ทายาทอันดับหนึ่ง นิยาย บท 1

ณ โรงพยาบาลรัฐเมืองริเวอร์เดล

“ขอโทษนะครับ ช่วยหลีกทางหน่อย!” ฟิลิป คลาร์ค ที่กำลังอุ้มร่างที่ไม่ได้สติของเด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาล ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “คุณหมอ! คุณหมอ! เร็วเข้า! ช่วยลูกสาวของผมด้วย!”

เหล่าพยาบาลและหมอที่รีบวิ่งออกมารับร่างของเด็กสาวจากอ้อมแขนของฟิลิป และนำตัวเด็กเข้าห้องฉุกเฉินไป

“โอ้! คุณเข้าไปไม่ได้นะคะ!” นางพยาบาลในชุดสีฟ้าครามสวมหน้ากากอนามัยห้ามฟิลิปที่กำลังจะเข้าไปในห้องฉุกเฉิน

ในขณะนั้นเอง เสียงส้นสูงที่กระทบพื้นเซรามิคดังขึ้นมาถี่ ๆ จากทางด้านหลัง บีบเค้นหัวใจของเขาในทุกช่วงจังหวะที่ส้นสูงกระทบกับพื้นนั่น

“ฟิลิป คลาร์ค!” เสียงคำรามของผู้หญิงคนนึงดังขึ้น

‘เพี๊ยะ!’

ฝีมือตบอันหนักหน่วงเฉียบคมกระทบลงบนแก้มของฟิลิป ที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขาคือ วินน์ จอห์นสตัน ผู้มีสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธจัด น้ำตาเอ่อล้นในดวงตาคู่สวย “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของฉัน ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้คุณ!” น้ำเสียงของเธอเย็นชาและแฝงไปด้วยความเดือดดาล

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนไข้ที่ผ่านไปผ่านมาสองสามคนและผู้คนในโรงพยาบาลต่างตกใจ

ฟิลิปคอตก เขารู้สึกละอายใจ ไม่อาจที่จะอธิบายอะไรออกไปได้

“ฮึ่ม!” วินน์ พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา ความไม่พอใจและดูถูกเหยียดหยามฉายออกมาในแววตาของเธอ

ฟิลิปยืนก้มหน้าอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ราวกับเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำความผิด เขาแอบเหลือบมองหน้าผู้หญิงที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรจากตัวเขาสองสามครั้ง ผู้หญิงที่เขาเคยเรียกว่าเป็นภรรยาของเขา คนที่เขาเซ็นใบหย่ากับเธอแล้วเรียบร้อยและเธอก็สามารถที่จะหย่าขาดอย่าง เป็นทางการกับเขาได้ทุกเมื่อ

วินน์ จอห์นสตัน หญิงสาวที่สวยสดงดงาม รูปร่างของเธอราวกับถูกปั้นขึ้นมา สูง เพรียว มีกริยามารยาทที่ดีและการศึกษาที่เพียบพร้อม ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นหญิงสาวที่น่ารักที่สุดในมหาวิทยาลัยของพวกเขา เธอตกหลุมรัก ฟิลิป อย่างไม่ได้คาดคิด ปุบปับก็ตกลงแต่งงานกัน และก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวของเขาออกมา นั่นก็คือ มิล่า คลาร์ค

อย่างไรก็ตามชีวิตหลังแต่งงานไม่เป็นไปอย่างที่วาดฝัน หน้าที่การงานของฟิลิป ไม่ดีนัก แล้วธุรกิจของเขาก็ล้มละลายลง ลูกสาวของเขาก็เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด นั่นทำให้เงินเก็บของพวกเขาก็ร่อยหรอลง และในตอนนี้เขาเองก็ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นพนักงานส่งอาหาร

ในทางกลับกัน วินน์ เป็นรองผู้จัดการทั่วไปของแผนกการตลาดในบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง พ่อแม่ของเธอคนนึงเคยเป็นหัวหน้าแผนก ส่วนอีกคนเป็นคุณครูที่เกษียณอายุไปแล้ว

เรียกได้ว่าฟิลิปไม่ได้มีบทบาทอะไรเลยในตระกูลจอห์นสตัน และในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขาก็แทบจะไม่มีตัวตนเลยด้วยซ้ำ และเพราะฟิลิปทำให้วินน์ต้องถูดตัดออกจากตระกูล พ่อแม่ของเธอไม่ยอมสนับสนุนอะไรพวกเขาเลย

ผู้สูงวัยทั้งคู่บอกพวกเขาอย่างเด็ดขาดว่าพวกเขาจะช่วยดูแลค่ารักษาของหลานสาวของพวกเขาก็ต่อเมื่อ ฟิลิป และ วินน์ อย่าขาดกันเท่านั้น และหลังจากหย่ากันเด็กจะต้องกลายเป็นคนของตระกูลจอห์นสตัน

เรื่องยุ่ง ๆ นี้ดำเนินมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว

ประตูของห้องฉุกเฉินถูกผลักออกฟิลิปเห็นลูกสาวของเขาถูกเข็นออกมา เขาอยากจะพุ่งตัวเข้าไปหาเธอแต่วินน์ก็ไปถึงก่อนแล้ว เขาหยุดชะงักและมองลูกสาวตัวน้อยที่น่ารักของเขาจากไกล ๆ

มิล่าตัวน้อยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่ดวงตาของเธอกลับใสแจ๋วราวกับหินอัคนีสีดำมันวาว มือน้อยที่ขาวซีดยื่นออกมาหา “ปะป๊าคะ…”

ฟิลิปเดินเข้าไปหาและกุมมือเย็นของลูกสาวไว้ ก่อนจะปัดปอยผมบนหน้าผากเธอเบา ๆ ยิ้มก่อนจะพูดว่า “ป๊าอยู่นี่แล้วนะ”

“หม่าม้าคะ อย่าทะเลาะกันกับปะป๊าเลยนะ มันเป็นความผิดของมิล่า หนูอยากให้ปะป๊าพาหนูไปที่สวนสนุกเอง” มิล่าตัวน้อยที่เพิ่งจะสามขวบพูดออกตัวแทนป๊าของเธออย่างอ่อนแรง

วินน์ยิ้มก่อนจะตอบกลับ “ได้จ๊ะ ม้าจะฟังที่หนูบอก จะไม่ทะเลาะกับปะป๊าหรอกนะ”

“ฟิลิป คลาร์ค จ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยล่ะ” เสียงเย็นขัดจังหวะบทสนทนาของฟิลิปและลูกสาว

ฟิลิปหันไปมองหน้าวินน์ แต่เธอเพียงแค่จ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพาลูกไปที่ห้องผู้ป่วย

เกือบจะไปถึงแผนกจ่ายเงินผู้ป่วยใน ฟิลิปหยิบบัตรเครดิตของเขาออกมา

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่บัตรของคุณรูดไม่ผ่าน” นางพยาบาลพูดขึ้นอย่างเย็นชาในขณะที่เธอปลายตามองเขา

‘โอ้! นี่มันฟิลิป คลาร์ค นี่นา’ เธอคิด ชายที่สิ้นเนื้อประดาตัวที่คอยให้แต่ภรรยาทำหน้าที่จ่ายค่ารักษาแทน เขาจะขอร้องพ่อตาแม่ยายของเขาก็ได้แต่เขาก็ไม่ยอมทำ ช่างเป็นชายที่หยิ่งจองหองเสียจริง ไร้ความสามารถที่สุด!

“ไม่ผ่านงั้นเหรอ?” ฟิลิปฉุนเฉียว เขาทำหน้าบูดบึ้งและแสดงท่าทีอ่อนน้อมด้วยการโค้งหัวให้กับนางพยาบาลผู้นั้นก่อนจะถามขึ้น “คุณพยาบาล คุณให้เวลาผมซักสองสามวันได้ไหม?”

นางพยาบาลจ้องเขากลับอย่างเย็นชาด้วยสายตาเย้ยหยันและตอบกลับว่า “ถ้าคุณไม่มีเงินก็ไปเรียกภรรยาคุณมาสิ เพราะถึงยังไงคุณมันก็แค่แมงดาที่เกาะผู้หญิงกิน!”

“นี่คุณ!” สีหน้าของฟิลิปถมึงทึง

นางพยาบาลคนนั้นเพียงแค่กอดอกและเย้ยหยันเขา “คุณมีเวลาถึงวันพรุ่งนี้ถ้าคุณไม่สามารถจ่ายได้ การรักษาก็ต้องยกเลิกไป” พูดจบเธอก็หันหลังกลับแล้วไม่สนใจเขา หากต้องพูดอะไรกับเขาต่ออีกมันจะยิ่งทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงเปล่า ๆ

เธอข่มเหงคน ๆ หนึ่งเพียงเพราะเขาจนเนี่ยนะ? ฟิลิปกำมือแน่นด้วยความโกรธจัด เขารู้สึกขมขื่น

ในขณะที่เขาหันหลังกลับ เขาก็เห็นวินน์ยืนอยู่ข้างหลังเขา ออร่าแห่งความเย็นชาแพร่กระจายออกมาจากตัวเธอ ความเกลียดชังแสดงออกมาทางสีหน้าเย็นชาของเธอ

“วินนี่ ไม่ต้องห่วงนะผมจะไปหาเงินมาให้ได้” ฟิลิปฝืนยิ้มออกมา

อย่างไรก็ตามเงินเก็บของพวกเขาก็หมดลงไปแล้ว

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของวินน์ มือของเธอกำเป็นกำปั้น “ฟิลิป คลาร์ค ถ้าคุณยังเป็นลูกผู้ชายอยู่แล้วก็ ไปขอร้องพ่อกับแม่ของฉันซะ!”

“ผม…” ฟิลิปตัวแข็งทื่อ คำพูดของเขาจุกแน่นอยู่ที่คอ

“เฮ้อ!” วินน์ ยิ้มเหยาะก่อนจะปาดน้ำตา “ฉันรู้อยู่แล้ว คุณนี่ไม่เคยเปลี่ยนเลยสินะ ศักดิ์ศรีของคุณมันสำคัญมากกว่ามิล่า อย่างนั้นเหรอ?” เธอรู้ว่าในหัวเขากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนที่วินน์จะหันหลังให้กับเขา

ฟิลิปถอนหายใจอย่างท้อแท้ ไม่นานเขาก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนเรื่องการส่งอาหารบนมือถือของเขา เขารีบวิ่งไปที่ห้องผู้ป่วยเพื่อจะได้พูดคุยกับลูกสาวก่อนจะต้องจากไป

ก่อนที่เขาจะจากไปวินน์เตือนความทรงจำเขา “ฟิลิป คลาร์ค วันหยุดนี้เป็นวันเกิดของพ่อฉัน ถ้าคุณไม่อยากหย่าก็ไปที่งานซะแล้วไปขอร้องพ่อกับแม่ฉัน”

เธอไม่เหลือตัวเลือกอะไรให้เขาเลย ฟิลิปรู้ดีว่านี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่วินน์มีให้กับเขา

“ลาก่อน” รูบี้พูดอย่างเย็นชา

ไม่รอให้โฮเวิร์ดไล่ตามเขาได้ ฟิลิปรีบวิ่งออกมาจากบ้านเช่าเสียก่อน

หลังจากที่ประตูปิดลง เสียงโต้เถียงระหว่างรูบี้และโฮเวิร์ดยังคงดำเนินต่อด้านหลังประตูนั้น

ฟิลิปนั่งยองๆลงข้างทางโดยมีมือถืออยู่ในมือนึง และอีกมือถือบุหรี่ นั่งจมอยู่กับความคิดที่ข้างถนน ความจนนี่ช่างเหมือนบาปติดตัว คุณจะไม่สามารถก้าวต่อไปหรือทำอะไรได้เลยถ้าปราศจากเงิน

หลังจากตัดสินใจได้ ฟิลิปก็กดโทรออกไปยังเบอร์โทรที่เขาไม่เคยโทรเลยตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา

ไม่นานสายก็ติด

“ฮัลโหล”

“นายน้อย? นายน้อย นั่นคุณใช่ไหม? ในที่สุดคุณก็โทรหาผม” น้ำเสียงที่ลอดผ่านปลายสายออกมาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เป็นน้ำเสียงของคนมีอายุและเขากำลังสะอื้นอยู่

ฟิลลิปถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะพูดขึ้น “จอร์จ ผมต้องการเงิน คุณช่วยโอนเงินให้ผมแสนนึงได้ไหม?”

“โอ้ นายน้อย อย่าพูดเช่นนั้น ผมจะโอนให้คุณพันล้านเลยก็ได้ถ้าคุณต้องการ” ชายแก่ที่ปลายสายพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นแต่แล้วน้ำเสียงของเขาก็ดูเป็นกังวลขึ้นมา “แต่นายน้อย เนื่องด้วยเงื่อนไขที่คุณตกลงไว้กับนายท่าน ถ้าหากคุณต้องการใช้เงินหรือชื่อเสียงของตระกูล คุณต้องกลับมาและสืบทอดกิจการของตระกูล คุณช่วยมาที่บริษัทได้ไหม เพื่อที่เราจะได้คุยกัน?”

ฟิลิปช่างใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบ “ก็ได้ ผมจะไปที่นั่น”

“เยี่ยมเลย! นายน้อย ผมจะส่งคนไปรับคุณ” ผู้อาวุโสจอร์จ กล่าวด้วยน้ำเสียงยินดีปรีดา

“ไม่เป็นไรหรอกผมสามารถไปเองได้” ฟิลิป พูดก่อนจะถามขึ้น “โอ้ ใช่ ว่าแต่ให้ไปบริษัทไหนล่ะ?”

“เอเปค กรุ๊ป ผมจะคอยคุณอยู่ที่ห้องทำงานของผู้จัดการ” จอร์จกล่าว

หลังจากวางสาย เขาจ้องไปยังผู้คนที่เดินผ่านไปมาตรงหน้า

โอเค ผมจะเล่าให้พวกคุณฟังอย่างตรงไปตรงมาแล้วกัน ตัวผม ฟิลิป คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด! ตระกูลของผมมีทรัพย์สินอยู่ทั่วโลกและ 70% ของธุรกิจในโลกนั้นตระกูลของผมก็เป็นเจ้าของอยู่

ผมพยายามอย่างมากที่จะหลีกเลี่ยงการสืบทอดกิจการนี้ในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา ดังนั้นผมจึงหนีออกจากบ้าน หวังที่จะได้ใช้ชีวิตธรรมดา ๆ ของตัวเอง แต่วันนี้เอง โลกแห่งความจริงก็บังคับให้ผมต้องก้มหน้ายอมรับ

ถ้าหากผมไม่ทำงานให้หนักพอ ไม่มีเงินมากพอ ผมก็ต้องกลับไปรับมรดกมหาศาลนั่น

ไม่นาน ฟิลิปก็มาถึงที่ตึก เอเปก กรุ๊ป โดยสกูตเตอร์ มันเป็นตึกสูงตระหง่านกว่า 300 เมตร ตัวบริษัทเองถูกจัดให้อยู่ที่อันดับ 7 จากบริษัทชั้นนำของโลก 500 แห่ง! จากนิตยสาร ฟอร์จูน แต่ก็อย่างว่า ทุกบริษัทที่อยู่ในรายชื่อบริษัทชั้นนำของโลก 500 แห่ง บ้างก็เป็นของ ตระกูลคลาร์ค หรือไม่พวกเขาก็มีหุ้นส่วนอยู่ในนั้น

ระหว่างทางเดินเข้าไปที่ห้องรับรอง ฟิลิปก็ถูกเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งหยุดเขาไว้เสียก่อน “เฮ้ เฮ้ เฮ้ คุณน่ะ! ใครบอกให้คุณเดินดุ่ม ๆ เข้ามาในนี้ได้เลย? ออกไปเลยนะ ออกไป! คนส่งของไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในนี้ โทรขึ้นไปบอกใครสักคนให้ลงมาเจอคุณที่ด้านล่าง” หญิงสาวสวยในชุดยูนิฟอร์มสีดำขวางทางฟิลิปเอาไว้ ก่อนที่จะจ้องเขาอย่างขึงขัง เธอมีรูปลักษณ์ที่ภูมิฐานและเปล่งออร่าที่น่าเกรงขามออกมา

“นี่คุณจ้องอะไรของคุณ? น่ารังเกียจจริง พวกนักเลงหัวไม้! รีบ ๆ ออกไปซะ!” ลิลี่ ซิมมอนส์ ส่งสายตาเกลียดชังไปที่ฟิลิป คิดไปว่าเธอได้พบเจอคนส่งของมามากพอแล้วในชีวิตของเธอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง