็ก แต่ทัศนคติของเธอก็ไม่เล็กอย่างแน่นอน เธอบอกฉันว่ามีตาและหูอยู่ทุกหนแห่ง และเธอก็เป็นหลานสาวของคุณปู่เกลน เธอบอกว่าฉันเป็นลูกศิษย์ของเขา ดังนั้นจึงหมายความว่าเราเป็นพี่น้องกัน แต่ฉันบอกกับเธอว่าฉันไม่อยากเป็นพี่ชายของเธอ”
“ในตอนนั้น เธอจึงเสียใจและร้องไห้ ถึงแม้ว่าฉันจะดูสงบนิ่ง แต่ภายในใจของฉันก็รู้สึกตื่นตระหนก เพราะฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงจะร้องไห้ง่ายดายเช่นนั้น”
ชายคนนั้นยิ้มบาง ๆ ในขณะที่เขานึกหวนถึงอดีต
ภาพที่สวยงามเหล่านั้นเปรียบเสมือนไวน์ที่ดีที่สุดในโลก การเก็บรักษาความทรงจำเหล่านั้นเอาไว้ มันช่างสวยงามและจะสวยงามยิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
เมื่อเสียงส่งสัญญาณดังขึ้นอีกครั้ง โดรนบนท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นภาพอื่นในทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก