เนลล์ยิ้มและพูดว่า "ยินดีต้อนรับสู่เมืองหลวงจ๊ะ!"
เธออ้าแขนและโอบกอดวิกกี้
วิกกี้ดีใจมากเช่นกัน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะพวกเขาจะได้รับตำแหน่งผู้นำในอีกไม่ช้าและอีกอย่างคง เป็นเพราะการได้พบกับเนลล์ครั้งนี้เป็นโอกาสที่น่ายินดีอยู่แล้ว
กิดเดียนยังคงอยู่ในสำนักงาน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถออกมาต้อนรับพวกเขาเป็นการส่วนตัวได้ แต่เขาได้โทรมาบอกล่วงหน้าแล้ว
พวกเขาทั้งสองคนได้แสดงออกถึงความเข้าอกเข้าใจและรอให้เขากลับมาจากที่ทำงานก่อน ถึงจะพูดคุยเรื่องสำคัญเหล่านั้นด้วยกัน
เมื่อพวกเขาได้เข้าไปในบ้าน น้าจอยซ์ก็ได้เตรียมอาหารอร่อย ๆ ไว้สำหรับพวกเขาแล้ว
เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับเกรกอรีและวิกกี้ครั้งสุดท้ายที่เนลล์ได้กลับมาจากเมืองลิน เธอได้นำอาหารพื้นเมืองจานพิเศษมากมายติดตัวเธอกลับมาด้วย และป้าจอยซ์ก็ประทับใจในสิ่งนั้น
เธอได้เจอพวกเขาเป็นครั้งแรก เธอรู้สึกว่าผู้ชายดูหล่อเหลาและผู้หญิงก็ดูสวยมาก พวกเขาสองคนยังดูมีออร่าที่สง่างาม และเป็นคู่ที่สวยงามพอ ๆ กับคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงลีย์
จากนั้นพวกเขาได้ไปที่ห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารมื้อกลางวัน เนื่องจากวีมอนด์น้อยและลิซซี่ยังคงอยู่ที่โรงเรียน จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขาที่จะได้ทานอาหารมื้อนี้อย่างเงียบ ๆ
หลังจากทานอาหารเสร็จ เนลล์ก็พาพวกเขาออกไปเดินเล่นในเมืองหลวง สำหรับเกรกอรีแล้วเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าในประเทศนี้ เพราะตระกูลของเขาตั้งอยู่ที่นี่
แต่ในทางกลับกันวิกกี้กลับเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาประเทศจีน
เขาทั้งสามคนเดินไปรอบ ๆ และหลังจากนั้นไม่นานรถก็ได้จอดที่ล็อบบี้ของเกรแฮม ทาวน์เวอร์
เนลล์พูดอย่างยิ้ม ๆ "ถ้าอย่างนั้น คุณต้องการจะเชิญพวกเราไปที่บ้านของคุณไหม?"
ถึงแม้ว่าเกรกอรีจะได้รับช่วงต่อในธุรกิจส่วนใหญ่ของตระกูลเกรแฮม แต่เขาก็ไม่ค่อยได้ไปที่เกรแฮม ทาวน์เวอร์ บ่อยมากนัก
นั่นเป็นเพราะเขายังคงมีความรู้สึกเกลียดชังที่ตระกูลเกรแฮม ได้ปฏิบัติต่อแม่ของเขาในอดีต
ถึงแม้ว่า แฮร์ริสัน เกรแฮมจะพยายามทำให้เขารู้สึกพึงพอใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ความเกลียดชังแบบนั้นจะไม่มีทางหายไปได้ในหนึ่งหรือสองวัน
ดังนั้น เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเนลล์สิ่งที่เขาทำคือเหลือบมองเธอก่อนที่จะพูดว่า "หากคุณต้องการที่จะไป คุณก็ไปเองเถอะ คุณคงจะไม่คุ้นเคยกับสถานที่นี้ใช่ไหม?"
เมื่อเห็นว่าเขามีอาการไม่พอใจเล็กน้อย เนลล์ก็หัวเราะออกมาเบา ๆ
“อืม ฉันคงไม่คุ้นเคยเหมือนกับคุณหรอก ไม่เป็นไรถ้าหากว่าคุณไม่อยากเข้าไปฉันก็ไม่ว่าอะไร ฉันแค่คิดเท่านั้นว่าในเมื่อวิกกี้ได้มาอยู่ที่นี่แล้วและในอนาคตเธอก็จะได้เป็นนายหญิงของที่นี่ มันไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับเธอหรอกเหรอที่จะตรวจสอบอาณาเขตของเธอ?”
เกรกอรีพึ่งได้คิดเรื่องนี้เมื่อเนลล์ได้กล่าวถึงมัน
เขารีบหันไปมองที่วิกกี้
วิกกี้ไม่รู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ภายในใจของเกรกอรี เขามีความขุ่นเคืองต่อตระกูลเกรแฮม ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการที่จะกดดันเขามากจนเกินไป
วิกกี้ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “เอาไว้ค่อยมาวันอื่นเถอะ เรายังมีสถานที่ที่จะต้องไปอีกเยอะ อย่าเสียเวลากันเลย”
เนลล์มองดูคู่รักที่ปรองดองสมานฉันท์ จากนั้นก็ส่ายหัวและถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“พวกคุณ… ทำตัวน่ารักและทำอย่างกับฉันไม่มีตัวตน เชอะ…”
วิกกี้เม้มริมฝีปากและยิ้ม
ในครึ่งวันนี้พวกเขาทั้งสามคนเดินเล่นไปรอบ ๆ จนถึงเวลา18:00 น. เมื่อมีรถมาจอดที่ล็อบบี้ของบริษัทลีย์
เนลล์ได้โทรหากิดเดียนเพื่อเช็คดูว่าเขาทำงานเสร็จแล้วหรือยัง? ถ้าหากเป็นอย่างนั้น เขาก็จะได้กลับไปบ้านพร้อมกันกับพวกเขา
ไม่นานกิดเดียนลงมาข้างล่างในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่ได้รับโทรศัพท์
เมื่อเขาได้ขึ้นรถแล้ว คณะของพวกเขาไม่ได้รีบกลับไปยังคฤหาสน์ แต่พวกเขาได้จองสถานที่ในบ้านเทารันที่อยู่ไม่ไกลมาก สำหรับอาหารมื้อค่ำ
หลังจากที่พวกเขานั่งลงแล้ว เนลล์ได้สั่งอาหาร และในขณะที่พวกเขากำลังนั่งรออาหารที่จะมาเสิร์ฟ พวกเขาก็พูดคุยกันถึงวัตถุประสงค์ของเกรกอรีและวิกกี้ที่มาเยือนประเทศจีน
ในเวลาต่อมา เมื่อเศรษฐกิจเริ่มมีการพัฒนาและเติบโตขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ คนหนุ่มสาวเป็นจำนวนมากได้เดินทางออกไปจากชนบท ทำให้คนในหมู่บ้านเหลือน้อยลง มันได้กลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่ามากขึ้นเรื่อย ๆ เหลือแค่เพียงคนที่ไม่มีทางออกเท่านั้น เต็มใจที่จะอยู่ในบ้านเกิดของตน โดยอาศัยการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยมือ เพื่อความอยู่รอด
เวลาเช้าตรู่เมื่อทั้งสี่คนได้มาถึง หมู่บ้านตระกูลมิลล์ จากคำแนะนำของชาวบ้าน พวกเขามาถึงคฤหาสน์ที่คุณปู่บรู๊คส์อยู่อาศัย
เนื่องจากเป็นคฤหาสน์แห่งเดียวที่มีในหมู่บ้าน คฤหาสน์ของตระกูลบรู๊คส์ จึงหาได้ไม่ยาก
มันเป็นอาคารอิฐขนาดใหญ่ที่มีผนังสีขาว ประตูถูกล็อคและไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้น หลังบ้านมีภูเขาและสนามหญ้าที่ไม่ได้ดูแล ต้นไม้และพืชส่วนใหญ่จึงเหี่ยวเฉา มันดูวังเวงจนน่าขนลุก จากจุดที่กลุ่มของพวกเขายืนอยู่ด้านนอกประตู
เกรกอรีเดินไปทางด้านหน้าและเคาะประตู
"มีใครอยู่ที่นั่นไหมครับ?"
ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากด้านใน
เขาพยายามหลายครั้งต่อหลายครั้ง แต่ก็เหมือนกับว่าไม่มีใครอยู่ข้างในนั้น ไม่ได้ยินเลยแม้แต่เสียงเดียว นับประสาอะไรกับเสียงตอบรับ
เกรกอรีหันไปหามัคคุเทศก์ในท้องถิ่นที่เขาจ้างมาชั่วคราวแล้วถามว่า "คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าคุณปู่บรู๊คส์เขาอยู่ในบ้าน"
มัคคุเทศก์เป็นชายวัยกลางคนที่ดูเรียบง่าย เขาเกาหัวด้วยความสับสน “เขาน่าจะอยู่ที่นี่ เขาแก่แล้วและสายตาก็ไม่ค่อยดี ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยออกไปข้างนอกและน่าจะอยู่บ้านในช่วงเวลานี้”
ขณะที่เขาพูดจบ มัคคุเทศก์ท้องถิ่นก็เคาะประตูด้วยความมุ่งมั่นและตะโกนออกไปเป็นภาษาท้องถิ่น
ในไม่นานก็มีเสียงตอบรับมาจากข้างใน
มันเป็นเสียงที่แก่ แหบแห้ง แต่รู้สึกมีพลัง
"หยุดเคาะได้แล้ว! จะเคาะทำบ้าอะไร!"
เมื่อคำพูดนั้นออกมา ประตูก็ถูกเปิดออกมาจากด้านใน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก