ในที่สุดรถเบนท์ลีย์ก็มาหยุดที่ ริเวอร์เดล เวอร์เทียส คอร์ท ร้านอาหารที่ดังที่สุดในเมือง สถานที่ที่มีเฉพาะเหล่าเศรษฐีแหละคนดังถึงจะมารับประทานอาหารที่นี่ได้ เวอร์เทียส คอร์ท กำหนดให้ผู้ที่จะมาทำการจองร้านจะต้องเป็นสมาชิกที่มีการใช้จ่ายขั้นต่ำอย่างน้อยหนึ่งล้าน เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์การเป็นสมาชิกเอาไว้ได้
และที่นั่น ผู้ที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าของ เวอร์เทียส คอร์ท คือนักธุรกิจชื่อดัง ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้ง กรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์ บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและส่งออกโดยจะเน้นที่ผลงานศิลปะ ในฐานะผู้บริหารของบริษัท แค่ตัวรัสเซลเองก็ร่ำรวยมีทรัพย์สินถึงสามพันล้าน และเขายังเป็นนักสะสมชื่อดังที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย คนดังที่มาอยู่ในชุมชนของนักสะสมท้องถิ่น
รัสเซลได้พาเหล่าผู้บริหารระดับสูงอีกกว่าสิบคน มายืนรอด้วยความเคารพที่ด้านหน้าทางเข้าร้าน เวอร์เทียส คอร์ท กับเขาด้วย เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้เหล่าผู้ที่มาทานอาหารที่ร้านไม่น้อย บางส่วนถึงกับอุทานออกมา
“นั่นไม่ใช่ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้งกรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์หรอกเหรอ? เขามายืนรอใครกัน มากันเยอะแยะ อลังการขนาดนี้?”
“ช่างเป็นภาพที่หาดูได้ยากนัก! นักธุรกิจพันล้านอย่างรัสเซลมายืนรออย่างนอบน้อมอยู่ที่ทางเข้าของร้าน เวอร์เทียส คอร์ท”
“จะมีคนสำคัญมาที่ร้านอย่างนั้นหรอ? เขาเป็นใครกันนะ ต้องไม่ได้มาจากริเวอร์เดลเป็นแน่”
เมื่อฟิลิปเห็นกลุ่มคนแต่งตัวดีมีชาติตระกูลยืนรอต้อนรับอยู่ที่ทางเข้าของ เวอร์เทียส คอร์ท เขานั่งขมวดคิ้วอยู่ด้านในรถเบนท์ลีย์ “ผมบอกว่าไม่ต้องการเป็นที่สนใจไม่ใช่เหรอ? การต้อนรับใหญ่โตนี่มันอะไรกัน?”
จอร์จยิ้มเจื่อนออกมา “นายน้อย ท่านประธานฟีลด์คงอยากจะสร้างความประหลาดใจให้คุณ”
“ประหลาดใจกะผีน่ะสิ! ผมไม่ชอบ” ฟิลิปพูดอย่างเย็นชา “ไปจอดรถที่ลานจอดรถแล้วบอกเพื่อนของคุณให้มาพบพวกเราเป็นการส่วนตัว”
“เข้าใจแล้วครับ นายน้อย” จอร์จพยักหน้า
รถยนต์เคลื่อนตัวออกไปยังลานจอดรถ
รัสเซลยืนรออยู่ที่ด้านหน้าเวอร์เทียส คอร์ท อย่างใจเย็นเฝ้ารอแขกคนสำคัญของเขาที่จะมาถึงในวันนี้ เขาบากหน้าไปขอร้องเพื่อนสำหรับโอกาสนี้
ด้านข้างเขาคือลูกชายของเขา ไทเลอร์ ฟีลด์ หนุ่มน้อยเอามือล้วงกระเป๋าก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “พ่อ นี่เรากำลังรอใครอยู่? พวกเขาจะหยิ่งยโสเกินไปแล้วนะ นี่มันก็ผ่านไปกว่า 20 นาทีแล้ว”
รัสเซลเหลือบมองหน้าไทเลอร์ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงเบา “ทำตัวให้ดี ถ้าพวกเขามาถึงแล้วแกสร้างความผิดพลาดอะไร ฉันจะจัดการกับแกทีหลัง”
ไทเลอร์พ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่พอใจ รู้สึกเศร้าใจขึ้นไปอีก เขาวางแผนที่จะไปคลับกับเพื่อนของเขา แต่พ่อกับลากเขามาที่นี่เพื่อมาพบกับนักลงทุนคนสำคัญ อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของชายคนนั้นว่าจะโผล่มาเสียที
ในขณะนั้นเอง รัสเซลก็ได้รับโทรศัพท์ เขาหมุนตัวกลับด้วยท่าทีจริงจัง “เอาล่ะทุกคนเข้าไปด้านในกัน พวกเขามาถึงที่นี่แล้ว”
มาถึงที่นี่แล้ว? หลายหลายคนต่างรู้สึกสับสนแต่ส่วนมากพวกเขารู้สึกหงุดหงิด
ไทเลอร์รู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก เขาบ่นอุบเบา ๆ “บ้าอะไรกันวะเนี่ย? คนคนนี้เป็นใครกัน? จนถึงตอนนี้ฉันก็รอมาเกือบทั้งวันแล้วแต่ไม่ยักกะเห็นแม้แต่เงาของพวกเขา” แต่ถึงกว่านั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาต่อหน้าพ่อของเขา ทำได้แต่เพียงย่นหน้าแล้วตามรัสเซล เข้าไปในร้านอาหาร
เมื่อรัสเซลได้รับโทรศัพท์เขาก็พาลูกชายติดตามไปด้วย รีบเร่งไปที่ห้องรับรองส่วนตัวตรงหัวมุม
เมื่อประตูถูกผลักออก ไทเลอร์ก็พบเข้ากับคนสองคนที่ยืนอยู่ด้านใน แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ฟิลิป
บ้าเอ้ย? นี่น่ะเหรอนักลงทุนคนสำคัญ? พ่อจะต้องตาบอดไปแล้วแน่ ส่วนไหนของชายคนนี้กันที่ดูภูมิฐาน เขาดูเหมือนพวกผู้อพยพมาใช้แรงงานข้างถนนมากกว่า
ไทเลอร์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา ความไม่พอใจของเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก ต้องขอบคุณชายคนนี้ที่ทำให้เขาไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน
ตรงข้ามกับรัสเซลที่ยื่นมือสองมือของเขาออกไปหา จอร์จที่ยื่นอยู่โดยใช้ไม้เท้าค้ำ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ท่านประธานโทมัส ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว”
จอร์จยิ้มและพยักหน้า ยื่นมือเพียงแค่ข้างเดียวออกไปเพื่อให้ชายหนุ่มจับ
รัสเซลหันหน้าไปทางชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างจอร์จ “และนี่คือ…?”
“นี่คือนายน้อยของผม นายน้อยคลาร์ค และเขายังเป็นนักลงทุนคนนึงอีกด้วย” จอร์จแนะนำพร้อมกับรอยยิ้ม
นาย...นายน้อย? จอร์จ โทมัส นายน้อยของประธานจอร์จ?
รัสเซลเป็นประธานของบริษัท เขามีทรัพย์สินมูลค่าสามพันล้าน และเขายังเป็นคนมีชื่อเสียงในเมืองริเวอร์เดลแห่งนี้ถึงแม้เขาจะไม่สามารถสู้กับจอร์จ ผู้ที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านได้ แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
เล่ากันมาว่าจอร์จ โธมัส ตั้งตัวขึ้นมาได้จากการทำงานให้กับตระกูลลึกลับที่มั่งคั่งตระกูลหนึ่ง และตระกูลนั้นก็เป็นผู้ครอบครองสินทรัพย์มากกว่าครึ่งหนึ่งในโลกนี้ นั่นก็หมายความว่านายน้อยของตระกูลคนนี้ก็เป็นคนที่น่ากลัวคนนึง เขาจะต้องเป็นคนที่น่าเกรงขามมากอย่างแน่นอน
เมื่อคิดได้ดังนั้น รัสเซลก็ยื่นมือออกไปจับมือเขาด้วยความประหม่า “ผมรัสเซล ฟีลด์ ผู้รับใช้อันต่ำต้อยคนนี้ มีตาหามีแววไม่ มองไม่ออกว่าคุณคือนายน้อยคลาร์ก ผมหวังว่านายน้อยจะยกโทษให้ผมได้นะครับ”
ฟิลิปพยักหน้าและจับมือกับเขาก่อนจะพูดขึ้น “ประธานฟีลด์ ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก เรามาเข้าเรื่องกันเลยเถอะ ผมได้ยินจากจอร์จมาว่าบริษัทของคุณต้องการเงินสนับสนุน บอกตัวเลขผมมาเลย”
เมื่อพวกเขาออกจากห้องไป ฟิลิปมองเห็นชายวัยกลางคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ เดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “นายน้อยคลาร์ก กรุณารอก่อนครับ ผมเป็นเจ้าของร้านอาหาร เวอร์เทียส คอร์ท แห่งนี้ชื่อ คาเวียร์ มอร์ริส ครับ”
ทั้งฟิลิปและจอร์จหยุดชะงักมองไปที่ชายวัยกลางคนด้วยความสับสน
เมื่อคาเวียร์เห็นจอร์จยืนนิ่งอยู่ด้านหลังฟิลิป เขาก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก มันเป็นเรื่องจริง! ประธานฟีลด์ พูดได้ถูกต้อง! ชายหนุ่มที่สามารถทำให้ชายที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองยืนอยู่ด้านหลังเขาได้ต้องเป็นคนที่พิเศษมากแน่
“นายน้อยคลาร์ก ประธานโทมัส ผมไม่ทราบว่าพวกคุณทั้งสองจะมาที่นี่จึงไม่ได้ออกมาต้อนรับคุณ นี่เป็นบัตรแพลทตินั่ม วีไอพี สำหรับห้องอาหารเวอร์เทียส คอร์ท ถ้านายน้อยคลาร์ก ไม่รังเกียจ กรุณารับไว้ด้วยเถอะครับ” คาเวียร์พูดขึ้น เขามีเป้าหมายที่จะตีสนิทกับฟิลิปในคืนนี้
ฟิลิปมองไปที่คาเวียร์ครู่นึง หยิบบัตรสมาชิกมาก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอบคุณมาก”
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มต้นเดินอีกครั้งปล่อยให้จอร์จจัดการเรื่องที่เหลือ
จอร์จยืนรอสักพักก่อนจะพูดขึ้น “มิสเตอร์คาเวียร์ นายน้อยของผมไม่ชอบเป็นที่จะเป็นจุดสนใจ ถ้าหากใครถาม…”
“เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแล้ว ท่านประธานโทมัส อย่าได้กังวลไป จะไม่มีใครนอกเหนือจากผมรู้ตัวตนของ นายน้อยคลาร์กเด็ดขาด” คาเวียร์ รีบรับปากยืนยันออกไปทันที
กลับมาที่ฟิลิป หลังจากออกมาจาก เวอร์เทียส คอร์ท เชาเลือกที่จะไม่นั่งรถเบนท์ลีย์ไปกับจอร์จ แต่จะเช่าจักรยานแทน อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาเพิ่งจะก้าวเท้าออกมานอกประตูร้าน เขาก็บังเอิญเจอเข้ากับวินน์ จอห์นสตัน!
ตายล่ะ! เขาจะอธิบายยังไงดีกับการที่มาเจอเธอที่นี่?
“ฟิลิป คุณมาทำอะไรที่นี่?” วินน์เดินนำกลุ่มชายหญิงที่แต่งตัวดูดีเดินเข้ามาที่ เวอร์เทียส คอร์ท
เธอยืนจ้องฟิลิปด้วยความงุนงงสงสัย อีกฝ่ายรีบอธิบายขึ้นอย่างกระวนกระวาย “ผมมาที่นี่เพื่อส่งของนะ”
ส่งของ? ส่งอาหารที่ร้านอาหารอย่างนั้นน่ะเหรอ?
วินน์ขมวดคิ้วเล็กน้อยสีหน้าของเธอเย็นชา เธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเมื่อมองเห็นร่างปวกเปียกของเขา และสิ่งที่ทำให้เธอหงุดหงิดมากที่สุดก็คือการที่เพื่อนร่วมงานของเธอต้องเจอฟิลิป
และตอนนั้นเองก็มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น “รองผู้จัดการ จอห์นสตัน คนส่งอาหารคนนี้เป็นสามีของคุณอย่างนั้นเหรอ? เขาดูก็งั้นงั้นแหละสำหรับแมงดาอย่างเขาน่ะนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง