"การจุดไฟจากอากาศก็คือการทำให้พลังวิชาของตนและพลังของฟ้าดินนั้นมีความสัมพันธ์อย่างต่อกัน จากนั้นก็ใช่ชี่แท้มาดึงพลังธรรมชาติเหล่านั้นเพื่อการใช้งานของตนเอง การจุดไฟ ก็แค่เป็นเพียงสิ่งที่ง่ายที่สุดในนั้นเท่านั้นเอง"
"เท่าที่ฉันรู้ ปรมาจารย์โบราณเหล่านั้นสามารถพลิกภูเขามหาสมุทร กลืนกินดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สายตาที่ขุ่นมัวของชายชราก็ปรากฏแววกระหายใคร่ครวญ สำหรับพวกเขาแล้ว นี่คือพลังวิชาขั้นสุดท้าย แต่น่าเสียดายที่คนแทบจะ 100% ไม่สามารถครอบครองพลังนี้ได้
แม้แต่ในโลกของการฝึกตน ก็ไม่มีผู้ฝึกตนเช่นนี้มานานนับพันปีแล้ว
ไม่เพียงแต่ต้องมีพรสวรรค์สูงส่งเท่านั้น แต่ยังต้องมีพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก อีกทั้งยังต้องมีโชคและพลังจากธรรมชาติส่งเสริมด้วย
"แต่ผู้อาวุโส ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จะถูกกลืนกินไปได้อย่างไรกัน" เฉินเกอรู้สึกอับอายอยู่บ้าง
เขาเป็นปัญญาชนยุคใหม่ที่ได้รับการศึกษาภาคบังคับมาตั้งเก้าปี เขารู้ว่าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์นอกโลก หากผู้ฝึกฝนสามารถกลืนกินดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ อย่างนั้นก็แทบจะเป็นการละเมิดกฎพื้นฐานที่สุดไปแล้ว
"เพี๊ยะ!"
"นายคิดว่าฉันโง่ใช่ไหม นี่ก็เป็นแค่การดัดแปลงคำที่ธรรมดาๆก็เท่านั้นเอง!"
ใครจะคาดคิดว่า หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินเกอ ชายชราก็มีสีหน้าโมโหอยู่บ้าง เขาเหยียดมือออกไปและตบหัวเฉินเกอ
"สูด..." หลังจากได้รับความเจ็บปวด เฉินเกอก็อดไม่ได้ที่จะกุมศีรษะของตนและสูดหายใจสองสามครั้ง
"ตราบใดที่นายสามารถฝึกฝนจนมีพลังวิชาในระดับหนึ่ง นายก็ย่อมรู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงของพลังงานธรรมชาติรอบตัวนาย นายรู้ว่าข้างนอกฝนตกหนักมาหลายวันใช่ไหม" ชายชราราวกับไม่ได้รับผลกระทบใดจากคำพูดของเฉินเกอ
"ผมรู้" เฉินเกอพยักหน้า จากนั้นก็ลูบเสื้อผ้าของเขาที่แขวนอยู่ข้างๆ ซึ่งตอนนี้ผิงไฟจนแห้งหมดแล้ว
"ดูฝ่ามือฉันสิ" ชายชรายื่นมือแห้งเหี่ยวของเขาไปตรงหน้าเฉินเกอ
เฉินเกอจับจ้องไปที่มัน
จากนั้นเขาก็เห็นชายชราขมวดคิ้วและออกแรงที่ฝ่ามือเล็กน้อย ในไม่ช้า เฉินเกอก็รู้สึกได้ถึงความชื้นรอบๆตัวเขา จากนั้นภายใต้การจับจ้องของเขา หยดน้ำก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของชายชราและกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็กในเวลาต่อมา
แหล่งน้ำกำลังสะสมตัวอย่างต่อเนื่อง และไหลหยดจากฝ่ามือของชายชราตกลงบนพื้นโคลนข้างล่าง
"นี่ก็เป็นพลังงานธรรมชาติด้วยหรือ?" เฉินเกอรู้สึกตกตะลึงอยู่บ้าง เขาไม่เคยเจอวิธีแบบนี้มาก่อน
"แน่นอน พลังวิชาของฉันสามารถสะท้อนกับพลังธรรมชาติรอบตัวได้ เพียงแค่อาศัยพายุฝนที่ตกอยู่ภายนอกของวันนี้ ขอแค่ฉันต้องการ ก็จะสามารถทำให้น้ำท่วมถ้ำได้ในทันที นายอยากดูไหม?" ชายชราปัดๆมือและถามด้วยรอยยิ้ม
"อย่าเชียว!" เมื่อได้ยินดังนั้นเฉินเกอก็ปฏิเสธทันที
ถ้ำนี้เป็นของทรัพย์สินส่วนตัวของเขาอยู่แล้ว ถ้ามันถูกจมไป ไม่ต้องพูดถึงสมบัติในนี้ เกรงว่าแม้แต่ความลับของเกาะโยวหลงเขาก็ไม่มีหนทางเสาะหาแล้ว
"ไม่ต้องตกใจไป อาศัยพลังเทพจิตเก้าภพในตัวนาย ขอแค่พลังวิชาของนายมาถึงในระดับของฉัน นายก็จะแข็งแกร่งกว่าฉันไม่น้อย ฉันแค่สามารถระดมพลังธรรมชาติภายในรัศมีสิบกิโลเมตรเท่านั้น บางทีนายอาจระดมได้ในรัศมีร้อยกิโลเมตร"
เมื่อแสดงความสามารถเหล่านี้ ชายชราก็ไม่ได้เก็บซ่อนอะไรไว้อีก
เขายื่นมือไปทางชั้นวางหนังสือ จากนั้นหนังสือบนชั้นหนังสือก็บินมาหาเขาราวกับอยู่ภายใต้แรงฉุดบางอย่าง
"ตุบ!"
"ไม่มีปัญหาครับ" พ่อบ้านรับคำ จากนั้นก็จากไปทันที
ผ่านไปครู่หนึ่ง ไป๋เสี่ยวเฟยก็เคาะประตูและเข้ามา ใบหน้าของเขาดูย่ำแย่อย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ได้รับข่าวใด ๆ ของเหลียงลู่มาเป็นเวลาสองวันแล้ว จนถึงขั้นสงสัยอยู่ในใจว่าเธอพบเจอกับความโหดร้ายอะไรไปแล้วใช่ไหม
"คุณคือคนแซ่ไป๋ใช่ไหม?" เมื่อเห็นไป๋เสี่ยวเฟยเข้ามา โกวหลินเทียนก็ถาม
"ใช่" ไป๋เสี่ยวเฟยพยักหน้า
"นี่คือกล้องวงจรปิดทั้งหมดของคฤหาสน์เราในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา วันนี้ทั้งวัน ฉันได้ให้ลูกน้องในตระกูลไปตรวจสอบดูมาหมดแล้ว เราไม่เจออะไรผิดปกติเลย แทบจะสามารถตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้ง สถานการณ์ของเหลียงลู่ไม่ได้เกิดจากภายในตระกูลโกว ของเรา "
โกวหลินเทียนชี้ไปที่ลูกน้อยซึ่งกำลังนั่งอยู่มองหน้าจอคอมพิวเตอร์ภาพอย่างไม่หยุด และเอ่ยพูดขึ้น
"ไม่ใช่ตระกูลโกวของคุณ อย่างนั้นน่าจะเป็นเรื่องอะไรกัน?" ไป๋เสี่ยวเฟยเชื่อในสิ่งที่โกวหลินเทียนพูด นั่นเพราะในการพูดคุยเมื่อวานนี้ เขาเองก็อยู่ที่นั่นด้วย
"ตอนนี้ยังไม่รู้ ฉันเพิ่งสั่งพ่อบ้านไปให้เขาอาศัยตระกูลและสมาคมของหนานเยว่ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเราช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ ฉันคิดว่าน่าจะมีเบาะแสบางอย่างบ้าง" โกวหลินเทียนลุกขึ้น จากนั้นก็เทน้ำแก้วหนึ่งให้ไป๋เสี่ยวเฟย
"ขอบคุณลุงโกว" ไป๋เสี่ยวเฟยรับมาด้วยสองมือ จากนั้นก็พยักหน้าขอบคุณ
"นายอย่ากดดันมากเกินไป ถ้าเหลียงลู่เกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไรขึ้นมา และเบื้องบนของนายคิดจะตำหนินายล่ะก็ ตระกูลเหลียงและฉันจะช่วยเป็นพยานให้ว่านายได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว" เมื่อเห็นว่าไป๋เสี่ยวเฟยดูซีดเซียวอยู่บ้าง โกวหลินเทียนก็อดไม่ได้ที่จะตบไหล่และเอ่ยแนะนำเขา
อายุของไป๋เสี่ยวเฟยใกล้เคียงกับลูกชายคนสุดท้องของเขาพอดี
"ไม่ คุณหนูเหลียงลู่จะไม่มีวันเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นแน่" ใครจะคิดว่า หลังจากได้ยินคำพูดของโกวหลินเทียน ดวงตาของไป๋เสี่ยวเฟยก็เปลี่ยนเป็นเฉียบคมขึ้นมา แม้แต่ถ้วยน้ำก็ถูกเขาบีบจนส่งเสียงดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...