ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ โรสโบกบัตรไปมาก่อนจะชำเลืองมองไปทางฟิลิป อย่างเย่อหยิ่งและพูดขึ้น “ช่วยตรวจสอบที ว่าบัตรใบนี้สามารถจองห้องอาหารส่วนตัวได้หรือเปล่า”
ทุกคนกลั้นหายใจรอคอยที่จะได้เห็นฟิลิปขายหน้า
หญิงสาวที่อยู่ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ รับบัตรไปรูดที่เครื่องและทันทีสีหน้าของเธอก็เป็นกังวลขึ้นมา เธอถามขึ้น “คุณผู้หญิงคะ นี่นี่บัตรของคุณงั้นเหรอ?”
เมื่อโรสเห็นดังนั้นเธอก็ส่ายหน้า ยื่นมือของเธอที่ทาเล็บสีแดงก่ำออกมา ชี้ไปที่ฟิลิปที่ถูกยืนห้อมล้อมและโดนหัวเราะเยาะอยู่ “ไม่ใช่ของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นของเขา” ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องเหลวไหลสิ้นดี! ฟิลิปทำให้ตัวเองต้องขายหน้า และวินน์ก็จะเสียหน้าไปด้วยเช่นกัน นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ! นี่มีชายที่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าอยู่ตลอดจริง ๆ งั้นเหรอ?
โรสมีความสุขเป็นอย่างมาก เธอจ้องมองไปที่วินน์ที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ อย่างมีความสุข ก่อนจะพูดเยาะเย้ยขึ้น “รองผู้จัดการจอห์นสตัน สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”
วินน์รู้สึกขายหน้าเป็นที่สุด เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างขุ่นเคือง เตรียมตัวที่จะตำหนิเขาแต่หญิงสาวที่อยู่แผนกต้อนรับก็เข้ามาขัดเสียก่อน เธอลุกขึ้นยืนด้วยความนอบน้อมต่อหน้าฟิลิป ก่อนจะพูดขึ้นอย่างสุภาพ “ท่านคะ คุณเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มของร้านอาหารเรา ห้องพิเศษได้ถูกเตรียมไว้ให้คุณแล้ว กรุณาตามดิฉันมาได้เลยค่ะ”
เสียงหัวเราะเยาะ ถากถางรอบ ๆ พวกเขาเงียบลงในทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทุกคนถึงกับตั้งตัวไม่ทัน
เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น? ห้องพิเศษยังงั้นเหรอ…?
โรสเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมา เธอชี้ไปที่ฟิลิปอย่างร้อนรนก่อนจะพูดเหน็บ “เฮ้ เฮ้ เฮ้ นี่คุณดูผิดไปหรือเปล่า? เขาเนี่ยนะจะเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มของร้าน?”
“ดูให้ดีสิ เขาเป็นพนักงานส่งอาหาร เป็นแค่แมงดาเกาะผู้หญิงกินเท่านั้น! เขาจะเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มได้ยังไง?”
เกวินเองก็ตกตะลึงจนถึงขั้นพูดไม่ออก เขาเตรียมคำพูดที่จะเยาะเย้ยถากถางไว้มากมาย! แต่เมื่อความจริงที่ว่าฟิลิปเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มถูกเปิดเผยออกมา มันทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนบางสิ่งจุกอยู่ที่คอ
วินน์มองไปที่พนักงานหญิงรู้สึกสับสน เธอหันกลับมาจ้องฟิลิป นี่สามีของเธอเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มของเวอร์เทียส คอร์ทจริง ๆ งั้นเหรอ? เธอเพิ่งจะได้ยินจากเกวิน ว่าแค่สมาชิกธรรมดาก็ต้องมียอดใช้จ่ายต่อปีหนึ่งล้าน แล้วสมาชิกระดับแพลทตินั่มจะไม่ต้องใช้จ่ายอย่างน้อยสองสามล้านงั้นเหรอ?
พนักงานสาวยิ้มอย่างสุภาพก่อนจะพูดขึ้น “ฉันไม่ดูผิดหรอกค่ะ นี่เป็นบัตรสมาชิกแพลทตินั่ม และเจ้าของร้านของเราก็ทำบัตรนี้ออกมาเพียงแค่แปดใบเท่านั้นและท่านผู้ถือบัตรแต่ละท่านก็จะมีห้องส่วนตัวที่ถูกจองไว้เป็นของพวกเขาเอง”
ทุกคนต่างอ้าปากค้าง ห้องรับรองส่วนตัวต่อผู้ถือบัตรหนึ่งคนงั้นเหรอ? นี่มันการบริการระดับพระราชาแล้ว! นี่มันใช่สามีไร้น้ำยาของวินน์จริงงั้นเหรอ?
“ท่านคะ นี่บัตรของคุณ กรุณาตามฉันมาได้เลยค่ะ” พนักงานพูดอย่างนอบน้อม
ฟิลิปรับบัตรคืนมา ก่อนจะจ้องไปที่ฝูงคนที่กำลังจ้องเขาด้วยดวงตาเบิกโพลง พร้อมกับกัดฟัน เขาอธิบาย “นี่ไม่ใช่บัตรของผมหรอก มันเป็นของเจ้าของบริษัท เจ้านายของผม ผมแค่มาที่นี่เพื่อจองให้เขาเท่านั้น”
ฟิ้ว! เมื่อได้ยินที่ฟิลิปอธิบาย เกวินและโรส ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นี่ก็เป็นแค่เรื่องของพนักงานที่เอาบัตรเจ้านายมาใช้สินะ บ้าเอ๊ย! เข่าของโรสถึงขั้นอ่อนยวบไปด้วยความตกตะลึงเสียแล้วด้วยซ้ำ
เกวินส่งสายตาโกรธเคืองไปยังฟิลิป ก่อนจะพูดเหยียดหยามเขาขึ้นมาอีก “ฉันก็คิดอยู่แล้วเชียวที่แท้ก็เป็นแค่การโฆษณาหลอก ๆ”
ได้ยินดังนั้นคนอื่น ๆ ต่างพากันหัวเราะเยาะ ในเมื่อห้องก็ได้ถูกจองไว้แล้วก็คงจะเปล่าประโยชน์ถ้าเกิดไม่ใช้มัน
ฟิลิปไม่ได้อธิบายอะไรอีก เขาเพียงแค่กระซิบกับวินน์เบา ๆ “พาพวกเขาไปกินข้าวเถอะ ผมจะกลับก่อน” โดยไม่รอให้วินน์โน้มน้าวให้เขาอยู่ต่อ ฟิลิปก็เดินออกไปจาก เวอร์เทียส คอร์ท พร้อมกับกล่องรูปภาพในมือเสียก่อนแล้ว
ถึงแม้วินน์จะรู้สึกแย่เป็นอย่างมากแต่เธอก็ไม่สามารถต้านทานเสียงเรียกร้องของเพื่อนร่วมงานของเธอได้ พวกเขาเดินตามพนักงานไปที่ห้องรับรองส่วนตัว
เกวินและโรสไม่ได้รู้สึกอิ่มเอมใจกับอาหารมื้อนี้มากนักด้วยเพราะสามีไร้ประโยชน์ของวินน์เป็นคนจองห้องมาได้
หลังจากออกมาจาก เวอร์เทียส คอร์ท ไม่นาน ฟิลิปก็ได้รับข้อความสั้น ๆ จากวินน์: ขอบคุณนะ
ฟิลิปจ้องมองข้อความก่อนจะยิ้มออกมาแล้วตอบกลับไป: ไม่เป็นไร
ฟิลิปยังคงรู้สึกผิดต่อวินน์ เพราะแท้ที่จริงแล้ว เขาเป็นทายาทของกลุ่มสถาบันทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลกแต่เป็นเพราะเขาไม่เต็มใจที่จะสืบทอดธุรกิจของตระกูล เขาจึงมาที่เมืองริเวอร์เดล เพื่อที่จะลองใช้ชีวิตการเป็นคนจนดู
แล้วเมื่อไหร่ที่เขาจะบอกวินน์เรื่องนี้ดี? บางทีอาจจะต้องรอไปอีกสักพัก
หลังจากเช่าจักรยานเสร็จ ฟิลิปก็มุ่งตรงไปที่โรงพยาบาล
ระหว่างทางไปที่นั่น ฟิลิปเลี้ยวขวาและแล้วรถมอเตอร์ไซต์ก็พุ่งตรงมาทางเขา
เสียงเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซต์ดังเข้ามาในหูของเขาและในทันใดนั้น ฟิลิปรู้สึกถึงลมแรงที่ด้านข้างของเขา ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์แฉลบไปด้านขวาตามมาด้วยเสียงชน คนขับและรถล้มลงไปที่พื้นหญ้าด้านข้างถนน
“โอ้ ไม่นะ!” ฟิลิปโยนจักรยานของเขาออกไป ก่อนจะรีบวิ่งไปดูว่าคนขับและคนซ้อนบาดเจ็บหรือเปล่า
ชายหนุ่มและหญิงสาวปีนขึ้นมาจากพื้นหญ้า กระโปรงดำของหญิงสาวขาดรุ่งริงจากการที่โดนกิ่งไม้เกี่ยว เธอดูหวาดกลัว ส่วนชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวก้มตัวลง “นี่คุณตั้งใจจะฆ่าตัวตายหรือยังไง? บ้าเอ๊ย!”
ฟิลิปรีบขอโทษ “ผมขอโทษ ผมไม่ทันเห็นคุณ พวกคุณเป็นอะไรหรือเปล่า? ต้องการที่จะไปโรงพยาบาลไหม? ผมจะจ่ายค่าเสียหายของรถคุณให้เอง”
เจคอบคำราม “สามแสนจ่ายมา! ไม่งั้นฉันจะเรียกพวกของฉันมาเพิ่ม”
เรียกพวกมางั้นเหรอ? ฟิลิปไม่กลัวสักนิด
“เรียกพวกเขามาสิ” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็น
“ก็ได้ ไอ้เศษสวะจอมอึด! อย่าวิ่งหนีหางจุกตูดทีหลังแล้วกัน” เจคอบข่มขู่พลางชี้หน้าฟิลิป ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เขาพูดขึ้น “พี่ไคล์ พาพวกของพี่มาที่ ซิลเวอร์สโตนที”
หลังจากวางสาย เจคอบจ้องไปที่ฟิลิป ก่อนจะพูดขึ้น “พี่ชายของฉันจะมาที่นี่เร็ว ๆ นี้เตรียมตัวอ้อนวอนไว้ได้เลย”
ฟิลิปมีท่าทีเฉยชา ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหา แอกเนส ซัมเมอร์ “แอกเนส พาคนของเรามาที่ซิลเวอร์สโตนที มากเท่าไหร่ยิ่งดี”
หลังจากที่เขาวางสาย เจคอบถุยน้ำลายออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า! แกก็เรียกพวกของแกมาด้วยงั้นเหรอ? น่าขำเสียจริง! อยากจะเห็นจริง ๆ แกเรียกใครมาได้”
ลินน์เพียงแค่เฝ้ามองอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ฟิลิปหันไปมองเธอสองสามครั้ง ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
ที่ โกเฟอร์การบริการ แอกเนสรีบส่งข่าวหลังจากได้รับโทรศัพท์จากฟิลิปในทันที
และในเวลาไม่นาน เหล่าพนักงานส่งอาหารในเมืองภายใต้บริษัทโกเฟอร์ การบริการก็พากันขึ้นรถสกูตเตอร์สีแดง สวมเสื้อกั๊กและหมวกกันน๊อกสีแดงสด ขับผ่านถนนและตรอกซอกซอยมุ่งหน้ามาที่ซิลเวอร์สโตน มองจากไกล ๆ ดูราวกับจุดสีแดงเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนที่กำลังมุ่งหน้าไปยังซิลเวอร์สโตนช้า ๆ
กลับมาที่ฝั่งของฟิลิป คนที่เจคอบเรียกมาได้มาถึงแล้ว
ฮาร์ลีย์-เดวิดสันสี่คัน คนทั้งหมดแปดคนมีทั้งชายและหญิง ทุกคนต่างแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าของไบเกอร์แลดูดีมีสไตล์
พวกเขาขับมาที่นี่ด้วยรถมอเตอร์ไซต์ที่ส่งเสียงดังจนแทบจะทำให้หูหนวก หัวหน้ากลุ่มคือชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีสูง 1.8 เมตร หุ่นล่ำ ราวกับนักกีฬาและหล่อเหลาเป็นอย่างมาก
“เจคอป เกิดอะไรขึ้น? รถของนายกลายเป็นขยะไปซะแล้ว” ไคล์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าน่าสะพรึงกลัว พร้อมกับพวกของ เขาเหลือบตามองฟิลิป ก่อนจะเดาเหตุการณ์ออกได้อย่างง่ายดาย “แกทำอย่างนั้นเหรอ?” ไคล์ถามขึ้นด้วยเสียงทุ่มต่ำพร้อมกับจ้องหน้าฟิลิป
ฟิลิปนิ่งเงียบ
“พี่ไคล์ เป็นเขานั่นแหละที่ทำ อย่าปล่อยเขาไปจนกว่าจะได้เงินสามแสนเชียวนะ” เจคอบ ตะโกนขึ้นมาจากด้านหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง