ความเข้าใจผิดและความกดดันทั้งหมดทั้งมวลที่เธอต้องทนทุกข์ทรมาณมาตลอดช่วงสองสามปีที่ผ่านมานั้นพังทลายลงไปในทันที
มันมากเกินกว่าที่เธอจะรับไหว เธอรัวกำปั้นเล็กของเธอลงที่หน้าอกของเขา ต่อว่าออกมาเบา ๆ “มันเป็นความผิดของคุณทั้งหมด ทำไมถึงไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้? ฉันเที่ยววิ่งไปขอร้องอ้อนวอนคนอื่นไปทั่ว คุณก็รู้นิว่าฉันไม่ใช่คนที่วิ่งไปขอร้องใครต่อใครมาก่อน? ฮึก…”
วินน์ปลดเปลื้องทุกอย่างที่มีอยู่ภายในจิตใจผ่านน้ำตาไหลริน ฟิลิปโอบกอดเธอแน่นกว่าเดิม “ขอโทษนะวินน์ เป็นความผิดของผมเอง ผมสัญญาว่าจะทำให้อนาคตของคุณและมิล่าสว่างสดใส ได้โปรดเชื่อผมเถอะนะ”
หลังจากนั้นวินน์เอ่ยถามฟิลิปขึ้นมาอย่างกังวล ดวงตาของเธอแดงก่ำ “ในเมื่อทะเลาะกับพ่อแม่ใหญ่โตเสียขนาดนั้น คุณยังจะมีเงินจ่ายค่าผ่าตัดให้มิล่าอยู่เหรอคะ?
ฟิลิปรู้สึกกระอักกระอ่วนและเขินอายเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น “ที่จริงแล้วผมมีบัตรเครดิตที่มีเงินในนั้นอยู่สองสามล้าน ผมไม่เคยเอาออกมาใช้เลยเพราะไม่อยากจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ ตอนนี้คุณไม่ต้องกังวลต่อไปแล้วนะ ผมจะจัดการทุกอย่างเอง”
วินน์พยักหน้าอย่างจำใจและไม่ได้ถามอะไรอีก
เธอรู้ว่ามันจะต้องมีเหตุผลอะไรบ้างอย่างที่ทำให้ฟิลิปปิดบังความจริงมาตลอดหลายปีนี้ และเพิ่งเปิดใจบอกเธอให้รู้ในวันนี้
ฟิลิปค่อนข้างหัวดื้อและหยิ่งในศักดิ์ศรี เธอรู้เรื่องนั้นดีตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกับเขา
สองสามปีที่ผ่านมา เขาเริ่มจากการเป็นชายหนุ่มที่หัวดื้อที่น่าภาคภูมิไปเป็นชายหนุ่มที่ยอมทำงานหนักและก้มหน้ารับคำดูถูกมากมาย เขายอมอดทนมาเป็นเวลานาน จึงไม่แปลกที่เขาเองก็คงจะรู้สึกเหนื่อยและเต็มไปด้วยบาดแผลต่าง ๆ
พูดกันตามตรง วินน์รู้สึกกังวลเล็กน้อยที่ต้องมารับรู้เรื่องทุกอย่างในครั้งเดียว
แม้ว่าจะจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่เธอก็พร้อมที่จะเชื่อในตัวฟิลิป
อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนไม่เอาถ่าน
ในคืนนี้ ฟิลิปพูดโกหกออกมา แต่ก็เพียงแค่ครึ่งเดียว
เขานอนนิ่งบนพื้น จ้องมองแผ่นหลังเพรียวบางของวินน์และใบหน้าแก้วตาดวงใจของพวกเขา มิล่าที่นอนหลับอยู่บนเตียง ฟิลิปยังคงว้าวุ่นอยู่ภายในจิตใจ เขาจะโกหกต่อไปอย่างไรดีหลังจากนี้? น่าปวดหัวจริง
‘วินน์คุณคงไม่รู้เรื่องนี้ แต่ครอบครัวของสามีคุณไม่ได้แค่ร่ำรวยมากกว่าครอบครัวตระกูลแกรนท์นิดหน่อยหรอก
ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะมาเทียบกับตระกูลของฟิลิปได้เลย
ถึงอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างจะต้องดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เช้าวันถัดมา ที่ห้องซักล้าง ฟิลิปมองไปที่วินน์และถามขึ้นอย่างกังวล “วันนี้คุณอยากกลับไปที่โรงพยาบาลไหม? ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ คุณแทบจะไม่ได้รับการตรวจเลยนะ”
วินน์ยิ้มอย่างใจเย็นก่อนจะพูดขึ้น “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จะเสียเงินไปทำไมกัน? เร็ว ๆ เข้ารีบป้อนข้าวมิล่า พ่อแม่ของฉันอยากให้พวกเราไปหาที่บ้านวันนี้ พวกท่านคงจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างถึงอยากเจอเรา”
ฟิลิปไม่ได้พูดอะไรต่ออีก เขาได้ติดต่อให้เห็นเฮนรี่ เทิร์นเนอร์เข้ามาดูแลอาการของมิล่าในช่วงบ่ายนี้แล้ว
นี่เธออยากจะใช้ทั้งชีวิตอยู่กับไอ้คนไร้ประโยชน์นี่น่ะเหรอ?
วินน์เองก็รู้สึกโกรธขึ้นมาไม่ต่างกัน ทำไมเเม่ถึงเป็นคนไร้เหตุผลแบบนี้?
เธอมองไปที่ฟิลิปอย่างสับสนวุ่นวาย เธอพยายามที่จะเชื่อในสิ่งที่ฟิลิปบอกเมื่อคืนนี้
“แม่คะ ฟิลิปเขาไปทำอะไรให้แม่กันนักหนาเหรอคะ? เพราะเขาจนอย่างนั้นเหรอ?” วินน์เอ่ยถาม
มาร์ธาโกรธมากเสียจนใบหน้าแดงก่ำ ชี้ไปที่ฟิลิปและสบถออกมา “ใช่แล้ว! ถ้ามันรวย ฉันจะปฏิบัติกับมันดีกว่านี้ราวกับเป็นลูกชายของฉันเลยล่ะ แต่โชคร้ายที่มันเป็นแค่คนไม่เอาไหน เป็นแค่ขยะไร้ค่า! แกเห็นสายตาที่ป้าพอลล่ามองมาที่พวกเราเมื่อคืนนี้ไหม? แกไม่รู้เหรอว่าฉันอยากแทรกแผ่นดินหนีขนาดไหน?
“วินน์ แกไม่ใช่เด็กแล้วนะ แกจะคิดที่จะฟังคำพวกเราบ้างได้ไหม? พวกเราไม่ได้เกลี้ยกล่อมแกตอนนั้น แล้วเป็นยังไง แกก็ต้องมาลงเอยแต่งงานกับไอ้ขยะไร้ประโยชน์นี่ แต่วันนี้พวกเราจะไม่หยุดจนกว่าแกจะยอมหย่า”
ในขณะที่มาร์ธาพูด เธอก็จ้องไปที่ชาร์ลส์อย่างดุดัน
ชาร์ลส์ไม่ได้อยากจะเข้ามาวุ่นวาย แต่ก็ยอมพูดเสริมขึ้นมาสองสามคำ “วินน์ รีบทำให้มันจบเถอะ ถ้าแกยอมหย่า พ่อจะให้เงินแกห้าแสนเป็นค่าผ่าตัดมิล่า”
ในตอนนั้นเอง ฟิลิปก็ยืนขึ้นและบอกกับมาร์ธาอย่างใจเย็น “แม่ครับ พ่อครับ พวกเราจะไม่หย่ากัน และไม่ต้องการเงินห้าแสนนั่นเหมือนกัน ผมมีเงินพอที่จะจ่ายค่าผ่าตัดมิล่าเองครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง