เฮ้อ! ภรรยาของเขาสวยเกินไปทำให้ผู้คนมากหน้าหลายตามาตามจีบเธอ มันทำให้ฟิลิปปวดหัว
“เฮ้ เอเดนมาถึงแล้ว! เข้ามาสิ มานั่งลงข้างลุงจอห์นสตัน” มาร์ธาตื่นเต้นดีใจ เธอออกไปต้อนรับเขา “เธอเอาของขวัญมาด้วยทำไม? ไม่จำเป็นเลย เธอใจดีเกินไปแล้วแค่เธอมาที่นี่ก็ดีมากแล้ว”
“แต่นี่เป็นงานวันเกิดของลุงจอห์นสตันนี่ครับ” เอเดนยิ้มก่อนจะเดินเข้ามานั่งด้านข้างชาร์ลส์
ในตอนนี้เองก็ผู้คนต่างพากันจ้องมองมาที่ฟิลิปด้วยสายตาเยาะเย้ย ลูกเขยของตระกูลจอห์นสตัน คนนี้ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี! แม้แต่คนนอกยังได้นั่งข้างชาร์ลส์ จอห์นสตัน แต่ในฐานะลูกเขยเขากลับได้นั่งใกล้ประตู การปฏิบัติที่แตกต่างนี้แสดงออกอย่างเห็นได้ชัด
มาร์ธายิ้มอย่างจริงใจในขณะที่เธอจ้องมองไปที่เอเดนราวกับว่าเธอกำลังจ้องมองลูกเขยในอนาคตอยู่ “ต้องขอบคุณเอเดน ที่ช่วยจองห้องรับรองส่วนตัวนี้ ทำให้พวกเราได้มาทานอาหารที่เวอร์เทียส คอร์ทในวันนี้”
ผู้คนต่างมองไปที่เอเดนด้วยด้วยความเอ็นดู การที่จะจองห้องจัดเลี้ยงรับรองส่วนตัวที่ เวอร์เทียส คอร์ทได้นั้นจะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นและการที่จะเป็นสมาชิกที่นี่ได้ ก็จะต้องมียอดใช้จ่ายอย่างน้อยหนึ่งล้านต่อปี เขาช่างเป็นคนที่ร่ำรวยมหาศาลจริง ๆ
เอเดนโบกมือเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะดูจริงใจ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความพึงพอใจที่อยู่บนใบหน้าของเขาได้ “อ้า ไม่มีปัญหาหรอกครับ เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น บริษัทของเรามีกำไรเล็กน้อยและนั่นก็ต้องขอบคุณพ่อของผมที่ช่วยจัดการจองห้องนี้ให้”
เขาเพิ่งจะพูดอวดความรวยและตระกูลของเขา แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครฉีกหน้าเขา ในทางกลับกันต่างพากันชื่นชมเขาเป็นการใหญ่
“เอเดน เป็นชายหนุ่มมากความสามารถ”
“ใครก็ตามที่ได้เค้าไปเป็นลูกเขยจะต้องทำบุญมาดีได้แน่”
เอเดนได้รับคำชื่นชมและความเคารพนับถืออย่างรวดเร็ว แต่ฟิลิปที่นั่งเงียบอยู่มุมโต๊ะมาโดยตลอดกลับโดนดูถูก เขาทั้งสองเป็นชายหนุ่มเหมือนกันแต่กลับต่าง
“ในสายตาของฉัน ถ้าวินน์เลือกแต่งงานกับเอเดน เธอก็คงกลายเป็นภรรยาที่ร่ำรวยไปแล้วตอนนี้”
ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนพูดแต่สมาชิกทุกคนในตระกูลต่างก็พูดกดดัน เยาะเย้ยฟิลิป
“ดูสารรูปเจ้าคนไม่เอาไหนนั่นสิ เกะกะลูกตาชะมัด!”
“เจ้าคนไม่เอาไหนนั่นทำได้ก็แค่รับส่งอาหารเท่านั้นแหละ”
“ฉันได้ยินมาว่าลูกสาวของเขาต้องกินยาอยู่ตลอด เธอป่วยเป็นโรคหัวใจที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้”
คำพูดอันคุ้นเคยจากใบหน้าที่คุ้นชิน ทำให้สายตาของฟิลิปเย็นชา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปสองปีที่ผ่านมามันทำให้เขาเคยชินไปแล้ว
วินน์เองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาสักเท่าไหร่ ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวในขณะที่นั่งอยู่ด้านข้างสามีของเธอ เธอกระทืบเท้าฟิลิปอย่างเดือดดาลใต้โต๊ะ ก่อนจะจ้องหน้าเขาระบายความหงุดหงิดของเธอ
หลังจากที่โดนถากถางจากทุกคนมาตลอดฟิลิปก็สามารถนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นได้ราวกับว่าเขากำลังตกปลาอยู่ ท่าทีของเขาดูสงบนิ่ง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ได้ตอบกลับอะไรคนเหล่านั้นก็หันไปดื่ม ไม่ได้สนใจที่จะพูดถากถางเขาอีกต่อไป
และในตอนนั้นเอง สีหน้าท่าทางที่ดูราวกับเป็นห่วงเป็นใยของเอเดน เขาถามขึ้น “ฟิลิปผมมีตำแหน่งว่างที่บริษัท ทำไมคุณไม่มาช่วยที่บริษัทเราล่ะผมจะให้เงินเดือนคุณหกหรือเจ็ดพันต่อเดือน ผมว่ามันจะดีกว่าการที่คุณส่งอาหารนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก งานส่งอาหารของผมก็ไปได้ดี” ฟิลิปพูดขึ้นเสียงราบเรียบ ถ้าฉันบอกนายว่าฉันเป็นทายาทของกลุ่มบริษัททางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก นายจะต้องมาคุกเข่าต่อหน้าฉันตอนนี้ไปแล้วล่ะ สำหรับฉัน เงินก็เป็นเพียงแค่ตัวเลข
“อย่าไปสนใจเขาเลย เขาก็เป็นแค่ตัวปัญหา” เสียงตำหนิของมาร์ธาดังขึ้นมา ก่อนที่จะหันไปทางเอเดน ด้วยดวงตาเป็นประกาย “เอเดน แล้วเรื่องที่ฉันขอให้เธอช่วยช่วงก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
เอเดนรีบตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้ม “คุณป้าครับ คุณป้าสบายใจได้เลยผมจัดการให้แล้วเรียบร้อย ห้องจัดแสดงของสะสมของ ลุงจอห์นสตัน เรียบร้อยดี”
ชาร์ลส์ที่ก่อนหน้านี้ยังคงโกรธอยู่ รีบเงยหน้าขึ้นในทันทียิ้มออกมา “แอดดี้น้อยของเรา ขอบคุณมากเลยนะ มา มาดื่มกันหน่อย”
ทั้งสองชนแก้วกัน หลังจากดื่มเสร็จ เอเดนจงใจมองมาที่ฟิลิปด้วยหางตาของเขา ทำท่าทีหยิ่งยโสมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ก่อนที่สายตาของเขาจะจับจ้องไปที่วินน์ เขาชอบเธอมาเป็นเวลานาน แต่เธอกลับไปแต่งงานกับคนไร้ค่านั่น วินน์ จอห์นสตัน ผมจะทำให้คุณเห็นความแตกต่างระหว่างไอ้คนไร้ค่า ฟิลิปนั่น กับผม!
“วินน์ ลูกเห็นไหม? ว่าเอเดนใส่ใจพ่อของลูกมากแค่ไหน ผู้ชายแบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ นะลูก และคนอื่นก็เทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ” มาร์ธาพึงพอใจในตัวเอเดนเป็นที่สุด ชายหนุ่มมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย มีธุรกิจเป็นของตัวเองและมีคนรู้จักเยอะแยะในสังคม ถ้าลูกสาวของเธอแต่งงานกับเขาเธอจะต้องได้อยู่อย่างสุขสบายแน่นอน
ก่อนที่มาร์ธาจะส่งสายตาเกลียดชังไปที่ฟิลิป
วินน์รู้สึกทรมานหัวใจมากอยู่แล้วเธอจึงทำได้เพียงแค่ฝืนยิ้มมันอึดอัดออกมา
ในทางกลับกัน ฟิลิปไม่ได้สนใจเลยสักนิดพวกเขาอยากจะพูดอะไรก็พูดไป
“ชาร์ลส์ คุณพูดถึงเรื่องห้องจัดแสดงงานสะสมส่วนตัวของคุณอยู่หรือเปล่า?” เพื่อน ๆ ของชาร์ลส์ต่างพากันจ้องมองเขาด้วยความอิจฉา การสะสมวัตถุโบราณและภาพวาดเป็นเรื่องปกติในสังคมเล็ก ๆ ของพวกเขา อย่างไรก็ตามการที่จะสร้างห้องจัดแสดงงานสะสมส่วนตัวนั้นเป็นเรื่องไม่ธรรมดา
เมื่อชาร์ลส์มองเห็นสีหน้าอิจฉาของเพื่อน ๆ ของเขา เขาก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจในความช่วยเหลือของเอเดนมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันเขาก็ดูแคลนฟิลิปมากยิ่งกว่าเดิม เขาสงสัยไปว่าทำไมเขาถึงยอมให้วินน์แต่งงานกับชายหนุ่มคนนี้ตั้งแต่แรกได้นะ แต่ในตอนนี้เขาจะต้องบังคับให้ลูกสาวของเขาหย่ากับเจ้าคนไร้น้ำยานั่นให้ได้
“ชาร์ลส์ คุณจะต้องเป็นกลายเป็นคนดังในประเทศของเราเป็นแน่”
“คุณจะต้องจัดแสดงภาพวาดนี้ในห้องจัดแสดงที่คุณกำลังจะจัดตั้งขึ้นด้วยนะ พวกเราจะมาชม เพื่อสนับสนุนคุณ และผมคิดว่าเหล่าคนดังในริเวอร์เดลก็จะมาด้วยเช่นกัน” กลุ่มเพื่อนของเขาต่างพากันอิจฉา
ชาร์ลส์ตื่นเต้นเป็นอย่างมากลมหายใจของเขาติดขัด เขาถามขึ้น “แอดดี้ นี่เป็นภาพวาดของแท้ของ ทัง โบฮู! เธอจะต้องหมดเงินไปเยอะมากแน่เพื่อซื้อภาพนี้มา”
ทุกคนในห้องต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ในฐานะที่เป็นสี่ผู้เชี่ยวชาญในประเทศจีน ภาพวาดของแท้ของทัง โบฮู มีมูลค่ามหาศาล เพียงแค่ปีที่แล้วในงานการกุศลของเมือง ตัวอักษรวิจิตรโดยทัง โบฮู มีมูลค่าสูงถึงเจ็ดแสน!
“ไม่มากหรอกครับ ตราบใดที่มันทำให้ลุงชาร์ลส์มีความสุข” เอเดนมีมารยาทมากพอที่จะไม่พูดถึงราคา แต่ใครที่เข้าใจเรื่องภาพวาดย่อมรู้ดีว่าภาพนี้ราคาไม่ต่ำกว่าห้าแสน ชายหนุ่มจากตระกูลแกรนท์คนนี้ คงหมดเงินไปไม่น้อยในเลย
ในตอนนั้นเองท่ามกลางผู้คนมากมาย ลินน์จงใจถามขึ้นเสียงดัง “พี่เขยลูกพี่ลูกน้อง ฉันเห็นว่าคุณเอาของบางอย่างมาด้วย นั่นใช่ของขวัญให้คุณลุงหรือเปล่า?”
เมื่อพวกเขาเดินเข้ามา ลินน์สังเกตุเห็นว่าฟิลิปถือกล่องบางอย่าง ของขวัญจากชายไร้ประโยชน์นี่จะราคาเท่าไหร่กันเชียว? เมื่อเธอนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ มันก็ยิ่งทำให้ลินน์โกรธ
‘พรึ่บ’
ในพริบตาทุกสายตาในห้องก็จับจ้องมาที่ฟิลิปด้วยสีหน้าเยาะเย้ย พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะดูการแสดงนี้
ฟิลิปยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน “มันไม่ได้มีค่าสักเท่าไหร่หรอก ไม่จำเป็นต้องดูก็ได้”
“ฉันรู้ว่ามันไม่มีค่าสักนิด แต่ในเมื่อเป็นของขวัญให้กับคุณลุง ทำไมคุณไม่เอามาให้พวกเราดูหน่อยล่ะ คุณคิดว่าพวกเราจะหัวเราะเยาะคุณอย่างนั้นเหรอ” ลินน์เบิกตากว้าง ไม่สามารถปิดบังสีหน้าดูถูกของเธอไว้ได้ เธออยากจะเห็นเขาทำให้ตัวเองขายหน้า แล้วดูซิว่าเขาซื้ออะไรมันเป็นของขวัญ
“ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องจำเป็น” ฟิลิปจิบน้ำก่อนจะปฏิเสธ
ในสายตาของคนอื่นพวกเขาคิดว่าเขาคงรู้สึกผิด ของขวัญของเขาจะต้องไม่ต่างจากขยะชิ้นหนึ่งแน่
เอเดนรอคอยโอกาสที่จะได้ทำให้ฟิลิปขายหน้า เขาจึงพูดขัดขึ้น “ฟิลิปเอามันออกมาให้ลุงชาร์ลส์ ดูเถอะ ผมก็สนใจอยากจะเห็นว่าคุณเตรียมอะไรมาเช่นกัน”
“ใช่นำมันออกมาเลยสิ เอามาให้พวกเราดู” ผู้คนต่างพากันส่งเสียงเกรียวกราว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง