"งั้นก็ดี" เฉินเกอพูด
"นายอยากซื้อของอะไรเหรอ?" เฉินเกอถามแบบนี้ โกวหลินเทียนจึงสงสัยเล็กน้อย
"ไม่อยากซื้ออะไร ไปดูสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากัน หากมีของดีอะไร ผมก็จะประมูลลงมา" เฉินเกอส่ายหน้า เดิมทีเขาก็ไม่สนใจงานประมูลนี้อยู่แล้ว แต่คิดได้ว่าห้าปีมีหนึ่งครั้ง รู้ว่าในงานอาจมีของประมูลล้ำค่ามากมาย หากเจอที่เหมาะสม ก็จะเอาทันที
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สำหรับเฉินเกอเงินเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น
"อย่างงั้นฉันต้องเตือนนาย งานประมูลนี้ไม่เหมือนกับงานประมูลที่นายเข้าร่วมในหัวเซี่ย หยิบจับอะไรขึ้นมาก็หลายล้านถึงสิบล้าน นี่ยังเป็นของแผงลอย ถ้านายต้องการแข่งขันในงาน สามสี่ล้านยังถือว่าถูกที่สุด อยากได้มาอยู่ในมือเกรงว่าต้องหลายสิบล้านขึ้นไป"
โกวหลินเทียนรู้ว่าเฉินเกอมาครั้งแรก จึงอดไม่ได้ที่จะแนะนำ
เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องเตือนเฉินเกอ มิฉะนั้นถึงเวลาเห็นของประมูลที่ถูกใจแต่ไม่มีเงิน ความรู้สึกแบบนั้นไม่ดีเอามากๆ ตอนนี้มีการเตรียมใจล่วงหน้า ถ้าเห็นราคาพวกนั้นสูงเกิน ก็ไม่ต้องพิจารณาแล้ว
"ผมรู้" เฉินเกอพยักหน้านิ่งๆ
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินโกวหลินเทียนพูดว่านี่เป็นงานประมูลที่ห้าปีมีหนึ่งครั้ง เฉินเกอก็รู้แล้วว่านี่คือเกมของคนรวย
"อืม ดูแล้วน่าจะต้องอยู่บนเรืออีกหลายชั่วโมง หลังจากที่ถึงเกาะจะมีที่พักโดยเฉพาะให้พวกเรา งานประมูลน่าจะเริ่มในเช้าวันมะรืนนี้ แต่ว่าแผงลอยจะมีในวันพรุ่งนี้ ไม่แน่อาจจะได้ดีจากที่นั่น" โกวหลินเทียนพิงขอบเรือ มองเรือหลายสิบรำที่อยู่รอบๆ แล้วพูด
เฉินเกอไม่ตอบ แต่หลับตาลง
แต่เจินชี่ในร่างกายกลับแพร่กระจายออกไป ภายใต้พระพรของเทพจิตเก้าภพ สามารถสัมผัสถึงพื้นผิวทะเลเกือบทั้งหมดในรัศมีสิบกิโลเมตร นั่นเพราะว่ามีผู้ฝึกตนมาเข้าร่วมงานประมูลไม่น้อย เฉินเกอจึงต้องระวัง
ภายใต้การรับรู้ เฉินเกอรู้ดีว่ามีผู้ฝึกตนอยู่บนเรือแทบทุกรำ พลังวิชาของพวกเขามีสูงต่ำ บางคนถึงขั้นมีพลังวิชาสูงกว่าตัวเอง แต่แข็งแกร่งกว่าตัวเองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนพวกที่ไม่มีพลังวิชา เฉินเกอก็ไม่ได้คลายความระมัดระวังของเขาเช่นกัน ใครจะรู้ว่าคนพวกนี้ไม่มีพลังวิชาจริง หรือพลังวิชาเก่งถึงจุดที่ตัวเองสัมผัสไม่ได้
หากเป็นเมื่อก่อน เฉินเกอคงไม่มีความคิดแบบนี้แน่ๆ แต่ตอนนี้ได้รู้จักกับท่านโจวและผู้อาวุโสในซากโบราณสถานอย่างต่อเนื่อง เฉินเกอก็เข้าใจว่าบนโลกนี้ยังมีผู้ฝึกตนที่มีความสามารถกว่าตัวเองไม่รู้อีกเท่าไร เพียงแต่ว่าตัวเองยังไม่มีความสามารถที่จะสัมผัสถึงจุดนั้นเท่านั้น
"พี่เฉิน คุณว่าคนหายไปเยอะขนาดนี้ จะไม่ถูกคนธรรมดาสังเกตเห็นเหรอ?" ไป๋เสี่ยวเฟยมองเรือที่อยู่รอบๆ อดไม่ได้ที่จะถาม
"ทุกครั้งที่งานประมูลเริ่ม ก็จะใช้นามต่างๆ มาปกปิด ดังนั้นต่อให้คนธรรมดาสังเกตเห็นก็ไม่สนใจ มากสุดพวกเขาแค่จะมายืนดูที่ริมฝั่ง จากที่นี่ถึงเกาะมีระยะทางอย่างน้อยหลายสิบกิโลเมตร ใช้ตาเปล่ามองไม่เห็น ยิ่งกว่านั้นคือที่นี่ยังมีทะเลหมอก"
โกวหลินเทียนเงยหน้ามองหมอกที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากไม่ไกลนักแล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง
--
หลังจากห้าหกชั่วโมงของการล่องลอย โครงร่างของเกาะได้ปรากฏขึ้นในสายตา เฉินเกอบิดขี้เกียจ สายตาลึกขึ้น
แม้นี่จะเป็นงานประมูล แต่กลับมีผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วน เฉินเกอต้องตื่นตัวอยู่เสมอ เพื่อเผชิญกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
โกวหลินเทียนเดินอยู่ด้านหน้าสุด เขาเดินตามเส้นทางที่ให้ไว้ในใบเชิญเพื่อหาที่อยู่ มองสถานการณ์รอบๆ ไปด้วย และพูดกับเฉินเกอไปด้วย
"อะไรเหรอครับ?" หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ เฉินเกอขมวดคิ้วแน่นทันที
"นายเป็นอะไร?" โกวหลินเทียนหยุดฝีเท้าแล้วถาม
"ลุงโกว ท่านหมายความว่า เกาะนี้จะปรากฏเมื่อจัดงานประมูล เวลาอื่นต่อให้ผ่านที่นี่ก็มองไม่เห็นใช่ไหมครับ?" เฉินเกอนึกถึงเกาะโยวหลงทันที
ตอนนี้ได้รู้จักกับผู้ฝึกตนเหล่านั้นของตระกูลเฉิน เขาค่อยๆ รู้สถานการณ์ของเกาะโยวหลงเล็กๆ น้อยๆ และเกาะโยวหลงกับเกาะนี้แทบจะเหมือนกัน มันมีตัวตน แต่กลับหาไม่เจอ
"อาจจะเป็นแบบนี้ แต่ก็เป็นแค่ตำนาน ท้ายที่สุดเป็นอย่างไรก็ไม่รู้" โกวหลินเทียนส่ายหัวแล้วพูด "หรือว่าก่อนหน้านี้นายเคยเห็นหมู่เกาะนี้?"
"ไม่ครับ แม้แต่งานประมูลยังเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก" เฉินเกอขมวดคิ้วแน่น ในความคิดของเขาได้รวมเกาะนี้กับเกาะโยวหลงไว้ในประเภทเดียวกัน ทั้งสองอยู่ในประเภทของเกาะที่ผิดปกติ
"พี่เฉิน คุณนึกถึงเกาะโยวหลงใช่ไหม?" ไป๋เสี่ยวเฟยรู้จักเฉินเกอ และช่วงนี้เขาก็อยู่กับเฉินเกอตลอด ตอนที่ได้ยินโกวหลินเทียนแนะนำ เขาก็นึกถึงที่นี่
"ใช่แล้ว ฉันกำลังคิดว่าระหว่างเกาะนี้กับเกาะโยวหลงมีความเกี่ยวข้องอะไรกัน ถ้าสามารถไขความลับของเกาะนี้ ไม่แน่อาจจะรู้ความลับของเกาะโยวหลงด้วย" เฉินเกอไม่ปิดบัง พยักหน้าแล้วพูด
"เกาะโยวหลงอะไร?" การพูดคุยของเฉินเกอและไป๋เสี่ยวเฟย กลับทำให้โกวหลินเทียนมึนงง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...