เกรกอรีเองก็รู้สึกเหมือนกับวิกกี้
ก่อนหน้านี้เมื่อวิกกี้ได้หายตัวไป เขาจำเป็นต้องการยุติความบาดหมางกับตระกูลฟลินเดอร์เอาไว้ก่อน มันคงไม่แปลกที่เขาควรจะรู้สึกระมัดระวัง และไม่เป็นมิตรกับชายผู้นี้
ขณะที่เขานั่งอยู่ที่นี่ อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมรอบ ๆ หรืออีกฝ่ายที่ดูถ่อมตัวมากเกินไป จนเขาไม่ได้รู้สึกโกรธเลย
เจฟฟ์ยิ้มออกมาและพูดว่า “คุณดูเหมือนพ่อของคุณเลย”
วิกกี้ตกใจเล็กน้อย
“คุณรู้จักพ่อของฉันเหรอคะ?”
“อืม ผมรู้จัก”
เจฟฟ์พยักหน้า พลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ที่ตอนนี้เริ่มมีฝนตกปรอย ๆ ลงมา
ฝนตกปรอย ๆ ในฤดูใบไม้ร่วง ได้เพิ่มความรู้สึกเศร้าหมองให้กับวิวทิวทัศน์
เขาหรี่ตาลงและพูดกับเธอเบา ๆ ว่า “เขาเคยทำงานให้กับผมมาสิบห้าปีแล้ว เราเป็นเพื่อนสนิท และเหมือนกับเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน”
วิกกี้ขมวดคิ้ว
สัญชาตญาณของเธอกำลังบอกเธอว่า เขากำลังจะบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่เคยได้บอกใครมาก่อน
ตามที่คาดไว้ เธอได้ยินเสียงเขาถอนหายใจ
“น่าเสียดายที่เขาจากไปเมื่อตอนที่เขายังหนุ่มยังแน่น ผมไม่ได้เห็นหน้าเขา ก่อนที่เขาจะจากไปด้วยซ้ำ”
วิกกี้ถามว่า “คุณบอกว่าเขาทำงานให้คุณอย่างงั้นเหรอคะ? คุณคือใคร? แล้วเขาเป็นใครเหรอคะ? คุณทั้งคู่มีตำแหน่งอะไรในตระกูลฟลินเดอร์? แล้วเขาตายได้ยังไงคะ?”
คำถามมากมายของวิกกี้ ทำให้เจฟฟ์สะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เริ่มผ่อนคลายและเผยยิ้มออกมา
“ผมรู้ว่าคุณมีคำถามอยู่ในใจมากมาย แต่คุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรอก เพราะว่าผมมีเวลาให้คุณทั้งวัน คุณค่อย ๆ ถามผมทีละข้อก็ได้”
เมื่อเขาพูดแบบนี้ออกมา ทั้งวิกกี้และเกรกอรีต่างก็ตกใจ
ตอนแรกมันก็เป็นแค่การคาดเดา แต่หลังจากที่เขาพูดแบบนี้ออกมาแล้ว ความสงสัยของพวกเขาก็กลายเป็นความจริง
ใบหน้าของเจฟฟ์ยังคงเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เขาดูเหมือนจะอายุรุ่นราวคราเดียวกันกับเกรกอรี แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อแววตาอันอบอุ่นคู่นั้นได้จ้องมองมาที่เขา เขากลับรู้สึกว่าแววตาคู่นั้นเป็นของผู้เฒ่าที่ล่วงลับไปแล้วสองสามพันปี
เขายิ้มและพูดว่า “พ่อของคุณเป็นใคร ในเมื่อตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าผมเป็นใคร ดังนั้นผมจึงแน่ใจว่าคุณน่าจะเดาได้ไม่ยากว่าเขาเป็นใคร”
วิกกี้ขมวดคิ้ว
“ผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของคุณเหรอคะ?”
"ทายได้ไม่เลวนะ"
เขาหยุดจิบชาและพูดต่อ “เขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ฟลินเดอร์เช่นกัน ชื่อของเขาคือ ทริสตัน ฟลินเดอร์ เขาอยู่เคียงข้างผมตั้งแต่เด็กจนโต ผมปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นลูกชายและเพื่อน ทุกสิ่งที่เขาเรียนรู้ถูกสอนโดยผมโดยตรง ตอนแรกผมคิดว่าเขาจะคอยอยู่เคียงข้างผม ดูแลและคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ ซื่อสัตย์ต่อผม แต่สุดท้ายเขาก็ได้พบกับแม่ของคุณ”
“การแต่งงานทุกครั้งในตระกูลฟลินเดอร์จะต้องได้รับการอนุมัติจากครอบครัวเท่านั้น แต่แม่ของคุณไม่ได้มีพื้นเพของครอบครัวที่ดี ครอบครัวของเราจึงไม่เห็นด้วยที่พวกเขาจะแต่งงานกัน เขาจึงหนีไปอยู่กับแม่ของคุณ”
เขาพูดไปแล้วก็ยิ้มเจื่อน ๆ ไป
“อย่างที่รู้ ๆ กันว่า วัยรุ่นมักจะกล้าได้กล้าเสีย และเลือดร้อนอยู่เสมอ ผมเดาว่าเขาคงจะหุนหันพลันแล่น เมื่อผมส่งคนไปตามหาเขา และก็อย่างที่ผมได้คาดเอาไว้ เขาซ่อนตัวได้ดีมาก ผมจึงหาเขาไม่เจอ”
“ผมใช้เวลาตามหาเขาประมาณสามถึงห้าปี ก่อนที่เราจะพบตัวเขาในที่สุด แต่ช่างน่าเสียดายที่เราพบว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วเนื่องจากความเจ็บป่วย”
วิกกี้ขมวดคิ้ว
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง
เมื่อเจฟฟ์พูดจบ ภายในห้องก็เงียบกริบขึ้นมาทันที
วิกกี้กดริมฝีปากของเธอเอาไว้แน่น เกรกอรีจับมือเธอไว้ใต้ม้านั่งริมหน้าต่าง มือที่หนาและอบอุ่นของเขาโอบรอบมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่ง
เธอเงยหน้าขึ้นและจ้องไปที่เจฟฟ์
“แล้วที่คุณขอให้พวกเรามาหาถึงที่นี่ คุณต้องการจะทำอะไร?”
เจฟฟ์รู้สึกพอใจกับความคิดของเธอ แม้ว่าเธอจะเพิ่งได้ฟังเรื่องราวโศกนาฏกรรมของพ่อของเธอ แต่เธอก็ยังคงสงบนิ่งได้อยู่
ความใจเย็นและความฉลาด นี่คือคุณสมบัติที่เขาชื่นชมอยู่เสมอ
เขาเอนหลังพลางพูดอย่างง่าย ๆ “เรามาทำข้อตกลงกันเถอะ”
“ข้อตกลงอะไรคะ?”
“ผมต้องการให้คุณทั้งสองคนค้นหาของบางอย่างมาให้ผม ในขณะที่ผมก็จะจัดหายามาให้กับคุณ เพื่อไม่ให้อาการของโรคนี้กำเริบขึ้นมาอีก”
เมื่อเขาพูดจบ วิกกี้ก็รีบปฏิเสธทันควัน “ไม่ค่ะ ฉันไม่ทำ”
เจฟฟ์หรี่ตาลง “คุณปฏิเสธผม ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าผมจะให้พวกคุณไปหาอะไรมาให้งั้นเหรอ?”
วิกกี้พูดอย่างจริงจังว่า “ก็ในเมื่อคุณสามารถนั่งอยู่เฉย ๆ ที่นี่และสั่ง หลุยส์ ฟลินเดอร์ได้ นั่นหมายความว่าสถานะของคุณต้องเหนือกว่าเขาอย่างแน่นอน ดูจากอิทธิพลของตระกูลฟลินเดอร์ในไม่กี่ทวีป มันก็พอจะบอกได้แล้วว่ามีอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในวงการใต้ดิน หากเป็นสิ่งที่แม้แต่พวกคุณยังไม่มีปัญญาในการค้นหา แสดงว่าสิ่งนั้นคงเป็นสิ่งที่หายากมากอย่างแน่นอน”
“และตอนนี้คุณต้องการให้เราช่วยค้นหามัน แต่ค่าตอบแทนเดียวที่ฉันจะได้ คือยาที่ควบคุมการลุกลามของโรคของฉันแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันหาของสิ่งนั้นเจอ? ฉันจะยังคงรับยานี้ที่คุณได้ต่อไปทั้งชีวิตของฉันอยู่ไหมล่ะคะ?”
หลังจากที่เจฟฟ์ได้ยินแบบนั้น เขาก็รู้สึกแปลกใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาหลังจากนั้นทันที
"คุณนี่ช่างน่าสนใจจริง ๆ น่าสนใจมาก ๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก