“1902 คือที่นี่”
พอสวีเสียมองก็ผลักประตูเปิดไป
“เจียวเจียว พวกเรามาเยี่ยมเธอแล้ว”
“ยีฟาน สวีเสีย พวกเธอมาแล้วเหรอ!” หลินเจียวกำลังกินกล้วยอยู่ มองเห็นจ้าวยีฟานกับสวีเสียมาแล้วก็ทำหน้าดีใจ
หลังจากกลับไปเป็นปกติแล้ว จึงถามไถ่อาการอะไรสักหน่อย
สุดท้ายก็คุยถึงต้นสายปลายเหตุ
“อะไรนะ!!! เฉินเกอเป็นคนช่วยเธอไว้ เจ้าตัวเขาล่ะ?”
จ้าวยีฟานกลับลุกขึ้นทันใดพร้อมถามอย่างตกใจ ทำเอาทุกคนตกใจกันไปด้วย
หากพูดว่าตอนนี้ใครอ่อนไหวกับเฉินเกอสองคำนี้เป็นพิเศษ นั่นต้องเป็นจ้าวยีฟานแน่แล้ว
เมื่อวานหลังจากที่จ้าวยีฟานกลับถึงหอพัก ในสมองไม่ได้คิดถึงคุณชายจ้าวอะไร สิ่งที่คิดไปคิดมาเพียงหนึ่งเดียวก็คือเฉินเกอ
ใจของหล่อนเจ็บมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหล่อนกลัวมาก
ถ้าเกิดเฉินเกอคือคุณชายเฉิน หล่อนควรทำอย่างไรล่ะ
พูดตามจริงจ้าวยีฟานมีความคิดอยากรีบไปจากในหอพัก พุ่งไปที่หอพักของเฉินเกอ จากนั้นกอดเฉินเกอไว้แล้วพูดขอโทษกับเขาไป คืนดีกับหล่อนเถอะ หล่อนจะดีต่อเขาอะไรทำนองนี้
ล้วนยอมทำแม้จะเสียค่าตอบแทนสูงอย่างไรก็ยอม
แต่ว่าคิดดูอีกที ถ้าเกิดเฉินเกอไม่ใช่คุณชายเฉินล่ะ เพราะตอนนี้คุณชายเฉินคือคำสรรพนามที่สลับซับซ้อนคำหนึ่ง
โอ๊ย ไม่อยากพูดแล้ว
สรุปคือทำให้จ้าวยีฟานสับสนยุ่งยากไปหมด
ดังนั้นพอได้ยินชื่อเฉินเกอ หล่อนจึงนึกอยากเจอเขาแล้วรีบถามให้กระจ่าง โดยเฉพาะหลังจากผ่านครั้งที่แล้วมา ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนยิ่งไม่มีทางแล้ว
“ยีฟาน เธอไม่เป็นไรนะ? ทำไมเธอถึงมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้?”
ทุกคนถามอย่างประหลาดใจนิดหน่อย
“อ่อๆ ฉันไม่เป็นไร ฉันก็แค่ไม่ได้เจอผู้ชายเลวคนนี้มานานมากแล้ว พอได้ยินชื่อเขาเลยโมโหนิดๆ”
จ้าวยีฟานแสร้งทำเป็นมึนงงหลอกคน หล่อนฉลาดมาก และไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อวานออกมาด้วย
“เชอะๆ ฉันก็ด้วย คาดไม่ถึงเฉินเกอจะทำกับเธอแบบนี้ น่าโมโหจริงๆ”
สวีเสียก็พูดขึ้น
“นี่ๆๆ พวกเธอพูดเรื่องอะไรกัน? ทำไมฉันฟังไม่เข้าใจ เฉินเกอผู้ชายเลวยังไง?”
หลินเจียวพูดอย่างมึนงง
“เจียวเจียวเธอพูดจริงพูดเล่น จำไม่ได้จริงๆ แล้วเหรอ?” สวีเสียพวกเธอถามอย่างกังวล
จากนั้นก็เล่าเรื่องสารพัดที่เกิดขึ้นก่อนหน้าให้หลินเจียวฟังรอบหนึ่ง
“อ่า? ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อว่าเฉินเกอจะคบกับคนอื่น”
หลินเจียวส่ายหน้าอย่างแรง
ยิ่งจ้าวยีฟานถามหลินเจียวว่าจำซูเจี๋ยได้รึเปล่า หลินเจียวยิ่งส่ายหน้าใหญ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่รู้ว่าอย่างไรกัน พอได้ยินชื่อซูเจี๋ยคนนี้ หลินเจียวยังรำคาญอยู่บ้าง
ยิ่งน่าประหลาดคือตอนนี้หล่อนเหมือนอยู่ในความมืด ได้แต่บอกตัวเองว่าเฉินเกอต่างหากที่เป็นผู้ชายที่เธอคอยตามจีบ
แปลกที่สุดเลย
จากนั้นเห็นหลินเจียวไม่อยากพูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ทุกคนจึงไม่คุยแล้ว
สำหรับจ้าวยีฟานล่ะ หล่อนเป็นผู้หญิงฉลาด มองออกว่าตอนนี้หลินเจียวเหมือนจะมีความรู้สึกต่อเฉินเกอมาก
เพราะหล่อนมักจะพูดแต่ว่าไปจากเฉินเกอไม่ได้ แถมยังถามทุกคนอีกว่าเห็นหรือเปล่า ความจริงเฉินเกอหล่อมากอะไรทำนองนี้
เหมือนตอนที่เราอยู่ต่อหน้าผู้คน มักชื่นชมแฟนตัวเองว่าหน้าตาหล่อ ยังอยากอยู่กับแฟนตัวเองความรู้สึกไม่สบายแบบนั้น
แต่ทว่าสิ่งที่น่ากังวลคือตอนนี้เฉินเกอไม่ใช่แฟนของตนเองน่ะสิ
“เฮ้อ ทำไมเฉินเกอถึงยังไม่กลับมาอีก เขาบอกว่าจะไปซื้อแอปเปิลให้ฉัน น่าจะกลับมาตั้งนานแล้วนะ?”
เวลานี้หลินเจียวอยากเจอเฉินเกอแล้ว จึงโทรศัพท์หาเฉินเกอ
ผลปรากฏว่าโทรศัพท์เฉินเกอปิดเครื่องไปแล้ว
เรื่องอะไรกัน?
ต้องมีเรื่องแน่
เพราะตอนนี้มือถือของเฉินเกอตกแตกกระจายอยู่ที่พื้นแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อสามวินาทีก่อน เฉินเกอทางนี้
หลังจากที่เขาพึ่งลงมาด้านล่าง ก็มาถึงที่แผงขายผลไม้
หลังซื้อแอปเปิลมา เตรียมสแกนจ่ายเงิน
ผลสุดท้ายทันใดนั้นถูกผู้หญิงด้านข้างคนหนึ่งไม่ระวังโดนแขนเข้าให้
“ถึงจะพูดแบบนี้ แต่พวกเราสองแม่ลูกยังต้องขอบคุณนายนะ ฉันชื่อถังหว่าน ส่วนลูกสาวชื่อถังเหมิงเหมิง”
ถังหว่านจัดเส้นผมยิ้มบอก
“ผมชื่อเฉินเกอครับ”
“เฉินเกอ วันนี้นายอย่าไปไหนอีกเลย นายมีธุระรึเปล่า? ถ้าเธอไม่มีธุระ ก็ใกล้ถึงช่วงเที่ยงแล้ว ฉันเลี้ยงข้าวนายดีไหม?”
พอมองก็รู้ว่าถังหว่านเป็นผู้หญิงที่อยู่ในสังคมมาอย่างโชกโชน ระหว่างที่ขยับเคลื่อนไหวล้วนเผยความเป็นผู้ใหญ่มีเสน่ห์น่าดื่มด่ำ
“คุณอาเฉินเกอ คุณรับปากแม่สิคะ พวกเราไปกินข้าวด้วยกันที่บ้านหนู แม่ทำอาหารอร่อยมากเลยนะคะ”
เหมิงเหมิงเขย่าแขนเฉินเกอพร้อมทั้งร้องขอ
พูดตามตรง เรื่องราวไม่มีอะไรมาก แต่ว่าเฉินเกอไม่ค่อยอยากไปเท่าไร คิดว่าการที่ตนเองช่วยคนเป็นสิ่งสมควร จะมากินข้าวอะไรกันอีก
แต่ว่าตอนนี้เหมิงเหมิงก็ขอร้องให้ตนเองไป
เฉินเกอทำให้เหมิงเหมิงผิดหวังไม่ได้ จึงพยักหน้า
“ใช่แล้วพี่ถังหว่าน ผมต้องซื้อผลไม้ไปให้เพื่อนด้วย” เฉินเกอครุ่นคิด ยังมีหลินเจียวอยู่
“คือว่าเถ้าแก่ มือถือผมพังแล้ว โอนให้ไม่ได้ คงได้แต่เงินสด”
พูดจบเฉินเกอก็ล้วงกระเป๋ากางเกง จากนั้นถึงนึกขึ้นได้ เมื่อคืนเพราะโมโหเลยรีบร้อนเกินไป กระเป๋าเงินบัตรประจำตัวอะไรล้วนลืมในแลมโบกินี
“เถ้าแก่ ทั้งหมดเท่าไร ฉันจ่ายเอง อีกอย่างเดี๋ยวคุณหาคนมาช่วยฉันส่งไปที่ห้องคนไข้เถอะ บอกเขาว่าเพื่อนเขาออกไปกินข้าวด้วยกันกับเพื่อน”
ถังหว่านยิ้มบอก “เฉินเกอ อีกอย่างมือถือของนายฉันก็จะชดใช้เครื่องใหม่ให้”
เป็นเพราะเมื่อสักครู่ถังหว่านมองออกแล้ว ดังนั้นจึงพูดแบบนี้ เฉินเกอเองเหมือนไม่ได้รีบร้อนอะไรต่อคนไข้ที่เขาไปเยี่ยมคนนั้น ต้องเป็นแค่ความสัมพันธ์ธรรมดาแน่
จึงจัดการตัดสินใจแทนเฉินเกอไปโดยตรง
และการกระทำนี้ของถังหว่าน ทำให้ในใจเฉินเกอสบายอย่างมาก
ที่จริงเขายังไม่อยากไปดูหลินเจียวที่ออดอ้อนอยู่ที่นั่นจริงๆ
“เย้ คุณอาจะไปกินข้าวที่บ้านหนูแล้ว!”
เหมิงเหมิงดึงมือของเฉินเกอ ทำท่าทางกระโดดโลดเต้นดีใจ
นั่งบนรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูซีรี่ส์7สีแดงของถังหว่าน เฉินเกอมองเห็นนามบัตรที่วางตรงกลางรถของถังหว่าน ไม่ดูยังไม่รู้ พอมองก็ตกใจไปแล้ว
ถังหว่านอายุน้อยขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทแห่งหนึ่งเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...